“ศิริโชค” โต้ “ณัฏฐ์ชนน” ไม่เคยใส่ร้ายทางการเมือง

สงขลา 8 เม.ย.-“ศิริโชค” โต้ “ณัฏฐ์ชนน” ไม่เคยใส่ร้ายทางการเมือง หลังอีกฝ่ายยอมรับไม่กักตัว 14 วันจริง เพราะจำนนต่อหลักฐาน วอนหยุดโกหก ปชช. อย่าบิดประเด็น อ้างช่วยเหลือชาวบ้าน ไม่ปฏิบัติตามกฎควบคุมโรค ทำ ปชช.เสี่ยง กระทบความปลอดภัยของสังคม


นายศิริโชค โสภา อดีต ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว โต้ นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลา พรรคภูมิใจไทย ที่ออกมายอมรับว่าไม่ได้กักตัว 14 วันจริงหลังกลับจาก กทม.ตามที่ได้มีการเปิดเผยข้อมูลไปก่อนหน้านี้ พร้อมกล่าวหาว่านายศิริโชคใส่ร้ายทางการเมือง มีเนื้อหาระบุว่า ขอให้เป็นครั้งสุดท้าย อย่าโกหกประชาชนอีกเลย หลังจากที่เงียบไปนาน วันนี้นายณัฏฐ์ชนน ได้ออกมายอมรับความจริงว่าเพิ่งกลับมาจาก กทม. ในวันที่ 27 มีนาคม 2563 เพราะจำนน ต่อหลักฐาน และก็ยอมรับอีกว่าไม่ได้กักตัว อ้างว่าแค่ไปงานเดียวที่ตนเองเป็นประธานงานศพ ซึ่งในความเป็นจริงไปอีกหลายงาน ทั้งที่ลงในเฟซบุ๊ก และไม่ได้ลงในเฟซบุ๊ก สัมผัสประชาชน โดยที่ใส่หน้ากากและไม่ใส่หน้ากาก ดังนั้นไม่ถือเป็นการใส่ร้ายแต่เป็นการ แสดงข้อเท็จจริง ดังนั้นอย่าพยายามบิดเบือนว่าเป็นเรื่องการเมือง เพราะเป็นเรื่องความปลอดภัยของสังคม ซึ่งการกักตัวเป็นมาตรการที่สกัดกั้นโรคโควิด-19 ได้ดีที่สุด และเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายได้รณรงค์มาตลอด

“การตรวจ คัดกรอง วัดอุณหภูมิ ที่คุณณัฏฐ์ชนน อ้างนั้น ถ้าแก้ไขปัญหาได้จริง รัฐบาลคงไม่ต้องประกาศเคอร์ฟิว ปิดเมือง และกักตัวประชาชน คนที่ติดเชื้อส่วนใหญ่ไม่มีอาการ จึงต้องมีการกักตัว 14 วัน แม้กระทั่งคนที่ไปตรวจแล้วไม่พบเชื้อโควิด-19 กรณี รมช.ถาวร เสนเนียม ก็ยังต้องกักตัวหากมาจากพื้นที่เสี่ยง ไม่เว้นว่าท่านจะใหญ่แค่ไหน หรือมีตำแหน่งอะไร ในยามวิกฤติ เราเรียกร้องความร่วมมือจากประชาชน คนที่เป็นผู้แทนยิ่งต้องปฏิบัติตนให้เป็นแบบอย่าง เพราะไม่ใช่เรื่องความปลอดภัยส่วนบุคคล แต่เป็นความปลอดภัยของสังคม ถ้าคุณณัฏฐ์ชนน ยังทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย แล้วท่านจะไปขอความร่วมมือจากประชาชนได้อย่างไร พวกผมและพรรคประชาธิปัตย์พร้อมให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงาน ในการแก้ไขปัญหาโควิด-19 แต่เราต้องอยู่บนพื้นฐานความจริง อย่าปกปิดข้อมูลที่มีผลกระทบต่อความปลอดภัยของสังคม และเมื่อนั้น เราจะก้าวข้ามวิกฤติไปด้วยกัน” นายศิริโชค ระบุ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าจะเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม