“วิษณุ” ชี้หากประชาชนไม่ร่วมมือรัฐ เตรียมใช้มาตรการเข้ม

ทำเนียบฯ 30 มี.ค.-ศบค.แถลงสถานการณ์โควิด-19 “วิษณุ” รองนายกฯ ชี้หากประชาชนไม่ร่วมมือรัฐ เตรียมใช้มาตรการเข้ม ย้ำปรับรูปแบบส่งหน้ากากอนามัยใหม่ เน้นส่งให้เฉพาะ สธ. และ มท.เท่านั้น


นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี แถลงผลผลการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค.เป็นประธาน ว่า หลังจากมีการประกาศ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ถือว่ามีผลเป็นที่น่าพอใจในระดับหนึ่ง แต่เมื่อเทียบกับตัวเลขของผู้ติดเชื้อ ก็ยังไม่พอใจ จึงขอความร่วมมือประชาชนให้ความร่วมมือ อยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ ไม่เช่นนั้นรัฐบาลอาจต้องนำไปสู่มาตรการที่รุนแรงขึ้น เนื่องจากเห็นว่าวันเสาร์-วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ยังคงมีการใช้รถใช้ถนนออกนอกบ้าน กิจกรรมสังสรรค์บางประเภทก็ยังมีอยู่ แม้จะเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์

“วันนี้ได้ขอความร่วมมือไปยังสถานีโทรทัศน์ทุกช่องให้ยกเลิกการถ่ายทอดสดการชกมวย เพราะแม้ว่าจะไม่มีคนดู แต่ก็ยังคงอันตรายต่อนักมวย และคนที่ติดตามเชียร์อยู่ทางบ้าน อาจมีการรวมตัวกันเชียร์และมีกิจกรรมดื่มสุราร่วมกัน จึงขอให้งดกิจกรรมดังกล่าวทั้งหมด กิจกรรมที่มีประชาชนแจ้งทางสายด่วน คือ การแข่งเรือเจ็ทสกีในแม่น้ำเจ้าพระยา, วินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ซึ่งมีความเสี่ยง ต้องใส่หน้ากาก, การใส่บาตรพระโดยเฉพาะ การจกข้าวเหนียวใส่บาตร ซึ่งอันตรายอย่างมาก, การทำวัตรเช้า-เย็น ที่ต้องนั่งรักษาระยะห่างในวัดที่มีความแออัด, กองถ่ายทำภาพยนตร์ที่มีการรวมตัวของคน ควรมีมาตรการที่เข้มข้น” นายวิษณุ กล่าว


นายวิษณุ กล่าวด้วยว่า ที่ประชุม ศบค.ยังได้หารือถึงการแจกจ่ายหน้ากากอนามัย โดยขอชี้แจงให้ประชาชนทราบว่าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ขอให้ลบภาพหน้ากากในสตอก 200 ล้านชิ้น เพราะบางส่วนเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อน ขอชี้แจงให้เข้าใจตรงกันว่ากำลังการผลิตของประเทศในขณะนี้มี 11 โรงงาน สามารถผลิตได้ 2,300,000 ชิ้นต่อวัน ทางรัฐบาลมีการบริหารจัดการ ด้วยการจัดแผนบริหารจัดการรายวัน โดยเริ่มตั้งแต่วันนี้ (30 มี.ค.) เป็นต้นไป คือ หน้ากากจะถูกแบ่งเป็น 2 ทาง ซึ่งบริษัทไปรษณีย์ไทยจะมีรถ 40 คัน ส่งตรงจากโรงงานไปยัง 2 เส้นทาง เส้นทางแรก สายกระทรวงสาธารณสุข จะได้รับหน้ากาก 1,300,000 ชิ้น ส่งให้บุคลากรทางการแพททย์ทั่วประเทศแจกรายจังหวัด ส่งตรงไปยังโรงพยาบาลประจำจังหวัด แพคละ 1,000 ชิ้น เส้นทางที่ 2 คือ กระทรวงมหาดไทย รถจะนำไปส่งยังผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้ง 76 จังหวัด รวมกรุงเทพมหานคร โดยจะแจกให้กับ อสม. เจ้าหน้าที่บริการประชาชน เจ้าหน้าที่อำเภอ ศูนย์ดำรงธรรม เจ้าหน้าที่บริการที่มีความเสี่ยง พนักงานจขนขยะ ตำรวจ ทหาร และกลุ่มเสี่ยง ผู้สูงอายุ เด็ก เป็นต้น

