กรมอนามัย 9 เม.ย.-กรมอนามัย ย้ำพ่อค้า แม่ค้า เจ้าของตลาด ปฏิบัติตามคำแนะนำด้านสุขอนามัยในตลาดสด เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภคในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) กรมอนามัยได้มีข้อแนะนำการปฏิบัติภายในตลาดสด โดยขอให้เจ้าของตลาด ต้องจัดให้มีจุดคัดกรองพ่อค้า แม่ค้า ผู้บริโภค เพื่อตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ต้องดูแลสถานที่ให้สะอาดถูกสุขลักษณะด้วยการทำความสะอาดบริเวณพื้น ทางเดิน แผงจำหน่ายสินค้าอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง ด้วยน้ำผงซักฟอกหรือน้ำยาทำความสะอาด และฆ่าเชื้อโดยคลอรีนเข้มข้น
หากกรณีที่พบผู้ป่วยหรือมีความเสี่ยง ให้เพิ่มความเข้มข้นของคลอรีนในการล้างทำความสะอาด สำหรับในช่วงนี้ขอให้ล้างตลาด และฆ่าเชื้อด้วยคลอรีนเข้มข้น ทุกสัปดาห์ พร้อมจัดให้มีพื้นที่ล้างมือด้วยน้ำสะอาด และสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ และทำความสะอาดห้องน้ำ ห้องส้วม โดยเน้นบริเวณจุดเสี่ยง เช่น ที่จับสายฉีดชำระ ที่รองนั่งโถส้วม ที่กดโถส้วม โถปัสสาวะที่เปิดก๊อก อ่างล้างมือ และกลอนประตูหรือลูกบิด เป็นต้น รวมทั้งทำความสะอาดก๊อกน้ำที่ใช้ภายในตลาด มีการระบายอากาศที่เหมาะสม และควรจัดให้มีการประชาสัมพันธ์การป้องกัน COVID-19 ทางช่องทางให้ความรู้ต่าง ๆ เช่น ป้ายประชาสัมพันธ์ เสียงตามสาย เป็นต้น
“สำหรับผู้ปรุงประกอบและจำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จนั้น ควรมีการปกปิดอาหารและอุ่นอาหารทุกๆ 2 ชั่วโมงในกรณีมีการใช้อุปกรณ์สำหรับหยิบจับ หรือตักอาหาร ต้องระมัดระวังไม่ให้ส่วนของด้ามจับตก หล่นหรือสัมผัสกับอาหารเพราะอาจเกิดการปนเปื้อนของเชื้อโรคได้ หากจำหน่ายอาหารสดประเภทเนื้อสัตว์ เครื่องในสัตว์ ควรจัดให้มีคีมคีบเนื้อสัตว์ เพื่อไม่ให้ลูกค้าสัมผัสเนื้อสัตว์โดยตรง และล้างมือหลังการสัมผัสเนื้อสัตว์หรือผลิตภัณฑ์จากสัตว์ทุกครั้ง รวมถึงควรกำหนดระยะห่างระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย 1- 2 เมตรด้วย
นอกจากนี้ ผู้ที่ดูแลความสะอาดและผู้ปฏิบัติงานเก็บขยะภายในตลาดสด ขณะปฏิบัติงานให้ใช้หน้ากากผ้า สวมถุงมือยาง ผ้ายางกันเปื้อนรองเท้าพื้นยางหุ้มแข้ง และใช้ปากคีบด้ามยาวเก็บขยะ และใส่ถุงขยะ ปิดปากถุงให้มิดชิด นำไปรวบรวมไว้ที่พักขยะแล้วล้างมือให้สะอาดทุกครั้งภายหลังปฏิบัติงาน
ทั้งนี้ หากพบว่าผู้จำหน่ายอาหาร หรือผู้ปฏิบัติงานในตลาด มีอาการป่วยไข้ ไอ จาม มีน้ำมูก หรือเหนื่อยหอบต้องให้หยุดงาน และให้ไปพบแพทย์ทันที .-สำนักข่าวไทย