“วิษณุ” ชี้หากประชาชนไม่ร่วมมือรัฐ เตรียมใช้มาตรการเข้ม

ทำเนียบฯ 30 มี.ค.-ศบค.แถลงสถานการณ์โควิด-19 “วิษณุ” รองนายกฯ ชี้หากประชาชนไม่ร่วมมือรัฐ เตรียมใช้มาตรการเข้ม ย้ำปรับรูปแบบส่งหน้ากากอนามัยใหม่ เน้นส่งให้เฉพาะ สธ. และ มท.เท่านั้น


นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี แถลงผลผลการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค.เป็นประธาน ว่า หลังจากมีการประกาศ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ถือว่ามีผลเป็นที่น่าพอใจในระดับหนึ่ง แต่เมื่อเทียบกับตัวเลขของผู้ติดเชื้อ ก็ยังไม่พอใจ จึงขอความร่วมมือประชาชนให้ความร่วมมือ อยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ ไม่เช่นนั้นรัฐบาลอาจต้องนำไปสู่มาตรการที่รุนแรงขึ้น เนื่องจากเห็นว่าวันเสาร์-วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ยังคงมีการใช้รถใช้ถนนออกนอกบ้าน กิจกรรมสังสรรค์บางประเภทก็ยังมีอยู่ แม้จะเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์

“วันนี้ได้ขอความร่วมมือไปยังสถานีโทรทัศน์ทุกช่องให้ยกเลิกการถ่ายทอดสดการชกมวย เพราะแม้ว่าจะไม่มีคนดู แต่ก็ยังคงอันตรายต่อนักมวย และคนที่ติดตามเชียร์อยู่ทางบ้าน อาจมีการรวมตัวกันเชียร์และมีกิจกรรมดื่มสุราร่วมกัน จึงขอให้งดกิจกรรมดังกล่าวทั้งหมด กิจกรรมที่มีประชาชนแจ้งทางสายด่วน คือ การแข่งเรือเจ็ทสกีในแม่น้ำเจ้าพระยา, วินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ซึ่งมีความเสี่ยง ต้องใส่หน้ากาก, การใส่บาตรพระโดยเฉพาะ การจกข้าวเหนียวใส่บาตร ซึ่งอันตรายอย่างมาก, การทำวัตรเช้า-เย็น ที่ต้องนั่งรักษาระยะห่างในวัดที่มีความแออัด, กองถ่ายทำภาพยนตร์ที่มีการรวมตัวของคน ควรมีมาตรการที่เข้มข้น” นายวิษณุ กล่าว


นายวิษณุ กล่าวด้วยว่า ที่ประชุม ศบค.ยังได้หารือถึงการแจกจ่ายหน้ากากอนามัย โดยขอชี้แจงให้ประชาชนทราบว่าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ขอให้ลบภาพหน้ากากในสตอก 200 ล้านชิ้น เพราะบางส่วนเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อน ขอชี้แจงให้เข้าใจตรงกันว่ากำลังการผลิตของประเทศในขณะนี้มี 11 โรงงาน สามารถผลิตได้ 2,300,000 ชิ้นต่อวัน ทางรัฐบาลมีการบริหารจัดการ ด้วยการจัดแผนบริหารจัดการรายวัน โดยเริ่มตั้งแต่วันนี้ (30 มี.ค.) เป็นต้นไป คือ หน้ากากจะถูกแบ่งเป็น 2 ทาง ซึ่งบริษัทไปรษณีย์ไทยจะมีรถ 40 คัน ส่งตรงจากโรงงานไปยัง 2 เส้นทาง เส้นทางแรก สายกระทรวงสาธารณสุข จะได้รับหน้ากาก 1,300,000 ชิ้น ส่งให้บุคลากรทางการแพททย์ทั่วประเทศแจกรายจังหวัด ส่งตรงไปยังโรงพยาบาลประจำจังหวัด แพคละ 1,000 ชิ้น เส้นทางที่ 2 คือ กระทรวงมหาดไทย รถจะนำไปส่งยังผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้ง 76 จังหวัด รวมกรุงเทพมหานคร โดยจะแจกให้กับ อสม. เจ้าหน้าที่บริการประชาชน เจ้าหน้าที่อำเภอ ศูนย์ดำรงธรรม เจ้าหน้าที่บริการที่มีความเสี่ยง พนักงานจขนขยะ ตำรวจ ทหาร และกลุ่มเสี่ยง ผู้สูงอายุ เด็ก เป็นต้น

