กทม.27มี.ค.-บอร์ดสุขภาพแห่งชาติ เร่งขับเคลื่อนธรรมนูญประชาชนสู้ภัยโควิด-19 ทุกตำบล เน้นปกป้องผู้สูงอาย เด็กเล็ก ผู้ป่วยโรคเรื้อรังในชุมชน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ(คสช.) โดยที่ประชุมได้ให้ความสำคัญกับแผนงาน “รวมพลังพลเมืองตื่นรู้ ช่วยชาติสู้ภัยโควิด19” ที่หน่วยงานภาคียุทธศาสตร์ด้านสุขภาพ เช่น สธ., สปสช., สสส., สวรส., สรพ., สพฉ., และด้านสังคม เช่น สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(พอช.) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เครือข่ายหมออนามัย 7 องค์กรร่วมกับเครือข่ายภาครัฐสถาบันวิชาการธุรกิจเอกชน และภาคประชาสังคมในพื้นที่จับมือประกาศจุดยืนสู้ภัยโควิด-19 ลนับสนุนชุมชน คลอดธรรมนูญประชาชน เน้นปกป้องผู้สูงอายุ เด็กเล็ก ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ในชุมชน โดยมี สช.เป็นหน่วยประสานงานกลาง
นายอนุทิน เปิดผยว่าคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ได้หารือและเห็นว่าการระบาดของโรคโควิด-19 มีความรุนแรงมากขึ้นและขณะนี้กระจาย เข้าสู่พื้นที่ทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว ถือเป็นวิกฤตของประเทศที่ต้องการ รวมพลังจากทุกภาคส่วนมาหนุนช่วย ขณะที่รัฐบาลได้ประกาศใช้ พ.ร.ก. การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร เพื่อหยุดยั้งการระบาดของโรคนี้ และมุ่งปกป้องชีวิตของประชาชนโดยเฉพาะผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่เป็นกลุ่มเสี่ยงให้ได้อย่างจริงจัง
“ผมและกรรมการสุขภาพแห่งชาติทุกคนเห็นด้วยกับแผนงานที่ สช.เสนอ และได้มอบให้เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ไปดำเนินการร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้งส่วนกลางและพื้นที่ ทำการขับเคลื่อนเตรียมพร้อมชาวบ้านในชุมชนจากความตื่นกลัว เป็นตื่นรู้และมีเวทีเรียนรู้ จัดทำข้อตกลงร่วมหรือธรรมนูญประชาชนสู้ภัยโควิด19 ในทุกตำบลชุมชนหมู่บ้าน เพราะประชาชนเป็นพลังสำคัญที่สุดที่จะช่วยให้ประเทศผ่านพ้นวิกฤตนี้ได้ การมีส่วนร่วมของประชาชนในการเป็นหูเป็นตา ดูแลกลุ่มเสี่ยงแพร่เชื้อไวรัส และปกป้องผู้สูงอายุ เด็กเล็กที่เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง ไม่ให้ติดเชื้อ ไม่ให้ป่วยหนักจนเป็นภาระกับโรงพยาบาล รวมถึงการปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัดตามข้อแนะนำของทางการ” นายอนุทิน กล่าว
ด้าน นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า การขับเคลื่อน “รวมพลังพลเมืองตื่นรู้ ช่วยชาติสู้ภัยโควิด19″มีเป้าหมายเพื่อยกระดับการรับรู้และการมีส่วนร่วมของประชาชนด้วยการสนับสนุนให้ทุกตำบลจัดกระบวนการประชาคมของสภาองค์กรชุมชน ร่วมกับอาสาสมัครกลุ่มต่าง ๆ ผู้นำชุมชน กำนันผู้ใหญ่บน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานในพื้นที่เพื่อให้ เกิดข้อตกลงร่วม ของประชาชนหรือธรรมนูญประประชาชนสู้ภัยโควิด19 ทุกตำบล ทุกชุมชนหมู่บ้าน ให้เต็มพื้นที่ภายในเดือนเมษายนนี้
“ขณะนี้มีการดำเนินการเรื่องนี้ในหลายพื้นที่แล้ว เช่น ธรรมนูญสุขภาพตำบลสร้างนกทา ว่าด้วยปฏิบัติการด้านโควิด19 /ธรรมนูญตำบลหนองหลวงว่าด้วมาตรการเร่งด่วนเฉพาะกิจเกี่ยวกับโควิด19 /ธรรมนูญตำบล นาโพธิ์กลางว่าด้วยมาตรการป้องกันไวรัสโคโรนำ 2019 เป็นต้น สำหรับ ในกรุงเทพมหานครจะดำเนินการนำร่องที่สอดคล้องกับสถานการณ์และบริบทของพื้นที่เป็นตัวอย่างในบางชุมชนพื้นที่หรือบางเขด” เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ กล่าว และ กล่าวด้วยว่า ถ้าประชาชนในพื้นที่จับมือกันและหนุนช่วยมาตรการต่างๆของรัฐ เราจะชนะโรคโควิด-19 และประเทศไทยจะพ้นวิกฤตนี้ได้อย่างแน่นอน .-สำนักข่าวไทย