อพส.28 มี.ค.-พส.ผุดมาตรการ 3 ระยะ ดูแลคนไร้ที่พึ่ง คนไร้บ้าน และผู้ใช้ชีวิตในที่สาธารณะ จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19
นายสุทธิ จันทรวงษ์ อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19)ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยและการดำเนินชีวิตประจำวันของประชาชนในทุกระดับ ซึ่งกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.)ได้กำหนดมาตรการให้ความช่วยเหลือประชาชนกลุ่มเป้าหมายในสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดต่อจากไวรัสโคโรนา (COVID-19) เป็น 3 ระยะ ดังนี้
ระยะแรก ดำเนินมาตรการป้องกันในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่มีการแพร่ระบาดรุนแรง มอบให้ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ให้ข้อมูลความรู้และวิธีปฏิบัติตนแก่กลุ่มเป้าหมาย ,ประสานความร่วมมือกับนายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิกวุฒิสภา ขับเคลื่อนโครงการ “จิตอาสา เพื่อสังคมวุฒิสภา” นำหน้ากากอนามัยแบบผ้ากว่า 5 พันชิ้นไปแจกให้ประชาชนทั่วไป คนไร้บ้าน และผู้ใช้ชีวิตในที่สาธารณะในจุดศูนย์กลางการเดินทางที่มีคนรวมตัวมาก เช่น สถานีรถไฟกรุงเทพฯ (หัวลำโพง) สถานีขนส่งโดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) และบริเวณตรอกสาเก ถนนราชดำเนิน
จัดกิจกรรม Give Masks Get More (หน้ากากอนามัยจากใจเพื่อน) หน้ากากผ้า ตัดเย็บโดยเจ้าหน้าที่สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง 11แห่ง และศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งทั่วประเทศ รวมทั้งอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ส่งมอบผ่านองค์กร ภาคีเครือข่ายในการทำงานกับคนไร้บ้าน มูลนิธิกระจกเงา,มูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย และมูลนิธิอิสระชน นำไปแจกจ่ายให้คนไร้บ้านและผู้ใช้ชีวิตในที่สาธารณะเพื่อ ให้มีหน้ากากที่สามารถนำไปซักแล้วกลับมาใช้ใหม่อีกได้ เป็นการลดขยะ ลดภาระค่าใช้จ่าย
ระยะที่ 2 ดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุ ซึ่งเมื่อ 25 มี.ค.63 กรมพัฒนาสังคมฯ ได้เปิดศูนย์บริการสำหรับพี่น้องคนไร้บ้านที่เข้ารับบริการรายใหม่ ซึ่งเข้ามาหลังสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เข้ามาพักอาศัยเพื่อไม่ให้ไปใช้ชีวิตร่วมกับผู้ใช้บริการรายเดิม ศูนย์บริการดังกล่าวถือเป็นจุดคัดกรองเบื้องต้น ลดความเสี่ยงการแพร่กระจายของโรค ให้ บริการด้านปัจจัยสี่และที่พักกักตัวสังเกตอาการ 14 วัน พร้อมจัดชุดปฏิบัติ การปฏิบัติหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง
ระยะที่ 3 การเยียวยาหลังภาวะวิกฤติแก่กลุ่มเป้าหมายที่ได้รับผลกระทบ กำหนดแผนพัฒนาศักยภาพด้านทักษะอาชีพ การช่วยเหลือในลักษณะทุนประกอบอาชีพตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนสร้างช่องทางและโอกาส เพื่อการระดมทรัพยากรการช่วยเหลือจากภาคส่วนต่างๆ ส่งมอบต่อผู้ประสบปัญหาเดือดร้อน โดยมอบหมายให้ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดทั่วประเทศ บูรณาการทำงานร่วมกับอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ประสาน ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
“เราจะผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน และขอเชิญชวนร่วมบริจาคผ้าและอุปกรณ์สำหรับตัดเย็บหน้ากากผ้าหรือร่วมบริจาคเครื่องอุปโภคบริโภค กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ พร้อมเป็นสื่อกลางในการส่งต่อความช่วยเหลือไปยังผู้ที่อยู่ในสภาวะยากลำบากต่อไป ติดต่อเพิ่มเติมได้ที่โทร 02 659 6273 ในวัน เวลาราชการ หรือสายด่วน ศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง” นายสุทธิ กล่าว .-สำนักข่าวไทย