“ทั้งหมดนี้ยังไม่มีแจกประชาชนและส่งไปยังร้านค้า ขอให้ประชาชนอดทน ไป 1 เดือน เพราะจะส่งแบบนี้ทุกวันไปยัง 2 เส้นทางเพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่จำเป็นเร่งด่วนได้ใช้ก่อน ส่วนการส่งออกไปต่างประเทศ ขณะนี้มีเพียง 3 เงื่อนไข คือ ส่งออกเพราะมีนโยบายของการส่งเสริมการส่งออก หรือบีโอไอ แต่สามารถใช้ ม.47 สั่งห้ามส่งออกได้ เงื่อนไขที่ 2 คือ ส่งเพราะเงื่อนไขทรัพย์สินทางปัญญาที่ส่งวัสดุมาจ้างไทยผลิต เงื่อนไขที่ 3 คือ FTA ระหว่างประเทศต่อกัน” นายวิษณุ กล่าว

นายวิษณุ กล่าวถึงการนำเข้าหน้ากากอนามัย ขณะนี้ยกเว้นภาษีการนำเข้าเป็นศูนย์ ส่วนยาเวชภัณฑ์และเครื่องตรวจต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการแก้ไขกฎหมายยกเลิกการเก็บภาษีในช่วงเวลานี้ สำหรับหน้ากาก N95 เวชภัณฑ์ จำเป็นที่ต้องตรวจ อย.จะใช้เวลาตรวจไม่เกิน 1 วัน กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ใช้เวลาไม่เกิน 5 วัน


ส่วนการจำหน่ายไข่ไก่เกินราคา นายวิษณุ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์จะเพิ่มความเข้มข้นตั้งแต่ต้นทาง คือ ฟาร์ม พ่อค้าคนกลาง จะควบคุมราคาและห้ามส่งออก ดังนั้น เมื่อไม่มีการส่งออก ประเมินว่าอีกไม่กี่วันไข่ไก่จะล้นตลาด จึงขอความร่วมมือประชาชนอย่ากักตุน

“ขอย้ำว่าจากนี้ขอไม่ให้มารวมตัวกันและชุมนุมกัน การประชุมบางอย่างสามารถเลื่อนได้ และการประชุม ครม.จะประชุมผ่านเทเลคอนเฟอเรนซ์ ส่วนกรณีพรรคการเมืองที่ต้องมีการประชุมใหญ่วิสามัญ กกต.อยู่ระหว่างการพิจารณา ขอให้รอการชี้แจงต่อไป” นายวิษณุ กล่าว

ส่วนคนไทยที่จะเดินทางกลับจากต่างประเทศ นายวิษณุ ยืนยันว่า ข่าวที่ระบุว่ากระทรวงการต่างประเทศจะจัดเครื่องบินไปรับที่อิตาลี 7,000 คน ไม่เป็นความจริง ยอมรับบางประเทศอยู่ระหว่างประสานจะมารับประชากรของประเทศนั้น ๆ กลับ เบื้อต้นประสานมา 7 ประเทศด้วยกัน