“ทั้งหมดนี้ยังไม่มีแจกประชาชนและส่งไปยังร้านค้า ขอให้ประชาชนอดทน ไป 1 เดือน เพราะจะส่งแบบนี้ทุกวันไปยัง 2 เส้นทางเพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่จำเป็นเร่งด่วนได้ใช้ก่อน ส่วนการส่งออกไปต่างประเทศ ขณะนี้มีเพียง 3 เงื่อนไข คือ ส่งออกเพราะมีนโยบายของการส่งเสริมการส่งออก หรือบีโอไอ แต่สามารถใช้ ม.47 สั่งห้ามส่งออกได้ เงื่อนไขที่ 2 คือ ส่งเพราะเงื่อนไขทรัพย์สินทางปัญญาที่ส่งวัสดุมาจ้างไทยผลิต เงื่อนไขที่ 3 คือ FTA ระหว่างประเทศต่อกัน” นายวิษณุ กล่าว

นายวิษณุ กล่าวถึงการนำเข้าหน้ากากอนามัย ขณะนี้ยกเว้นภาษีการนำเข้าเป็นศูนย์ ส่วนยาเวชภัณฑ์และเครื่องตรวจต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการแก้ไขกฎหมายยกเลิกการเก็บภาษีในช่วงเวลานี้ สำหรับหน้ากาก N95 เวชภัณฑ์ จำเป็นที่ต้องตรวจ อย.จะใช้เวลาตรวจไม่เกิน 1 วัน กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ใช้เวลาไม่เกิน 5 วัน


ส่วนการจำหน่ายไข่ไก่เกินราคา นายวิษณุ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์จะเพิ่มความเข้มข้นตั้งแต่ต้นทาง คือ ฟาร์ม พ่อค้าคนกลาง จะควบคุมราคาและห้ามส่งออก ดังนั้น เมื่อไม่มีการส่งออก ประเมินว่าอีกไม่กี่วันไข่ไก่จะล้นตลาด จึงขอความร่วมมือประชาชนอย่ากักตุน

“ขอย้ำว่าจากนี้ขอไม่ให้มารวมตัวกันและชุมนุมกัน การประชุมบางอย่างสามารถเลื่อนได้ และการประชุม ครม.จะประชุมผ่านเทเลคอนเฟอเรนซ์ ส่วนกรณีพรรคการเมืองที่ต้องมีการประชุมใหญ่วิสามัญ กกต.อยู่ระหว่างการพิจารณา ขอให้รอการชี้แจงต่อไป” นายวิษณุ กล่าว

ส่วนคนไทยที่จะเดินทางกลับจากต่างประเทศ นายวิษณุ ยืนยันว่า ข่าวที่ระบุว่ากระทรวงการต่างประเทศจะจัดเครื่องบินไปรับที่อิตาลี 7,000 คน ไม่เป็นความจริง ยอมรับบางประเทศอยู่ระหว่างประสานจะมารับประชากรของประเทศนั้น ๆ กลับ เบื้อต้นประสานมา 7 ประเทศด้วยกัน

ด้านนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการปิดด่านพรมแดนเข้า-ออกทางบกของประเทศไทย จะส่งผลให้คนไทยเดินทางกลับประเทศไทยได้หรือไม่นั้น ยืนยันว่า ไม่ว่าคนไทยจะอยู่ที่ไหน สามารถเดินกลับประเทศไทยได้ เพียงแต่ต้องดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนด คือ ต้องมีหนังสือรับรองการเดินทางกลับไทยโดยสถานทูตฯ หรือ สถานกงสุลใหญ่ออกให้ และต้องมีใบรับรองแพทย์ ยืนยันว่ามีสุขภาพพร้อมจะเดินทาง แต่หากเดินทางด้วยอากาศยานต้องผ่านจุดคัดกรองที่สนามบิน และถ้าพบมีไข้ ต้องเข้ารับการตรวจรักษาทันที และเพื่อสร้างความมั่นใจ ทุกคนที่เดินทางกลับเข้าประเทศจะต้องถูกกักตัวเพื่อเฝ้าดูอาการตามข้อกำหนด

