กรุงเทพฯ 2 เม.ย.-การรถไฟฯ ชี้แจงทาร์มไลน์เดินทางผู้โดยสารที่เสียชีวิตบนขบวน 37 จาก COVID-19 พร้อมมาตรการกักตัวพนักงาน-ตำรวจรถไฟ 11 คน และตามหา 15 ผู้โดยสารที่ร่วมโบกี้เดียวกันกับผู้เสียชีวิต
นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า กรณีผู้โดยสารอายุ 57 ปีเดินทางและเสียชีวิตบนขบวนรถด่วนพิเศษทักษิณที่ 37 วันที่ 30 มีนาคม 2563 คันที่ 4 เลขที่ 28 นำศพชันสูตรที่โรงพยาบาล อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เวลา 22.30 น.
การสอบสวนของ รฟท.เบื้องต้นพบว่าผู้เสียชีวิตมีใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลประเทศปากีสถาน ออกเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2563 เวลา 18.13 น. เดินทางโดยเครื่องบินเข้าไทย ผู้โดยสารซื้อตั๋วโดยสารดังกล่าววันที่ 29 มีนาคม 2563 เวลา 10.27 น. ที่สถานีชุมทางบางซื่อ เพื่อที่จะเดินทางวันที่ 30 มีนาคม 2563
ต่อมาวันที่ 30 มีนาคม 2563 ผู้โดยสารขึ้นรถไฟตามตั๋วโดยสารที่สถานีบางซื่อ ขณะเดินทางมีอาการไอ และอาเจียน เมื่อขบวนรถถึงสถานีหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่สถานีหัวหินนำเจ้าหน้าที่จุดคัดกรองของเทศบาลหัวหิน ขึ้นตรวจสอบผู้โดยสารบนขบวนรถ ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายได้ 36 องศาเซลเซียส ไม่มีอาการไอหรืออาเจียนแล้ว และแนะนำให้ผู้โดยสารลงพักรักษาตัวที่สถานีหัวหิน แต่ผู้โดยสารยืนยันจะเดินทางต่อ
จนกระทั่งเวลาประมาณ 22.15 น. เจ้าหน้าที่บนขบวนรถพบผู้โดยสารดังกล่าว ล้มนอนอยู่บริเวณหน้าห้องน้ำ จึงแจ้งและหยุดขบวนรถที่สถานีทับสะแก เจ้าหน้าที่สถานีทับสะแกแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยท้องถิ่นขึ้นทำการช่วยเหลือ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยท้องถิ่นว่าผู้โดยสารเสียชีวิตแล้ว จึงทำการปลดรถโดยสารคันดังกล่าวออกจากขบวนที่สถานีทับสะแก และย้ายผู้โดยสาร 15 คน โดยสารกับตู้อื่น เพื่อรอพนักงานสอบสวนดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมาย เจ้าหน้าที่ทำการชันสูตรพลิกศพแล้วนำศพส่งชันสูตรหาสาเหตุการตายที่โรงพยาบาลทับสะแก และเมื่อวานนี้ (1 เม.ย.) สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลามีหนังสือแจ้งว่าผู้โดยสารเดินทางกับขบวนรถด่วนพิเศษ 37 วันที่ 30 มีนาคม 2563 เป็นผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19
ทั้งนี้ ล่าสุดการรถไฟฯ ได้ดำเนินการตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุขร่วมกับนายอำเภอ และสาธารณสุขอำเภอทับสะแก ทำความสะอาดและพ่นยาฆ่าเชื้อภายในรถโดยสารคันดังกล่าวครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2563 อบยาก่อนทำความสะอาด และพ่นยาฆ่าเชื้อโรคครั้งที่ 2 อีกครั้งก่อนออกให้บริการ รวมทั้งดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรค โดยการแจ้งรายชื่อผู้โดยสารร่วมในรถคันดังกล่าว 15 คน ให้สาธารณสุขจังหวัดสงขลาติดตามตัว
ขณะเดียวกันได้กักตัวพนักงานที่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดผู้เสียชีวิต ได้แก่ พนักงานสถานีรถไฟชุมทางบางซื่อ 2 นาย พนักงานรักษาความปลอดภัยของเอกชน 1 นาย พนักงานขบวนรถ 7 นาย ตำรวจรถไฟประจำขบวน 1 นาย ก่อนทำความสะอาดฆ่าเชื้อที่สถานีชุมทางบางซื่อ และสถานีทับสะแก เรียบร้อยแล้ว
สำหรับมาตรการป้องกันโควิด-19 นั้น การรถไฟฯ ได้มีการคัดกรองการตรวจวัดอุณหภูมิก่อนใช้บริการที่สถานีรถไฟทุกครั้ง หากพบอุณหภูมิสูงกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ขอให้ผู้โดยสารหลีกเลี่ยงการเดินทาง หากจําเป็นต้องเดินทางขอให้มีใบรับรองแพทย์แสดง และกรอกแบบประเมินและรับรองตนเองเพื่อคัดกรองและยืนยันตนก่อนการเดินทาง นอกจากนี้ ได้ขอความร่วมมือกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อ เช่น ผู้ใช้บริการที่มีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป กลุ่มคนที่มีโรคประจําตัว และกลุ่มเด็กเล็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปีลงมา ควรงดการเดินทาง .-สำนักข่าวไทย