“ถาวร” ถกบินไทย รับมือโควิด-19

กรุงเทพฯ 27 มี.ค. – “ถาวร” บุกบินไทยฯ ถกร่วม “ปธ.บอร์ด-ดีดี” หาแนวทางแก้ไขปัญหาช่วงวิกกฤติ “โควิด-19”


นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยม บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) วันนี้ (27 มี.ค. 2563) ว่า จากการหารือร่วมกับ พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การบินไทย และนายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) การบินไทย เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาการบินไทย ในสถานการณ์วิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งนี้ การบินไทย ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากวิกฤติโควิด-19 ทั้งที่แต่เดิมก็ประสบปัญหาการขาดทุนสะสมนับแสนล้านบาทอยู่แล้ว ซึ่งการร่วมมือจากทุกฝ่าย จึงถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง โดยตนในฐานะรัฐมนตรีผู้มีหน้าที่กำกับ ดูแล มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด 

สำหรับแนวทางในการแก้ไขปัญหาการบินไทยนั้น สรุปได้ดังนี้ 1.การรักษาสภาพกระแสเงินสด (Cash flow) เนื่องจากขณะนี้การบินไทยไม่มีรายได้จากการบินในเชิงพาณิชย์ เนื่องจากมาตรการปิดน่านฟ้า เพื่อระงับการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 ในหลายประเทศ จึงมีความจำเป็นที่ต้องหาแนวทาง เพื่อรักษาสภาพกระแสเงินสด ได้แก่ ต้องปรับวิธีการหารายได้จากทางอื่น เช่นการรับส่งสินค้าทางอากาศ (Cargo) และครัวการบินไทยให้บริการจัดส่งอาหารถึงบ้าน (Delivery) นอกจากนี้ จะต้องมีการปรับลดค่าใช้จ่าย เช่น การปรับลดค่าใช้จ่ายจากพนักงานโดยการปรับลดเงินเดือน การหยุดจ่ายค่าล่วงเวลา หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่สามารถปรับลดได้ ซึ่งขณะนี้สามารถปรับลดได้ไม่น้อยกว่า 30% รวมถึงเจรจาขอผัดผ่อนการจ่ายเงินให้กับลิสซิ่ง ซึ่งขณะนี้สามารถเจรจาผัดผ่อนเวลาได้ประมาณ 3-5 เดือน


2.การจัดทำแผนฟื้นฟู จะเร่งจัดทำให้แล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์ เพื่อจะได้เสนอกระทรวงการคลัง และเสนอตามขั้นตอนจนถึงคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป 3.การปรับลดขนาดองค์กร โดยการปรับลดจำนวนของพนักงานให้น้อยลง เน้นวิธีการปรับลดโดยความสมัครใจ 4.การปรับลดประเภทของเครื่องบิน ลดจำนวนช่างซ่อมบำรุง ลดการสต๊อกอะไหล่เครื่องบิน เพื่อให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น 5.การปรับลดกระบวนการและขั้นตอนการทำงานภายในองค์กร เนื่องจากองค์กรเป็นรูปแบบรัฐวิสาหกิจ มีหลักเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับ ทำให้มีความล่าช้าในการบริหารจัดการ จึงจำเป็นจะต้องปรับแก้เพื่อให้สามารถทำงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

