fbpx

สธ.แถลงป่วยโควิด-19 เพิ่ม109 คน ป่วยกระจาย 57จังหวัด

สธ. 28 มี.ค.-สธ.แถลงพบคนป่วยเพิ่ม 109 คน ย้ำพบอัตราการป่วยกระจายไปแล้ว 57 จังหวัด กทม.มากสุด รองลงมา จ.นนทบุรี ภูเก็ต โดยกลุ่มเสี่ยงคือคนสูงวัย อายุมากกว่า 70 ปี แจงร้อยละ 80 อาการน้อย แต่ ร้อยละ20 ต้องนอน รพ.อัตราเสียชีวิตอยู่ที่ ร้อยละ 0.5 พร้อมแจงตัวเลขบุคลากรทางการแพทย์นับแค่ 11 คนเท่านั้น เพราะหากป่วยจากพฤติกรรมไม่นับเป็นบุคลากรป่วย  


นพ.อนุพงศ์ สุจริยากุล ผู้ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ว่า ในวันนี้พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม  109 คน รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 1,139 คน กลับบ้านได้แล้วรวม 100 คน ทำให้ยอดป่วยสะสม รวม 1,245 คน และพบผู้เสียชีวิต 1 คน เป็นผู้หญิงอายุ 55 ปี กทม.เป็นผู้ป่วยเบาหวาน  ควบคุมน้ำตาลไม่ดีและมีไขมันในเลือดสูง  รักษา เมื่อ 23 มี.ค. ด้วยอาการหอบเหนื่อย


ทั้งนี้ กลุ่มผู้ป่วยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม

กลุ่มที่ 1 เป็นผู้ที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยหรือเกี่ยวข้องกับสถานที่พบผู้ป่วยก่อนหน้านี้ จำนวน 39 คน มาจาก สนามมวย 10 คน  อยู่ที่กทม. สถานบันเทิง 8 คน กทม.และศรีสะเกษ และผู้สัมผัสกับผู้ป่วยที่มีรายงานมาแล้ว 21 คน 

กลุ่มที่ 2 เป็นผู้ป่วยรายใหม่ 17 คน  เดินทางจากต่างประเทศ 8  คน เป็นคนไทย 6 คน  มาจากประเทศสหรัฐอเมริกา อินเดีย ฝรั่งเศส เยอรมัน และญี่ปุ่น และชาวต่างชาติ 2 คน เป็นชาวยูเครน และโปรตุเกส อาศัยหรือทำงานอยู่ในสถานที่แออัด 7 คน พนักงานร้านนวด สปา พนักงานต้อนรับในโรงแรม เชฟ เจ้าของร้านขายเครื่องประดับ บุคลาการทางการแพทย์  ติดเชื้อ 2 คน  ทำให้มีจำนวนแพทย์ป่วยรวม 11 คน 


กลุ่มที่ 3 ผู้ที่พบเชื้อซึ่งต้องรอสอบประวัติและแต่ต้องรอสอบสวนโรคจำนวน 53 คน เชียงราย นนทบุรี มุกดาหาร ปัตตานี นราธิวาส ยะลา กทม. สำหรับคนป่วยอาการหนักมีรวม  17 คน  ทั้งหมดยังต้องให้เครื่องช่วยหายใจ  โดย 12 คน รักษาอยู่โรงพยาบาลในสังกัดสาธารณสุข โรงเรียนแพทย์ กลาโหม และกทม.ส่วนอีก 5 คน  อยู่ที่จ.เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี เพชรบุรี นครราชสีมา และบุรีรัมย์ มีอายุระหว่าง 31 -76 ปี

นพ.อนุพงศ์ กล่าวว่า ขณะนี้พบการป่วยกระจายใน 57 จังหวัด โดยพบในกทม.มากที่สุด 515 คน นนทบุรี 48 คน ภูเก็ต 41 คน ยะลา 40 คน ชลบุรี 36 คน สมุทรปราการและปัตตานี 33 คน สงขลา 27 คน ปทุมธานี  14 คน อุบลราชธานี 12คน เชียงใหม่ 11 คน สุราษฎร์ธานี 10 คน กาญจนบุรีบุรีรัมย์ 9 คน  โดยเมื่อเปรียบเทียบการป่วยโควิด เมื่อ12-18 มีนาคม  ช่วงแรกพบการป่วยใน กทม. แต่ในสถานการณ์ 19 -28 มีนาคม พบการป่วยกระจายไปหลายจังหวัด 

นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.กองสำนักโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้สิ่งที่ต้องการสื่อสารคือกลุ่มเสี่ยงที่ต้งอเฝ้าระวังคือผู้สูงอายุมากกว่า 70 ปีเพราะอัตราการป่วยโควิด -19 ใน คนทั่วไป 100 คน 80 คน อาการน้อย และหายเองได้ แต่จะมี  20 คนต้องรักษาตัวที่ รพ. ในจำนวนนี้ 5 คน มีอาการรุนแรง และในจำนวนนี้ต้องเสียชีวิต 1คน เมื่อเปรียบเทียบอัตราการป่วย1,245 คน เสียชีวิต 6คน เท่ากับมีอัตราตาย0.5 เปอร์เซ็นต์  ถือว่ามีอัตราตายต่ำมากและในจำนวนผู้ป่วยหนัก 17 คนที่มีอาการหนัก ส่วนใหญ่ร้อยละ 50 เป็นคนสูงอายุ 70 ปีและมีโรคประจำตัว ฉะนั้นในสถานการณ์ขณะนี้ ต้องร่วมการเฝ้าระวังคนสูงอายุ การเดินทางไปในพื้นที่แล้วมาคลุกคลีกับคนแก่ต้องระวัง  ควรแยกตัวเองเพื่อป้องกันไม่ให้โรค  ติดคนสูงอายุ 

นพ.โสภณ กล่าวว่า การพบผู้ป่วยระยะกระจาย 57 จังหวัด ตอนแรกเป็นผลพวงมาจากสนามมวยที่กระจายไปในทุกจังหวัด  ต่อมาเป็นลักษณะการติดเชื้อในพื้นที่ ซึ่งในต่างจังหวัดกำลังจะเผชิญสถานการณ์การป่วยเหมือนกับ กทม.และพบคนป่วยเพิ่มมากขึ้น เป็นผลพวงมาจากการเดินทางกลับปิดเมืองที่เกิดขึ้น เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสอดคล้องกับระยะ  ฟักตัวของโรค 5-7 วัน ย้ำโรคนี่เป็นโรคระบบทางเดินหายใจแพร่ง่ายกว่าโรคอื่น ดังนั้น คนที่รู้ตัวเดินทางกลับมาจาก กทม.ต้องกักตัว 14 วัน หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดคนแก่สูงอายุ เพื่อไม่ให้มีผู้ป่วยอาการรุนแรง

นพ.โสภณ กล่าวว่า สำหรับการสอบสวนโรคบุคลากรทางการแพทย์ที่ติดเชื้อโควิด-19 ทุกตัวเลขที่รายงาน จะนับเฉพาะบุคคลากรการแพทย์ที่ติดจากการปฏิบัติหน้าที่เท่านั้น ส่วนแพทย์อีก 2 คนที่มาจากจังหวัดตรัง และสมุทรปราการไม่ได้นับ เพราะไม่ได้ติดจากการทำงาน  ฉะนั้น ตัวเลขบุคคลากรทางการแพทย์ติดโควิด-19 จึงมีแค่ 11 คนเท่านั้น .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลโรงงานย่านพระราม 2

เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลในโรงงานย่านพระราม 2 ควันสีขาวลอยโขมง เบื้องต้นพบเป็นสารไทโอยูเรีย

อุตุฯ เผยไทยตอนบนร้อนจัด แนะเลี่ยงทำงานในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง

คดีสะเทือนขวัญ ฆ่าหั่นศพ “ยากูซ่า” จ.นนทบุรี

คดีสะเทือนขวัญ พบชิ้นส่วนมือ ในพื้นที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ล่าสุดตำรวจจับกุมหนึ่งในผู้ต้องหาได้แล้ว และทราบว่าทั้งผู้ตายและผู้ลงมือฆ่าหั่นศพ เป็นแก๊งยากูซ่าชาวญี่ปุ่น

ชาวบ้านร้องโรงงานเก็บสารเคมีเร่งเยียวยาเหตุไฟไหม้

ชาวบ้านที่เดือดร้อนจากเหตุไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมีอุตสาหกรรม จ.ระยอง เรียกร้องโรงงานช่วยเหลือ บอกน้ำสักขวดก็ไม่ได้