อนุทินขอประชาชนร่วมมือเพื่อให้สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว

นครปฐม 5 เม.ย. – “อนุทิน” ตรวจเยี่ยม ศูนย์ประสานงานดูแลคนไทยฯ นครปฐมชื่นชมกองทัพอากาศสนับสนุนรัฐจัดหาที่พักสำหรับกักกันโรคให้คนไทยที่กลับจากต่างประเทศขอประชาชนร่วมมือเพื่อให้สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เดินทางไปตรวจเยี่ยม State Quarantine ณ ศูนย์ประสานงานดูแลคนไทยในพื้นที่เฝ้าระวังโรค COVID-19 โรงเรียนการบิน อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม โดยมีพลอากาศตรี ไวพจน์ เกิงฝาก ผู้บัญชาการโรงเรียนการบิน ให้การต้อนรับ สำหรับศูนย์ประสานงานดังกล่าวจัดตั้งขึ้นตามมาตรการรองรับคนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศเสี่ยงต่อการติดเชื้อและแพร่ระบาดของโรค 

นายอนุทิน ได้กล่าวขอบคุณและชื่นชมกองทัพอากาศ ที่สนับสนุนรัฐบาลในการจัดที่พักสำหรับกักกันโรคให้กับคนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศด้วยความตั้งใจ มีความสะอาด ปลอดภัย และสะดวกสบาย ทำให้ผู้พักอาศัยไม่รู้สึกเครียด หรือสูญเสียอิสรภาพแต่อย่างใด พร้อมทั้งขอให้ประชาชนให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อให้สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว อีกทั้งยังได้มอบหน้ากากอนามัยจำนวน 2,000 ชิ้น ให้แก่โรงเรียนการบินไว้ใช้ประโยชน์ต่อไปด้วย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับศูนย์ประสานงานดูแลคนไทยฯ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงกลาโหม เป็นหน่วยหลักในการจัดพื้นที่ควบคุมโรคที่รัฐบาลกำหนด (State Quarantine) ไว้รองรับผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง กองทัพอากาศ เลือกใช้พื้นที่บ้านพักรับรอง 5 โรงเรียนการบิน อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม ซึ่งมีความพร้อมของสิ่งอำนวยความสะดวก สถานที่ตั้งห่างจากชุมชน สามารถส่งกำลังบำรุงได้สะดวก รวมทั้งมีหน่วยด้านการแพทย์ที่สามารถรองรับผู้ป่วยหนักได้ ด้านในมีอาคารที่พักรับรองทั้งหมด 6 อาคาร รองรับผู้เข้าพักได้สูงสุด 154 คนมีมาตรการรักษาความปลอดภัย ติดตั้งรั้วรอบขอบชิด พร้อมติดตั้งระบบกล้อง CCTV ระบบเสียงทางสายและระบบโทรศัพท์ แบ่งพื้นที่เป็น 3 ส่วน ประกอบด้วยโซนสีแดง เป็นที่พักของผู้มีความเสี่ยงติดเชื้อและที่พักแพทย์พยาบาล โซนสีเหลือง ใช้ถนนโดยรอบเป็นแนวกันชน โซนสีเขียว เป็นพื้นที่ปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งโรงเรียนการบินดำเนินการปิดกั้นห้ามบุคคลและยานพาหนะผ่านรอบพื้นที่ควบคุมโรค โดยขณะนี้ (สถานะเมื่อ 5 เมษายน 2563) มีผู้เข้าพักเพื่อเฝ้าระวัง จำนวน 75 คน ทั้งหมดเป็นคนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศอินโดนีเซีย โดยรับตัวเข้าพักเมื่อวันที่ 2 และ 3 เมษายน 2563.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สาวซิ่งรถหรูชนท้าย จยย. ทำแม่ลูกดับ 3 ศพ

แม่ขี่ จยย.ไปรับลูก 2 คน กลับจากเรียนพิเศษ ถูกสาวขับรถหรูซิ่งชนท้าย ร่างกระเด็นตกสะพานข้ามรางรถไฟ เสียชีวิตทั้ง 3 คน ส่วนผู้ก่อเหตุอุ้มแมว ทิ้งรถ หลบหนีไป

ปิดล้อมล่ามือปืนคลั่งสังหาร 3 ศพ

ตำรวจเร่งไล่ล่ามือปืนคลั่งก่อเหตุยิง 3 ศพ ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ล่าสุดปิดล้อมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ รอยต่อ จ.เลย หลังพบเบาะแสคนร้ายหนีไปซ่อนตัว ขณะที่ชนวนสังหารยังไม่แน่ชัด

ลูกชายมือปืนคลั่งยิง 3 ศพ พาครอบครัวหนีตาย พ่อโพสต์ขู่ฆ่าล้างครัว

ลูกชายมือปืนคลั่งยิงดับ 3 ศพ ต้องพาภรรยาและลูก รวมถึงพ่อตา-แม่ยาย หนีไปอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังพ่อโพสต์ข้อความขู่จะฆ่าล้างครัว เหตุจากปัญหาในครอบครัว

ชายคลั่งยิง3ศพ

ชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ โผล่วัดที่ จ.เลย ขอข้าวกิน ก่อนหนีเข้าป่า

แม่ครัววัดภูคำเป้ ต.ผาสามยอด อ.เอราวัณ จ.เลย เผยพบชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ เดินเข้ามาในวัดด้วยสภาพอิดโรย ขอข้าวกิน ลักษณะรีบกินเหมือนวิตกกังวล หลังกินเสร็จรีบเดินเข้าป่าหายไป ก่อนมาทราบภายหลังว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต

ข่าวแนะนำ

สงขลาประกาศเขตภัยพิบัติแล้วทุกอำเภอ เร่งช่วยน้ำท่วมวิกฤติ

ผู้ว่าฯ สงขลา ลงนามประกาศให้ทั้ง 16 อำเภอ เป็นเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินอุทกภัยและวาตภัย เพื่อเร่งรัดให้ความช่วยเหลือประชาชน บรรเทาความเดือดร้อน โดย อ.จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย ยังมีระดับน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้น

จ.ยะลา น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบหลายสิบปี

จ.ยะลา โดยเฉพาะ อ.เมือง ปีนี้น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบหลายสิบปี และวันนี้ (28 พ.ย.) น้ำยังขยายวงกว้างอีกหลายจุด ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมากกว่า 120,000 คน ถนนถูกน้ำท่วมแล้ว 158 สาย ใน 8 อำเภอ 58 ตำบล

ศาลไม่ให้ประกันเมีย-ลูก “หมอบุญ” ชี้ความเสียหายสูง หวั่นหลบหนี

ศาลอาญาไม่ให้ประกันภรรยา-ลูก “หมอบุญ” ชี้การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ความเสียหายสูง เกรงหลบหนี ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ส่วนปมปลอมลายมือชื่ออยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์

มือยิง 3 ศพ ขอโทษ-สำนึกผิด อ้างบันดาลโทสะ

ตำรวจแถลงข่าวจับกุม “สามารถ” ผู้ต้องหายิง 3 ศพ ในพื้นที่ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู หลังจากติดต่อมอบตัว พร้อมยอมรับผิด ขอโทษญาติผู้เสียชีวิต อ้างบันดาลโทสะจึงก่อเหตุ และไม่มีอาการคลั่งตามที่เป็นข่าว