นายฉัตรชัย กล่าวอีกว่า ส่วนระดับท้องที่จะต้องมีการลงทะเบียน หากเดินทางเข้าพื้นที่แต่ละจังหวัด ทั้งนี้  กระทรวงมหาดไทยได้ใช้ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข ประกอบการพิจารณาในแต่ละจังหวัด โดยล่าสุดผู้ว่าราชการจังหวัด คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อระดับจังหวัด ได้สั่งปิดการเข้า-ออก จ.ยะลา , ปัตตานี , นราธิวาส และหยุดระบบขนส่งทั้งหมด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19  พร้อมขอบคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมือ โดยขณะนี้มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและ อสม. ปฏิบัติงานอย่างเข้มข้นถึง 1.2 ล้านคน

อย่างไรก็ตาม ช่วงท้ายของการแถลงข่าว สื่อมวลชนได้สอบถามข้อเท็จจริที่ระบุว่า มีเจ้าหน้าสาธารณสุขติดเชื้อโควิด 19 และมาทำงานที่ทำเนียบฯ จริงหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด -19 (ศบค.) ยอมรับว่า มีเจ้าหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุขติดเชื้อโควิด-19 เป็นชาย อายุ 46 ปี โดยเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ประสานงาน และมีการเข้า-ออก ศูนย์ ศบค. รวมถึงเข้าร่วมประชุมหลายคณะและหลายสถานที่ แต่ไม่ได้ประจำอยู่ที่ทำเนียบฯ ซึ่งทีมสอบสวนโรค พบว่ามีอาการตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม มีน้ำมูก อาการคล้ายหวัดภูมิแพ้ แต่ไม่มีไข้ โดยมีการยืนยันติดเชื้อเมื่อคืนที่ผ่านมา (29 มี.ค.) และได้กักตัวเองแล้ว พร้อมเข้ารักษาที่สถาบันบำราศนราดูร ขณะเดียวกันผู้ที่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิด ส่วนใหญ่เป็นบุคลากรของกระทรวงสาธารณสุข ประมาณ 30 คน ได้สั่งให้กักตัวเองเพื่อดูอาการแล้ว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวด้วยว่า ส่วนที่ทำเนียบฯ มีเจ้าหน้าที่ที่ทำงานร่วมกันบ้าง แต่พบว่าทุกคนมีการป้องกันตนเองเป็นอย่างดี จึงถือว่ามีความเสี่ยงต่ำ แต่ก็ให้ตรวจสอบตนเองด้วย ให้สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งและรักษาระยะห่างทางสังคม ซึ่งหากมีอาการเสี่ยงให้ไปพบแพทย์ ทั้งนี้ หากผู้สัมผัสใกล้ชิดไม่มีอาการ ถือว่าอยู่ในวงจำกัดได้ แต่หากมีอาการ กระทรวงสาธารณสุขจะต้องดูแลอย่างเข้มข้นต่อไป พร้อมกันนี้ ยืนยันไม่มีผู้บริหารระดับสูงมีความเสี่ยงติดเชื้อ หรือมีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นห่วงและขอให้ทุกคนดูแลตนเองอย่างดีที่สุด ทั้งเจ้าหน้าที่และสื่อมวลชน โดยขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลักพุ่งเหินฟ้าคารถ 6 ล้อ

รอดตายปาฏิหาริย์! วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลัก ก่อนพุ่งเหินฟ้าติดคาบนรถ 6 ล้อ พลเมืองดีเข้าช่วยเหลือออกมาจากรถ ปลอดภัย

กกต.สั่งเอาผิดอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ

กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายเลือกตั้งไม่ตรงความเป็นจริง โทษหนักทั้งจำคุก-ตัดสิทธิ 5 ปี

ข่าวแนะนำ

ฉายารัฐบาลปี67

สื่อทำเนียบฯ ตั้งฉายา ปี 67 “รัฐบาล(พ่อ)เลี้ยง”

สื่อทำเนียบฯ ตั้งฉายา ปี67 “รัฐบาล(พ่อ)เลี้ยง” ฉายานายกฯ “แพทองโพย” ด้าน 7 รัฐมนตรีติดโผ “บิ๊กอ้วน-อนุทิน-ทวี” พ่วง 3 รัฐมนตรีโลกลืม ส่วนวาทะแห่งปี “สามีเป็นคนใต้”

เลือกตั้ง อบจ.อุบลฯ

“กานต์ กัลป์ตินันท์” ชนะเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ

“กานต์ กัลป์ตินันท์” ชนะเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี พร้อมขอบคุณคนเสื้อแดง และนายทักษิณ ชินวัตร ที่ช่วยผลักดัน

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน