“สมคิด” หารือคลัง ธปท. แบงก์รัฐ รับมือโควิด-19

กระทรวงการคลัง 27 มี.ค.-“สมคิด” รองนายกรัฐมนตรี หารือคลัง ธปท. แบงก์รัฐ รับมือโควิด-19 เตรียมออก พ.ร.ก.เงินกู้ไม่ต่ำกว่า 2 แสนล้านบาท ยอมรับโควิดกระทบทุกภาคส่วน เตรียมเข็นมาตรการชุดที่ 3 รับมือกระทบเศรษฐกิจทรุด ธปท.แนะแบงก์พร้อมช่วยเหลือผู้ถือหน่วยลงทุน  ย้ำแบงก์ช่วยผ่อนปรนเงินต้นและดอกเบี้ย  


นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หารือผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ผู้บริหารสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ เพื่อเตรียมออกมาตรการเยียวยาดูแลผลกระทบจากโควิด-19 ระยะที่ 3 ในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า  ยอมรับว่าปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 ขยายวงกว้างสร้างปัญหาทุกกลุ่ม เทียบกับปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 ผู้ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่เป็นภาคธุรกิจ สถาบันการเงิน อสังหาริมทรัพย์ ผู้ประกอบการ  แต่ปัญหาครั้งนี้กระทบไปทุกกลุ่มทั้งรายย่อยและประชาชนทั่วไป ทำให้ ธปท.คาดการณ์จีดีพีปี 2563 ติดลบร้อยละ5.3 ขณะที่วิกฤติต้มยำกุ้งปี 2540 ติดลบร้อยละ 10 จึงต้องร่วมมือทุกฝ่ายแก้ปัญหาด้วยกัน 

ทั้งนี้ ยอมรับว่าการเกลี่ยงบประมาณปี 2563 เพื่อนำงบประมาณของหลายกระทรวงมาใช้แก้ปัญหาประเทศครั้งนี้ต้องแก้ไขกฎหมาย เพราะเป็น พ.ร.บ.งบประมาณ การโอนเงินงบประมาณดำเนินการได้ยาก จึงขอให้ทุกกระทรวงปรับงบนำมาแก้ปัญหาด้วยการเกลี่ยงบมาใช้ ด้านปัญหาโควิดตามภารกิจของหน่วยงาน  ส่วนกระทรวงการคลังกำลังศึกษาว่าเงินกู้แก้ปัญหาใหญ่ครั้งนี้ต้องใช้ฟื้นฟูช่วยเหลือเยียวยาทุกกลุ่มอย่างไร ขณะที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) พร้อมให้ทุกประเทศทั่วโลกที่มีปัญหาใช้เงินกู้ดังกล่าวฟื้นฟูประเทศด้วยเช่นกัน  ยอมรับว่าต้องใช้เงินก้อนใหญ่ฟื้นฟูประเทศครั้งนี้ เพราะเศรษฐกิจทั้งโลกชะลอตัว 


นอกจากนี้ รัฐบาลต้องการใช้วิกฤติครั้งนี้ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไทยยึดปูพื้นฐานเศรษฐกิจฐานราก ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงของรัฐกาลที่ 9 เพื่อสร้างความเข้มแข็งกับเศรษฐกิจฐานรากในท้องถิ่น ทั้งภาคการผลิต เกษตรกร การจ้างงาน เพื่อให้หน่วยงานรัฐ ทั้งกระทรวงเกษตรกฯ  ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสิน  กองทุนหมู่บ้านฯ รวมถึงภาคเอกชน เช่น ปตท.มาร่วมกันทั้งด้านการผลิต กระจายสินค้า การตลาด เพราะที่ผ่านมาพึ่งพาเศรษฐกิจการส่งออกมากเกินไป เมื่อภาคแรงงานเดินทางกลับไปอยู่ต่างจังหวัด ต้องพิจารณาแนวทางการสร้างงาน สร้างอาชีพในท้องถิ่นให้กลุ่มคนเหล่านี้ ด้วยการให้ทุกหน่วยงานเข้าไปร่วมดูแล 

นายอุตตม กล่าวว่า มาตรการเฟส 3 เตรียมใช้ พ.ร.ก.เงินกู้ เพื่อใช้เยียวยาเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 200,000 ล้านบาท ขณะนี้ต้องศึกษาแนวทางการใช้เงิน เพื่อช่วยเหลือส่วนไหนบ้าง  เพราะการนำเงินไปใช้แต่ละส่วนมีความสำคัญมาก ต้องดูว่าควรนำงบไปแก้ปัญหาตรงจุดไหนบ้าง และฟื้นฟูประเทศ  ทั้งการช่วยลดภาระค่าครองชีพ ประชาชน และดูแลเศรษฐกิจภาพรวม เมื่อการแพร่ระบาดไวรัสคลี่คลายลงเศรษฐกิจประเทศต้องเข้มแข็งเพียงพอที่จะเดินหน้าต่อไปได้ ช่วงนี้ขอวางแผนการใช้เงินเยียวยาทั้งจำนวนเงินและแนวทางการฟื้นฟูเศรษฐกิจ 


นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธปท. ย้ำว่า ปัญหาการปิดกองทุนรวม 4 กองทุน สำหรับกองทุนเปิดทหารไทย ธนเพิ่มพูน และกองทุนเปิดทหารไทย ธนไพบูลย์ ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ที่มีความแตกต่างจากกองทุนตราสารหนี้อื่น ๆ ในอุตสาหกรรม โดยมีสัดส่วนการลงทุนในต่างประเทศสูง จะไม่ลุกลามไปยังกองทุนรวมที่เหลือกว่า 60 กองทุน เพราะเชื่อว่ามาตรการของ ธปท.เข้าไปดูแลสภาพคล่องจะไม่มีปัญหา และยังมีธนาคารซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน บลจ.เข้าไปดูแล  กองทุนที่เหลือลงทุนในประเทศเป็นหลัก ดังนั้น หากผู้ถือหน่วยลงทุนต้องการใช้เงินเสริมสภาพคล่องให้นำหน่วยลงทุนไปใช้ค้ำประกันการกู้เงินได้ จึงไม่อยากให้ตื่นตระหนกแห่ถอนหน่วยลงทุน  

สำหรับแนวทางป้องกันไม่ให้เปิดปัญหาหนี้เอ็นพีแอลเพิ่มขึ้นในระบบ ประสานขอให้สถาบันการเงินเจรจาหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย ธปท.พร้อมผ่อนปรนเงื่อนไขการตั้งสำรองหนี้สูญ เพื่อไม่ให้หนี้เสียสูงขึ้นในระบบ  ธปท.ได้ออกแนวปฏิบัติขั้นต่ำสำหรับการออกสินเชื่อ เพื่อไม่ให้ประชาชนไม่ต้องกังวล ทั้งการรูดบัตรเครดิต เงินกู้ส่วนบุคคล สินเชื่อบ้าน สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ บางส่วนลดขั้นต่ำ บางแห่งพักหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย บางแห่งพักเฉพาะเงินต้น ขึ้นอยู่กับประเภทของผลิตภัณฑ์การเงิน นับเป็นกลไกขั้นต่ำที่ต้องดำเนินการ และย้ำว่าในสถานการณ์ช่วงนี้ขอความร่วมมือให้สถาบันการเงินพิจารณา เรื่องภาระหนี้เพิ่มเติมอีกตามฐานลูกค้าของแต่ละประเภท และอยากให้ติดต่อกับแบงก์ทางออนไลน์แทนสายด่วน ซึ่งติดต่อกับแบงก์รอสายนานเกินไป เพื่อฝากคำถามและเร่งตอบกลับลูกค้าในการพักหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย ป้องกันหนี้เสียไม่ให้สูงขึ้น  ธปท.จะติดตามอย่างใกล้ชิด  

น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า กองทุนรวมทั้งระบบกว่า  60  กองทุน เป็นสินทรัพย์มีคุณภาพ แต่สาเหตุการปิดทั้ง 4 กองทุนของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย (TMBAM Eastspring) เพราะเน้นลงทุนในต่างประเทศเป็นหลักเกินกว่าร้อยละ 50 ของมูลค่ากองทุน เมื่อต้องการหยุดการขายหน่วยลงทุนของเจ้าของถือหน่วยลงทุน จึงต้องไปถอนเงินก่อนกำหนดที่ฝากประจำเอาไว้ จึงเป็นลักษณะเฉพาะของ บลจ. ทหารไทย และกองทุนพร้อมคืนเงินหน่วยลงทุนให้กับเจ้าของหน่วยลงทุน ไม่ใช่ไม่ให้เงินคืน จึงต้องการย้ำกับประชาชนผู้ถือหน่วยลงทุนให้ชัดเจน  สำหรับกองทุนของ บลจ.อื่น ๆ ได้เน้นลงทุนในพันธบัตร หุ้นกู้ ตราสารคุณภาพภายในประเทศเป็นหลัก ต่างประเทศเป็นส่วนน้อย  

นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ธนาคารร่วมมือกับ ธปท.อย่างใกล้ชิด เมื่อ ธปท. ออกหลักเกณฑ์ผ่อนปรนสินเชื่อไปแล้ว แบงก์อยากให้ส่งข้อร้องเรียน หรือแนวทางแก้ปัญหาหนี้ผ่านออนไลน์ของแบงก์ เพื่อลดปัญหาแพร่ระบาดโควิด-19 ทุกแบงก์พร้อมพิจารณาให้กับลูกค้าและต้องพิจารณาเป็นรายตามความเดือดร้อนของลูกค้า สำหรับซอฟท์โลนจากธนาคารออมสินวงเงิน 150,000 ล้านบาท เพื่อปล่อยกู้กับหลายแบงก์ได้พร้อมอัดฉีดเพิ่มเติมกับลูกค้า โดยมีบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม ( บสย.) ค้ำประกัน เพื่อร่วมกันดูแลผู้ประกอบการ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มือมีดทำร้าย “เป๊ก ผลิตโชค” ขอโทษ อ้างป้องกันตัว

กรุงเทพฯ 3 ส.ค. – มือมีดทำร้าย “เป๊ก ผลิตโชค” ยืนยันไม่ได้ตั้งใจเอามีดฟัน อ้างไม่ใช่คู่กรณี แต่เห็นคนทะเลาะกัน เลยเข้าไปห้าม แต่ “เป๊ก” ปรี่เข้าหา จึงชักมีดพกขึ้นมาป้องกันตัว อยากขอโทษ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วง 01.30 น. พนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก รับแจ้งเหตุมีคนถูกมีดฟันบาดเจ็บในปั๊มน้ำมันซอยรามคำแหง 76 เขตบางกะปิ เมื่อเข้าไปตรวจสอบพร้อมกับสายตรวจและอาสากู้ภัย พบคนเจ็บคือ เป๊ก-ผลิตโชค อายนบุตร อายุ 40 ปี ดารานักร้องชื่อดัง ถูกมีดฟันใต้คางเป็นแผลฉกรรจ์ ทำให้ต้องเร่งปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนพาตัวส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้ก่อเหตุคือ นายชุติเทพ อายุ 21 ปี ไม่ได้หนีไปไหน ยืนรอมอบตัวกับตำรวจ พร้อมอาวุธมีดยาว 20 เซนติเมตร ที่ใช้ฟันเป๊ก ผลิตโชค ตำรวจจึงคุมตัวไปสอบปากคำที่โรงพัก เบื้องต้นนายชุติเทพ ให้การอ้างขับรถไปรับแฟนออกจากที่ทำงานเพื่อกลับบ้าน แต่ขณะแวะปั๊มน้ำมันจุดเกิดเหตุ เห็นมีคนกำลังทะเลาะกัน คล้ายมีอาการมึนเมา อยู่ท้ายรถกระบะ ตนเองจึงเข้าไปช่วยเคลียร์ […]

ทบ.แจงไม่มีคำสั่งอพยพชาวสุรินทร์ ปัดข่าวลือเตรียมโจมตีกัมพูชา

กองทัพบก 3 ส.ค. – โฆษกกองทัพบก แจงไม่มีคำสั่งอพยพชาวสุรินทร์ ปัดข่าวลือเตรียมโจมตีกัมพูชา กองทัพบก ออกมาปฏิเสธข่าวลือที่แพร่สะพัดบนโซเชียลมีเดีย หลังมีการอ้างว่า “สมเด็จฮุนเซน” อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา แชร์โพสต์ของโฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ระบุว่า กองทัพบกไทยสั่งอพยพชาวจังหวัดสุรินทร์ภายในคืนนี้ เพื่อเตรียมเปิดฉากโจมตีกัมพูชา ก่อนการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ยืนยันว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง ปัจจุบันในพื้นที่ไม่ได้มีการสั่งอพยพด่วนชาวสุรินทร์อย่างที่ระบุไว้ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด ที่ผ่านมา การนำเสนอข้อมูลของโฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ไม่มีความน่าเชื่อถือเพียงพอ ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากแหล่งข่าวทางการ และไม่หลงเชื่อหรือแชร์ข้อมูลเท็จที่อาจสร้างความตื่นตระหนกในสังคม ทั้งนี้ กองทัพบกยังคงเคารพข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด แต่ก็ได้เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ไม่คาดคิดจากการกระทำของฝ่ายกัมพูชาที่มีแนวโน้มละเมิดข้อตกลงหยุดยิงบ่อยครั้ง รวมถึงพบว่ามีการเพิ่มเติมกำลังพลและยุทโธปกรณ์เข้ามาในพื้นที่. – สำนักข่าวไทย

พระราชทานเพลิงศพ 7 ผู้วายชนม์ เหตุปะทะไทย-กัมพูชา

3 ส.ค. – พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ ในการพระราชทานเพลิงศพผู้วายชนม์ 7 ราย จากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา วันนี้ ครอบครัวและญาติทำพิธีฌาปนกิจผู้เสียชีวิต 7 ราย จากเหตุกัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้า เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานพิธี เชิญกล่องเพลิงพระราชทาน ผ้าไตรพระราชทาน และช่อดอกไม้จันทน์พระราชทาน มายังศาลาพุทธคุณ วัดมหาพุทธาราม พระอารามหลวง ต.เมืองเหนือ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ เพื่อประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จากนั้นมีการอ่านหมายรับสั่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ ในการพระราชทานเพลิงศพผู้วายชนม์ 7 ราย ได้แก่ นางสาวรุ่งรัศ, เด็กหญิงทักษพร, เด็กชายพงศภัค, เด็กชายกิตติศักดิ์, นางสาวสาวิตรี, นางอรุณรัตน์ และนายสมศรี โดยมี 5 ราย เสียชีวิตจากเหตุกัมพูชายิงจรวด BM-21 ใส่ร้านสะดวกซื้อ ภายในปั๊มน้ำมัน อ.กันทรลักษ์ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา ส่วนอีก […]

คนร้ายยิง M16 ถล่มกำนัน ต.นาวง ดับคากระบะ

ตรัง 3 ส.ค. – ตำรวจ สภ.ห้วยยอด พร้อมชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ตรวจสอบรถกระบะกำนัน ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง หลังถูกคนร้ายใช้อาวุธปืน M16 ยิงถล่ม เสียชีวิตหน้าบ้านพัก เบื้องต้นตำรวจตั้งปมขัดแย้งส่วนตัว มุ่งเอาชีวิตเป็นหลัก คืบหน้าเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืน M16 ยิงถล่มรถกระบะนายบัณฑิต กำนันตำบลนาวง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เสียชีวิตหน้าบ้านพักเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ล่าสุด ตำรวจ สภ.ห้วยยอด ประสานพิสูจน์หลักฐาน พร้อมชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดศรีตรัง เข้าตรวจสอบรถกระบะของผู้เสียชีวิต พบถูกกระสุนปืน M16 ยิงใส่รถรวม 15 นัด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตั้งประเด็นขัดแย้งส่วนตัว มุ่งเอาชีวิตเป็นหลัก เนื่องจากสภาพศพกระสุนปืนเข้าที่อวัยวะสำคัญ ทั้งศีรษะและลำตัวฝั่งขวาหลายนัด แต่ยังไม่ตัดประเด็นอื่นๆ ที่อาจเกี่ยวข้องทิ้ง ทั้ง รื่องพิพาทผลประโยชน์สวนปาล์มน้ำมันในพื้นที่วังวิเศษ หรือความเชื่อมโยงกับคดีลอบสังหาร “ทนายเหว่า” ซึ่งอยู่ระหว่างสืบสวนเชิงลึก และอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน เพื่อออกหมายจับ ผู้เกี่ยวข้องต่อไป.-สำนักข่าวไทย