6.ปรับกระบวนการด้านรายได้จากการจำหน่ายตั๋วโดยสาร และบริหารด้านการตลาดในเชิงรุกให้มีผู้โดยสารมากขึ้น ซึ่งในส่วนนี้รวมถึงปรับลดการจำหน่ายตั๋วโดยสารโดยเอเจนซี่ (Agency) ซึ่งมีการล็อคราคาตั๋วโดยสาร ทำให้การบินไทยไม่สามารถปรับราคาค่าตั๋วโดยสารให้เหมาะสมกับสถานการณ์ได้ โดยแก้รูปแบบให้การบินไทยจำหน่ายตั๋วให้แก่ผู้โดยสารโดยตรงผ่านช่องทางต่างๆ เช่นระบบบุ๊คกิ้ง ระบบออนไลน์ ให้มากขึ้น อีกทั้งมาตรการค่าปรับเอเจนซี่ ในกรณีคืนตั๋วโดยสารไม่ทันภายในกำหนดเวลา 7.การจัดหารายได้เพิ่มในช่องทางการให้บริการจองที่พัก และการให้บริการจองทัวร์ของนักท่องเที่ยว และ 8.การลดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับบุคคลากรที่ปฏิบัติหน้าที่ในต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้ได้เรียกกลับประเทศให้หมดภายในสิ้นเดือนมีนาคมนี้

นายถาวร กล่าวต่ออีกว่า นอกเหนือจากแนวทางในการแก้ไขปัญหาการบินไทยนั้น ตนยังได้ให้คำแนะนำเพิ่มเติมไว้หลายประเด็น เช่น การจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการ TOCC (THAI Operations Control Centre) ให้เป็นหน่วยงานในโครงสร้างขององค์กร รวมถึงศึกษาแนวทางในการจัดตั้งบริษัทลูก เพื่อดำเนินการในส่วนของอาหาร หรือส่วนอื่นๆ เพื่อให้สามารถหารายได้ และการบริหารจัดการที่มีความรวดเร็วยิ่งขึ้น อีกทั้งการหารายได้เพิ่มจากฝ่ายช่าง เช่น การเปิดศูนย์ซ่อมบำรุงรักษาให้แก่เครื่องบินทั่วไป เป็นต้น


ขณะเดียวกัน การหารายได้เพิ่มเติมจากฝ่ายวางแผนการบิน เพื่อให้เครื่องบินประหยัดน้ำมัน ประหยัดเวลาในการบิน ซึ่งทางศูนย์ TOCC มีความสามารถในการวางแผนได้เป็นอย่างดี รวมถึงการบริหารจัดการสินทรัพย์ของการบินไทย ที่แต่เดิมมีอยู่ร่วม 200,000 ล้าน แต่ในปัจจุบันนี้คงเหลือแค่ 100,000 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งผู้บริหารการบินไทยต้องอธิบายให้ชัดแจ้ง และการขอลดค่าใช้จ่ายในการ จอดเครื่องบินในระยะยาว (Aircraft long Term Parking) ซึ่งการตั้งคณะกรรมการต้องทำในรูปแบบการกำหนดตัวบุคคลมาทำหน้าที่ และต้องจัดหาบุคคลที่มีความจริงจังในการทำหน้าที่ 

ในส่วนของการคำนวณกำไรขาดทุน จะต้องคำนวณในทุกเส้นทางการบิน และต้องคำนวณเป็นรายเที่ยว รายเดือน และรายไตรมาส เพื่อให้ทราบถึงผลประกอบการในแต่ละเส้นทางการบินที่ชัดเจน จะได้นำมาวิเคราะห์แผนในการดำเนินการทางธุรกิจ อย่างไรก็ตาม เรื่องของความโปร่งใสในการใช้จ่ายงบประมาณและความโปร่งใสในการบริหารจัดการ ถือเป็นอีกเรื่องที่ตนให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก จึงได้ตั้งคณะทำงานเพื่อหาข้อมูลในเชิงลึก และหากมีข้อมูลใดๆ ที่ส่อว่ามีการทุจริต ตนจะดำเนินการตามกระบวนการจนถึงที่สุดต่อไป . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

