กรุงเทพฯ 8 เม.ย. – รมว.คมนาคมแจงผู้บริหารรถไฟรายงานแล้ว หลังมีช่างโรงงานมักกะสันติดเชื้อโควิด 19 โดยวันนี้กรมควบคุมโรคจะร่วมกับโรงพยาบาลรถไฟฯ ลงสอบโรค ขณะที่สหภาพฯ รฟท.ระบุต้องกักตัวช่าง 20-30 คน พร้อมจี้ฝ่ายบริหารตัดสินใจปิดโรงงานมักกะสันชั่วคราว
ผู้สื่อข่าวรายงานหลังจากเมื่อวานที่ผ่านมามีรายงานพบพนักงานการรถไฟอีก 1 ราย ตำแหน่งช่างซ่อมฝีมือระดับ 6 ฯ สังกัดฝ่ายซ่อมส่วนล่างรถดีเซลรางฯ ปฏิบัติหน้าที่ในโรงงานมักกะสันมีผลการตรวจของแพทย์ยืนยันว่าเป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19
ล่าสุดนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ส่งพนักงานคนดังกล่าวเข้ารับการรักษาและกักตัวที่โรงพยาบาลจุฬาฯแล้ว ซึ่งขณะนี้ได้ประสานกรมควบคุมโรคและโรงพยาบาลบุรฉัตรไชยากร (โรงพยาบาลการรถไฟฯ) เพื่อส่งเจ้าหน้าที่ลงไปสอบสวนโรคในพื้นที่ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ประสานงานกับ กทม.ให้มาฉีดยาฆ่าเชื้อที่บริเวณบ้านพักและที่ทำงานของผู้ป่วยแล้ว รวมทั้งเจ้าหน้าที่จากกรมควบคุมโรคและโรงพยาบาลรถไฟฯ กำลังตรวจสอบคนที่ทำงานใกล้ชิดในรอบ 14 วันกับผู้ป่วย และพบว่าพนักงานรายดังกล่าวยังมาทำงานเมื่อวันศุกร์ที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา และรักษาการผู้ว่าฯ รฟท. ระบุในรายงานให้ทราบด้วยว่าเบื้องต้นสันนิษฐานว่าช่างรถไฟคนดังกล่าวน่าจะติดเชื้อมาจากเพื่อนที่อาศัยบ้านเดียวกัน ซึ่งตรวจพบเชื้อเช่นกันก่อนหน้านี้
ด้านนายสาวิทย์ แก้วหวาน ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ รฟท. กล่าวว่า คาดว่าจากการสอบโรคครั้งนี้อาจต้องกักตัวเพื่อนร่วมงานของพนักงานรายดังกล่าว 20-30 คน เนื่องจากเป็นผู้ปฏิบัติงานใกล้ชิดในพื้นที่เดียวกัน และขอเรียกร้องไปยังฝ่ายบริหาร รฟท.ตัดสินใจทำการปิดโรงงานมักกะสันชั่วคราว เพื่อทำการฆ่าเชื้อ กักกันโรคพนักงานที่อาจเป็นกลุ่มเสี่ยงในช่วงเวลานี้ เนื่องจากปัจจุบันรถไฟหยุดเดินรถเชิงพาณิชย์และรถอื่น ๆ เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว ทำให้ขณะนี้โรงงานมักกะสันไม่มีงานซ่อมใหญ่เหลือเพียงงานซ่อมเล็กน้อยรายวันเท่านั้น จึงเป็นช่วงเวลาที่มีความเหมาะสมที่จะเร่งรัดดำเนินการทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะนี้ประเด็นที่พบผู้ติดเชื้อเป็นพนักงานรถไฟ 2 ราย และ 1 รายเสียชีวิตไปก่อนหน้านี้จากโควิด-19 สร้างความวิตกกังวลแก่พนักงาน โดยส่วนใหญ่ออกมาเรียกร้องถึงฝ่ายบริหารขอให้ตัดสินใจเด็ดขาดในการแก้ปัญหาและดูแลสวัสดิภาพด้านสุขภาพของพนักงาน เพื่อป้องกันการระบาดของโควิด-19 ให้ดีกว่าในปัจจุบัน.-สำนักข่าวไทย