ลำปาง 27 มี.ค. – ผู้ว่าฯ ลำปาง ลงพื้นที่ทำงานเชิงรุกในการสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยให้ อสม. 1 คน คอยดูแลบ้านเรือน 20 หลังคาเรือน เพิ่มมาตรการเฝ้าระวัง ปิดสถานบริการ สถานบันเทิง จนลำปางไม่มีผู้ติดเชื้อ
นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า จังหวัดลำปางยังไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เนื่องจากสามารถควบคุมบุคคลเข้าออกในจังหวัดลำปางได้ 100% โดยตั้งแต่เริ่มมีการระบาดและพบผู้ติดเชื้อในประเทศไทยที่มีบุคคลเดินทางกลับจากประเทศเสี่ยง มีการประชุมวางแผนกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หากพบว่ามีบุคคลเดินทางกลับจากประเทศพื้นที่เสี่ยงจะเข้าไปทำความเข้าใจ เพื่อให้ความร่วมมือในการเฝ้าระวังทันที โดยให้ อสม. 1 คน คอยดูแลบ้านเรือน 20 หลังคาเรือน ทำงานร่วมกับผู้นำระดับหมู่บ้าน ซึ่งได้ผล
เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นได้เพิ่มมาตรการเฝ้าระวัง เริ่มจากขอความร่วมมือ อาทิ ปิดสถานบริการ สถานบันเทิง ก่อนที่จะใช้กฎหมายทางฝ่ายปกครอง และผู้ว่าฯ จะออกตรวจเพื่อให้ผู้ประกอบการเข้าใจและให้ความร่วมมือ หากยังคงฝ่าฝืนจะใช้มาตรการอื่นเพิ่ม เช่น กดดันโดยให้เจ้าหน้าที่สรรพากรเข้าตรวจสอบเส้นทางการเงินและระบบภาษี ก่อนบังคับตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด
ส่วนการตรวจสอบบุคคลที่เข้าออกจากการเดินทางโดยระบบสาธารณะ อย่างรถทัวร์ จะสแกนทุกคนที่ขึ้นรถจากต้นทาง กลางทาง และปลายทาง เมื่อถึงลำปางจะมีจุดเช็กพ้อยของรถทัวร์ ทาง สสจ. จะให้เจ้าหน้าที่ขึ้นไปตรวจสอบ แจกโบรชัวร์ และให้ทุกคนกรอกข้อมูลส่วนตัวว่าจะไปลงปลายทางที่ไหน ลงรถแล้วจุดหมายปลายทางในพื้นที่ไหน และเบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้ รถมาถึงสถานีก็จะให้เข้าออกเพียง1-2 ช่อง เพื่อง่ายต่อการตรวจสอบ ขณะนี้ได้เพิ่มมาตรการเพิ่มเติมตามลำดับ ยอมรับว่ายังมีบางส่วนไม่ปฏิบัติตามที่ประกาศหรือขอความร่วมมือ
ขณะที่ประชาชนในพื้นที่ส่วนใหญ่ก็ตระหนัก เข้าใจ และให้ความร่วมมือ โดยเวลาออกนอกบ้านไปจับจ่ายซื้อสินค้าที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ส่วนใหญ่จะสวมใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันตนเอง และเข้าใจว่าส่วนหนึ่งที่จังหวัดลำปางยังไม่มีการระบาด หรือยังไม่พบผู้ติดเชื้อ เนื่องจากมาตรการของพ่อเมืองลำปางที่ออกมา และจะลงพื้นที่เพื่อกำชับและตรวจสอบด้วยตัวเอง หากพบช่องโหว่จะแนะนำให้ปรับทันที
ทั้งนี้ ข้อมูล ณ วันที่ 26 มีนาคม จังหวัดลำปางมีผู้เข้าเกณฑ์เฝ้าระวังโรคสะสมรวม 32 ราย ไม่พบเชื้อกลับบ้านแล้ว 31 ราย รอผลตรวจ 1 ราย ผู้ที่กลับจากพื้นที่เขตติดโรคอันตราย พื้นที่ที่มีการระบาดอย่างต่อเนื่อง และผู้สัมผัสสะสม รวม 1,021 ราย กักตัวเองที่บ้าน 14 วัน รวม 295 ราย พ้นระยะกักตัว 726 ราย.-สำนักข่าวไทย