ด้านนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการปิดด่านพรมแดนเข้า-ออกทางบกของประเทศไทย จะส่งผลให้คนไทยเดินทางกลับประเทศไทยได้หรือไม่นั้น ยืนยันว่า ไม่ว่าคนไทยจะอยู่ที่ไหน สามารถเดินกลับประเทศไทยได้ เพียงแต่ต้องดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนด คือ ต้องมีหนังสือรับรองการเดินทางกลับไทยโดยสถานทูตฯ หรือ สถานกงสุลใหญ่ออกให้ และต้องมีใบรับรองแพทย์ ยืนยันว่ามีสุขภาพพร้อมจะเดินทาง แต่หากเดินทางด้วยอากาศยานต้องผ่านจุดคัดกรองที่สนามบิน และถ้าพบมีไข้ ต้องเข้ารับการตรวจรักษาทันที และเพื่อสร้างความมั่นใจ ทุกคนที่เดินทางกลับเข้าประเทศจะต้องถูกกักตัวเพื่อเฝ้าดูอาการตามข้อกำหนด

นายฉัตรชัย กล่าวอีกว่า ส่วนระดับท้องที่จะต้องมีการลงทะเบียน หากเดินทางเข้าพื้นที่แต่ละจังหวัด ทั้งนี้  กระทรวงมหาดไทยได้ใช้ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข ประกอบการพิจารณาในแต่ละจังหวัด โดยล่าสุดผู้ว่าราชการจังหวัด คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อระดับจังหวัด ได้สั่งปิดการเข้า-ออก จ.ยะลา , ปัตตานี , นราธิวาส และหยุดระบบขนส่งทั้งหมด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19  พร้อมขอบคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมือ โดยขณะนี้มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและ อสม. ปฏิบัติงานอย่างเข้มข้นถึง 1.2 ล้านคน

อย่างไรก็ตาม ช่วงท้ายของการแถลงข่าว สื่อมวลชนได้สอบถามข้อเท็จจริที่ระบุว่า มีเจ้าหน้าสาธารณสุขติดเชื้อโควิด 19 และมาทำงานที่ทำเนียบฯ จริงหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด -19 (ศบค.) ยอมรับว่า มีเจ้าหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุขติดเชื้อโควิด-19 เป็นชาย อายุ 46 ปี โดยเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ประสานงาน และมีการเข้า-ออก ศูนย์ ศบค. รวมถึงเข้าร่วมประชุมหลายคณะและหลายสถานที่ แต่ไม่ได้ประจำอยู่ที่ทำเนียบฯ ซึ่งทีมสอบสวนโรค พบว่ามีอาการตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม มีน้ำมูก อาการคล้ายหวัดภูมิแพ้ แต่ไม่มีไข้ โดยมีการยืนยันติดเชื้อเมื่อคืนที่ผ่านมา (29 มี.ค.) และได้กักตัวเองแล้ว พร้อมเข้ารักษาที่สถาบันบำราศนราดูร ขณะเดียวกันผู้ที่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิด ส่วนใหญ่เป็นบุคลากรของกระทรวงสาธารณสุข ประมาณ 30 คน ได้สั่งให้กักตัวเองเพื่อดูอาการแล้ว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวด้วยว่า ส่วนที่ทำเนียบฯ มีเจ้าหน้าที่ที่ทำงานร่วมกันบ้าง แต่พบว่าทุกคนมีการป้องกันตนเองเป็นอย่างดี จึงถือว่ามีความเสี่ยงต่ำ แต่ก็ให้ตรวจสอบตนเองด้วย ให้สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งและรักษาระยะห่างทางสังคม ซึ่งหากมีอาการเสี่ยงให้ไปพบแพทย์ ทั้งนี้ หากผู้สัมผัสใกล้ชิดไม่มีอาการ ถือว่าอยู่ในวงจำกัดได้ แต่หากมีอาการ กระทรวงสาธารณสุขจะต้องดูแลอย่างเข้มข้นต่อไป พร้อมกันนี้ ยืนยันไม่มีผู้บริหารระดับสูงมีความเสี่ยงติดเชื้อ หรือมีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นห่วงและขอให้ทุกคนดูแลตนเองอย่างดีที่สุด ทั้งเจ้าหน้าที่และสื่อมวลชน โดยขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ ข่าว สส.ดังนครศรีฯ ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา

