ธ.ก.ส.ห่วงผู้สูงอายุ แนะถอนเงินเบี้ยยังชีพผ่านเอทีเอ็ม

กรุงเทพฯ 5 เม.ย. – ธ.ก.ส. ห่วงใยผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 วอนงดการติดต่อถอนเงิน ค่าเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่เคาน์เตอร์สาขา ชี้ควรถอนเงินผ่านตู้เอทีเอ็ม สำหรับผู้ที่ไม่มีบัตรเอทีเอ็มเตรียมประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำหนดจุดนัดหมายให้บริการถึงพื้นที่


นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ธ.ก.ส.ได้ให้บริการจ่ายเงินสวัสดิการให้กับหน่วยงานภาครัฐเข้าบัญชีผู้ได้รับการช่วยเหลือโดยตรง เช่น เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เบี้ยความพิการ เงินค่าป่วยการอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เป็นต้น ดังนั้น ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพและความปลอดภัยของประชาชน ธ.ก.ส.จึงขอความร่วมมือลูกค้าซึ่งเป็นผู้สูงอายุและถือเป็นกลุ่มเสี่ยงมากที่สุดหลีกเลี่ยงการมาติดต่อถอนเงินค่าเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่เคาน์เตอร์สาขาเพื่อความปลอดภัย ทั้งนี้ หากยังไม่มีความจำเป็นสามารถเก็บเงินดังกล่าวไว้ในบัญชีโดยได้รับดอกเบี้ย หรือสามารถใช้บริการถอนเงินผ่านตู้เอทีเอ็มหรือช่องทางอื่น ๆ เช่น การถอนเงินแบบไม่ใช้บัตรผ่านแอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile รวมถึงการโอนเงินหรือชําระค่าสินค้าและบริการต่าง ๆ ได้ 

สำหรับลูกค้าที่ไม่มีบัตรเอทีเอ็ม บัตรเดบิต หรือแอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile  ธ.ก.ส.สาขาจะแจ้ง นัดหมายวันที่สามารถมาเบิกถอนเงินดังกล่าว เพื่อลดปริมาณผู้มาใช้บริการที่สาขา อีกทั้งประสานกับฝ่ายปกครองในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด นายอําเภอ กํานัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต. และส่วนงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยประชาสัมพันธ์และนัดหมายเป็นการเฉพาะ เช่น อาจกำหนดจุดบริการในพื้นที่ เพื่ออำนวยความสะดวก พร้อมบริหารจัดการตามหลักการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) เพื่อลดความแออัดและป้องกันการแพร่ระบาด


ทั้งนี้ ธ.ก.ส.ห่วงใยในสุขภาพและความปลอดภัยของลูกค้าทุกท่าน และขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน โปรดระมัดระวังมิจฉาชีพแอบอ้างขอรหัสผ่านเอทีเอ็ม หรือเลขที่บัตรประชาชน รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ Call Center 02 555 0555.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ฝุ่น กทม.

คนกรุงจมฝุ่นต่อเนื่อง เช้านี้อยู่ระดับสีแดง 21 พื้นที่

กทม. อ่วมหนัก ฝุ่น PM 2.5 พุ่งต่อเนื่อง อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 21 พื้นที่ ย้ำสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่นอกอาคาร และงดกิจกรรมกลางแจ้ง