“บิ๊กเต่า” สยบข่าวลือพาดพิงพระชั้นผู้ใหญ่

กทม. 19 ก.ค. – รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สยบข่าวลือพาดพิงพระชั้นผู้ใหญ่ ระบุข้อมูลคดีใหม่ เป็นพระในพื้นที่ต่างจังหวัด และไม่เกี่ยวกับคดี “กอล์ฟ” พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า เพิ่งรับทราบจากสื่อมวลชนเกี่ยวกับกระแสข่าวลือพาดพิงถึงพระชั้นผู้ใหญ่บางรูป ซึ่งไม่ต้องการให้มีการเผยแพร่ข่าวลือจนสร้างความเสียหาย โดยยืนยันว่าที่เคยให้สัมภาษณ์ว่า ยังมีพระชั้นผู้ใหญ่มีความเกี่ยวข้องสีกาอีก แต่ไม่เกี่ยวข้องกับกอล์ฟ เป็นพระที่มีสมณศักดิ์สูงกว่าพระในคดีกอล์ฟ แต่อยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด ไม่ใช่ในกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีการกระทำเข้าข่ายผิดวินัยสงฆ์ โดยไม่เกี่ยวข้องกับคดีกอล์ฟ และยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ขอเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ได้หลักฐานชัดเจนก่อน ส่วนการตั้งศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา เพื่อรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับพระโดยเฉพาะ ขณะนี้ มีประชาชนแจ้งเบาะแสมาแล้วหลายร้อยสาย ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังคัดแยกข้อมูล จึงยังไม่สามารถตอบได้ว่า จะมีเรื่องที่เกี่ยวกับกอล์ฟอีกหรือไม่.-412-สำนักข่าวไทย

กัมพูชา ทำหนังสือส่งถึงไทย ปฏิเสธวางกับระเบิดช่องบก

กัมพูชา 19 ก.ค.-กัมพูชาทำหนังสือส่งถึงไทย ปฏิเสธวางกับระเบิดช่องบก ลั่นยึดมั่นอนุสัญญาออตตาวา ประณามคัดค้าน การผลิต และแสดงความเสียใจผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมผลักดันสู่กระบวนการพิสูจน์ เพื่อรักษามิตรภาพ ความปลอดภัย ไม่กล่าวหาซึ่งกัน เมื่อวันที่ 19 ก.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราชอาณาจักรกัมพูชา ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้ทำหนังสือ ถึงทางการไทย เรื่อง การปฏิเสธต่อการนําเสนอของสื่อมวลชนไทยจำนวนหนึ่ง กรณีทหารไทย 3 นาย ได้รับบาดเจ็บจากทุ่นระเบิดในพื้นที่มุมเบ็ย (ช่องบก) สำานักงานปฏิบัติการทุ่นระเบิคและช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากทุ่นระเบิดแห่งชาติกัมพูชา (สํานักงานทุ่นระเบิด) ขอแจ้งว่า เมื่อไม่นานมานี้ มีสื่อมวลชนไทยจํานวนหนึ่งได้อ้างอิงแหล่งข้อมูลจากข้าราชการระดับสูงของไทย และเผยแพร่เกี่ยวกับทหารไทย 3 นายได้รับบาดเจ็บจากระเบิด เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 บริเวณพิกัด WA 220861 (ยืนยันโดยฝ่ายไทย) อยู่ในพื้นที่มุมเบ็ย (ช่องบก) การเผยแพร่ดังกล่าว มีเจตนา กล่าวหาโดยไม่มีมูลความจริงและไม่มีการตรวจสอบที่ชัดเจนว่ากัมพูชาได้วางทุ่นระเบิดใหม่ ในการนี้สํานักงานทุ่นระเบิด ขอชี้แจงดังนี้ 1.สํานักงานทุ่นระเบิดขอปฏิเสธและปัดตกทั้งหมดต่อเนื้อหาข่าวที่เผยแพร่โดยมีเจตนากล่าวหาว่า กัมพูชาได้วางทุ่นระเบิดใหม่ 2.กัมพูชา […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมาก

กทม. 19 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก คลื่นลมทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 5 เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย คลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 19-24 กรกฎาคม 2568) ประเทศไทยจะมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน ประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มจังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมากมีดังนี้ วันที่ 19 กรกฎาคม 2568ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานีภาคกลาง: จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี และสระบุรีภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราดภาคใต้: จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี […]

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]