กทม. 30 พ.ค.-“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ-ไม่รู้ ข่าว สส.ดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมากลางงานบวช ยืนยันไม่เป็นความจริง นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าว สส.ชื่อดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา กลางงานบวชลูกชายของนายก อบต. ต่อหน้าชาวบ้านนับร้อยคน โดยนายชัยชนะ ได้ปฏิเสธข่าวบอก ไม่รู้ ไม่ทราบข่าว พร้อมบอกผู้สื่อข่าวว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อถามว่า เป็นคนรู้จัก หรือคนใกล้ชิดหรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนไม่ทราบเหมือนกัน เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบข่าวเลย ก่อนย้ำอีกครั้งว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ตอบว่า “ครับผม” เมื่อถามว่า ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่เลยใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนลงพื้นที่วันละหลายงาน และเมื่อถามทิ้งท้ายว่า ไม่มีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ยืนยันว่า “ไม่มี“.-315.-สำนักข่าวไทย

รวบพระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกดับ

นครราชสีมา 30 พ.ค. – รวบแล้ว พระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกเสียชีวิต และล่วงละเมิดลูกเลี้ยงผู้หญิงคนเล็กอายุ 11 ขวบ เจ้าตัวยังปากแข็ง แต่จำนนด้วยหลักฐาน ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา บุกรวบตัว นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเก “ลักยิ้มทับทิมสยาม” ได้คาบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ โดยขณะนี้คุมตัวอยู่ในห้องขัง สภ.เมืองนครราชสีมา ขณะจับกุมตัวผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา” และ “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี” ขณะนี้กำลังเค้นสอบปากคำ เนื่องจากผู้ต้องหายังปากแข็ง แต่จำนวนด้วยหลักฐาน ก่อนเตรียมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คาดว่าเป็นช่วงบ่ายวันนี้ คดีนี้สืบเนื่องจาก น.ส.หมิว อายุ 46 ปี นางเอกลิเก พาลูกสาวอายุ 11 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังลูกชายคนโต อายุ 18 ปี ซึ่งป่วยออทิสติก […]

“สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 หมอ คดีชั้น 14

สธ. 29 พ.ค. – “สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เผย “สมศักดิ์” สภานายกพิเศษ ส่งคำตอบให้มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 แพทย์ กรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจเมื่อวานนี้ ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ให้ใช้คำว่าเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย นายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ได้ยื่นรายงานความเห็นจากคณะกรรมการฯ ต่อมติแพทยสภาให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) สภานายกพิเศษฯ ได้ทำหนังสือตอบกลับไปยังแพทยสภาแล้ว เมื่อเวลา 16.00 น. โดยที่ตนเองก็ยังไม่ทราบว่า มีเนื้อหาบ้าง แต่ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ขอให้ใช้คำว่ามีส่วนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เบื้องต้นเป็นความส่งความเห็นกลับต่อมติของแพทยสภา ซึ่งมีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนแพทย์จำนวน 4 […]

จับแล้ว! “สามีภรรยา” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

29 พ.ค.- จับแล้ว! สองสามีภรรยา คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง มือคุมบัญชีประมูลร้านค้างานประจำปี – ร้านค้าสวัสดิการ หลังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ วันนี้ ( 29 พ.ค.68) เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม สองสามีภรรยา คนสนิทนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับ ในความผิดฐาน ข้อหาฟอกเงิน และ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อหรือการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” โดยสามารถจับกุมตัวทั้งสองได้ภายในค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาสอบปากคำยัง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ขณะเดียวมีรายงานว่า นอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ พนักงานสอบสวนยังได้ขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับอดีตพระลูกวัดคนสนิท ทิดแย้ม ซึ่งถูกจับกุมก่อนหน้านี้ และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดย พนักงานสอบสวน เตรียมประสานไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ […]

