ปัตตานี 28 มี.ค. – ผู้ว่าฯ ปัตตานี ประกาศให้ จ.ปัตตานี เป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการติดต่อเชื้อโรคโควิด-19 ทั้งพื้นที่ ห้ามประชาชนเดินทางเข้า-ออก ข้ามเขตพื้นที่ จ.ปัตตานี เว้นแต่เพื่อประโยชน์ในการรักษาพยาบาล การขนส่งสินค้าที่จำเป็น สินค้าอุปโภค-บริโภค เป็นต้น หากผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษทั้งจำทั้งปรับ
ประกาศให้จังหวัดปัตตานีเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการติดต่อเชื้อโรคโควิด-19 ทั้งพื้นที่ และผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานีมีคำสั่งให้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง จังหวัดปัตตานี จึงมีคำสั่ง ดังนี้
1.ห้ามประชาชนเดินทางเข้า-ออก ข้ามเขตพื้นที่จังหวัดปัตตานี อันเนื่องมาจากเป็นพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการติดต่อเชื้อโรคโควิด-19 เว้นแต่เพื่อประโยชน์ในการรักษาพยาบาล การทำให้ปลอดภัยจากเชื้อโรค การป้องกันโรค การขนส่งสินค้าที่จำเป็น สินค้าอุปโภค-บริโภค อุปกรณ์เครื่องมือเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ยานพาหนะเพื่อการกู้ชีพ กู้ภัยฉุกเฉิน รถพยาบาล และยานพาหนะของทางราชการ หรือได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ทั้งนี้ ผู้ได้รับการยกเว้นต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนด
2.ห้ามผู้ที่เป็นหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นโรคติดต่ออันตราย หรือโรคระบาด เดินทางเข้า-ออกจากหมู่บ้านหรือที่เอกเทศ สำหรับที่แยกกัน หรือกักกัน และหรือข้ามเขตพื้นที่จังหวัดปัตตานี เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ
อนึ่ง เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นรีบด่วน หากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชน หรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้งตามมาตรา 30 วรรคสอง (1) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539
หากผู้ใดฝ่าฝืนคำสั่งนี้ จะมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 มีโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหรือเป็นความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง .-สำนักข่าวไทย