กรุงเทพฯ 7 เม.ย. – สภาผู้ส่งออกเห็นพ้อง กนง.ปรับเป้าส่งออกปีนี้ติดลบร้อยละ 8 พร้อมจับตาผลกระทบจะมากกว่านี้หรือไม่
นางสาวกัณญภัค ตัณติพิพัฒน์พงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย หรือสภาผู้ส่งออก เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบทั่วโลกและกระทบภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศต่าง ๆ ทำให้ความต้องการสินค้าลดลง สภาผู้ส่งออกจึงปรับประมาณการส่งออกปีนี้เป็นติดลบร้อยละ 8 ซึ่งเป็นตัวเลขส่งออกระดับเดียวกันกับคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประมาณการเอาไว้ อย่างไรก็ตาม ตัวเลขส่งออกจะติดลบมากหรือน้อยกว่านี้หรือไม่ ทางสภาผู้ส่งออกจะติดตามผลการใช้มาตรการอัดฉีด เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศต่าง ๆ ในภาพรวมทั่วโลก หากมาตรการเพียงพอเศรษฐกิจไม่ถดถอยมากก็จะไม่ทำให้การส่งออกของไทยติดลบไปมากกว่านี้ แต่การแพร่ระบาดยังไม่มีทีท่าจะบรรเทาลง การส่งออกอาจมีโอกาสติดลบตัวเลข 2 หลักได้ หากติดลบตัวเลข 2 หลักจริงก็จะเป็นการส่งออกต่ำสุดในรอบ 10 ปี
ทั้งนี้ สภาผู้ส่งออกยังพบว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้การบริโภคตามร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า และกลุ่มโฮเรก้าลดลง แต่ธุรกิจปรับตัวหันมาทำธุรกิจ E-Commerce มากขึ้น สำหรับเงินบาทที่อ่อนค่าลงขณะนี้เพียงช่วยพยุงไม่ให้การส่งออกเลวร้ายลงไปมากกว่านี้เท่านั้น แต่ไม่สามารถพยุงการส่งออกให้กลับมาเป็นบวกได้ ด้านราคาน้ำมันที่ลดลงช่วยทำให้ต้นทุนขนส่ง ต้นทุนการผลิตไม่เลวร้าย เพราะเป็นตัวช่วยให้สามารถประคองตัวไปได้ อีกปัจจัยลบรุนแรงนอกจากโควิด-19 และเกิดซัพพลายเชนดิสรัปชั่น ขณะนี้ คือ ภัยแล้งกระทบสินค้าเกษตรและเกษตรอุตสาหกรรม หลายอุตสาหกรรมมีปัญหาวัตถุดิบที่จะป้อนสู่กระบวนการผลิตค่อนข้างมาก กระทบเกษตรกรรากหญ้าที่ผลผลิตป้อนสู่ตลาดน้อย ส่งโรงงานน้อยลงด้วย
นางสาวกัณญภัค กล่าวว่า ขณะนี้ภาพรวมการบริโภคในประเทศชะลอตัวลงมาก เนื่องจากการรณรงค์ประชาชนอยู่กับบ้าน เหลือการลงทุนภาคเอกชนแต่ก็ต้องชะลอการลงทุนไปเช่นกัน ด้านการลงทุนภาครัฐ ซึ่งนายกรัฐมนตรีตัดงบลงร้อยละ 20 เพื่อนำมาเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างไรก็ตาม ด้านการลงทุนภาครัฐแม้อาจชะลอลงช่วงนี้ แต่อยากให้ลงทุนต่อไป และสิ่งที่สภาผู้ส่งออกเห็นว่า จำเป็นมากและเป็นข้อเสนอแนะ คือ การช่วยให้ภาคธุรกิจกลับมาทำธุรกิจได้อีกครั้ง หลังจากผ่านพ้นภาวะการแพร่ระบาดของโควิด-19.-สำนักข่าวไทย