ข่าวแนะนำ

มติวุฒิสภาเดินหน้าโหวตองค์กรอิสระ-สว.เสียงข้างน้อย วอล์กเอาต์วุ่น

รัฐสภา 30 พ.ค.- ตามคาด! “วุฒิสภา” เดินหน้าโหวตตั้งองค์กรอิสระ-ตุลาการศาล รธน. แม้ยอมให้ถกญัตติชะลอนานกว่า 3 ชั่วโมง ด้าน สว.เสียงข้างน้อย วอล์กเอาต์ไม่ขอร่วมสังฆกรรม พร้อมให้เหตุผลขัดกันแห่งผลประโยชน์ สว.กว่า 100 คนถูกกล่าวหาฮั้ว ขู่หากเดินหน้าเสี่ยงถูกร้องจริยธรรม ขณะที่ “ฉัตรวรรษ” โต้ ยังเป็น สว. ต้องปฏิบัติหน้าที่ต่อ ซัด “ดีเอสไอ” ดำเนินการโดยมิชอบ การประชุมวุฒิสภาวันนี้มีนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม โดยได้แจ้งต่อที่ประชุมว่าในการระเบียบวาระเรื่องการพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ตามมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561) ซึ่งเป็นการประชุมลับ ขอให้สว.ใช้บัตรลงคะแนนของตัวเอง ไม่สามารถออกเสียงด้วยวาจาแทนได้ แต่ขอหารือหยิบยกเรื่องด่วนที่ 5.ขึ้นมาพิจารณาก่อน เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องและมีผลต่อการพิจารณาเรื่องให้ความเห็นชอบ คือเรื่องด่วนชอให้ ชะลอการตั้งคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการการเลือกตั้งและตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ รวมทั้งให้ความเห็นชอบกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จนกว่ามีคำตัดสินในคดีที่สมาชิกวุฒิสภาจำนวนมากตกเป็นผู้ถูกร้องและผู้ร้องขณะนี้ ที่เสนอโดยนายเทวฤทธิ์ มณีฉาย นายเทวฤทธิ์ กล่าวว่าต้องขอบคุณสมาชิกและวิปวุฒิที่ใจกว้างให้เลื่อนญัตตินี้ขึ้นมา และระบุว่าตนเข้าใจและเห็นใจเพื่อนสว.ทุกคนที่โดนเรียกไปรับทราบข้อกล่าวหา โดยเห็นกระบวนการไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้น […]

กกต.ออกหมายเรียกอีก 22 สว. แจงคดีฮั้ว

กทม. 30 พ.ค.- หมายเรียก สว.ฮั้ว ลอต 5 ออกแล้ว คณะกรรมการสืบสวนฯ กกต. เรียกอีก 22 สว.แจง รวมเรียกทั้งหมด 127 คน มีรายงานแจ้งว่า คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน คณะที่ 26 ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้เรียกสมาชิกวุฒิสภา เข้ารับทราบและชี้แจงข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีก 22 คน กรณีถูกกล่าวหาว่าอาจพัวพันกับกระบวนการฮั้วเลือก สว. ประกอบด้วย 1.นางจุฑารัตน์ นิลเปรม 2.นางเจียระไน ตั้งกีรติ 3.นางมยุรี โพธิแสน 4.น.ส.จารุณี ฤกษ์ปราณี 5.น.ส.สุกัญญา ประจวบเหมาะ 6. นายกิตติพันธ์ อนันตกูลจิรโชติ 7.นายธนภัทร ตวงวิไล 8.น.ส.ภาวนา ว่องอมรนิธิ 9.นายกัมพล สุภาแพ่ง 10.นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ 11.นายอัครวินท์ ขำขุด 12.นางธารณี ปรีดาสันติ์ 13.นางรจนา เพิ่มพูน […]

ทบ.แถลงการณ์ “กองทัพบกไทย-กัมพูชา” ยึด 4 ข้อแก้ปัญหาชายแดน

กองทัพบก 30 พ.ค.-ทบ.แถลงการณ์ “กองทัพบกไทย-กัมพูชา” ยึด 4 ข้อแก้ปัญหาพิพาทชายแดน ยันทหาร 2 ฝ่ายถอนกำลังจากจุดปะทะช่องบกแล้ว วอนประชาชนรับฟังข้อมูลสื่อหลัก ขอเชื่อมั่นทหารปกป้องอธิปไตยทุกตารางนิ้ว กองทัพบก ออกหนังสือแถลงการณ์ผลการเจรจาระหว่าง ผบ.ทบ.ไทย – ผบ.ทบ.กัมพูชา ในประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ 1.ผู้บัญชาการทหารบกได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียกำลังพลจากเหตุการณ์ปะทะ และเน้นย้ำถึงการให้ความสำคัญต่อเจตนารมณ์ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ของทั้งสองประเทศ ที่ต้องการให้มีการเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้ง พร้อมแสดงจุดยืนสนับสนุนการพูดคุยเจรจาด้วยสันติวิธีในการหาข้อตกลงร่วมกัน และขอยืนยันว่าจะไม่มีการรุกรานอธิปไตยหรือการหยิบยกประเด็นข้อขัดแย้งในอธิปไตยของกัมพูชาโดยเด็ดขาด การเจรจาครั้งนี้จะส่งผลดีต่อประชาชนของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ 2.กรณีข้อขัดแย้งบริเวณช่องบก กองทัพบกไทยและกัมพูชา มีความเห็นร่วมกันในการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือ Joint Boundary Committee (JBC) ซึ่งเป็นกลไกในระดับรัฐบาลในการเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งผลการประชุม JBC คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในอีก 2 สัปดาห์ โดยปัจจุบันกำลังทั้งสองฝ่ายที่เคยปะทะได้ตกลงที่จะเคลื่อนออกจากพื้นที่ ถือเป็นการคลี่คลายความตึงเครียดระหว่างกัน ทั้งสองฝ่ายยังมีความเห็นพ้องในการใช้กลไกคณะกรรมการร่วมมือรักษาความ สงบเรียบร้อยบริเวณชายแดน หรือ Reqional Border Committee (RBC) เพื่อคลี่คลายข้อสงสัยที่อาจค้างคา และส่งเสริมกลไก JBC ให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น […]

ทบ.จ่อออกแถลงการณ์ห้ามทหารกัมพูชาเข้าใช้พื้นที่เนิน 745

กองทัพบก 30 พ.ค.- ทบ. เตรียมออกแถลงการณ์จุดปะทะช่องบก ไม่ให้ทหารกัมพูชาเข้ามาใช้พื้นที่เนิน 745 – ต้นสัตบรรณ ถึงสามแยกลาว เล็งพูดคุยจัดชุดลาดตระเวนร่วม ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ในช่วงเช้าที่ผ่านมา พิธีไถ่ชีวิตกระบือ เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพพระราชินี 3 มิ.ย. โดยในวันนี้ กองทัพบกเตรียมออกแถลงการณ์ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ อย่างเป็นทางการ ภายหลังวานนี้ (29 พ.ค.) พล.อ.พนา ได้หารือกับ พลเอก เมา โซะพัน ผู้บัญชาการทหารบกกัมพูชา และคณะฝ่ายกัมพูชา ในประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดน กรณีเกิดเหตุปะทะช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี จนได้ข้อสรุป 3 ข้อ 1.กรณีข้อขัดแย้งบริเวณช่องบก กองทัพบกไทย และกัมพูชา มีความเห็นร่วมกันในการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือ Joint Boundary Committee (JBC) ซึ่งเป็นกลไกในระดับรัฐบาลในการเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งผลการประชุม JBC คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในอีก 2 สัปดาห์ 2.ปัจจุบันกำลังทั้งสองฝ่ายที่เคยปะทะได้เคลื่อนออกจากพื้นที่แล้ว […]