กรุงเทพ 25 มี.ค. – ตลาดทองคำป่วนหนัก หลังเกิดปัญหาการส่งมอบทองคำในตลาดโลก เหตุล็อกดาวน์ และสายการบินหยุดบินจากโควิด-19 สมาคมค้าทองคำประชุมด่วนแก้วิกฤติด้วยการประกาศราคาทองคำแท่งขายออกและราคาทองคำแท่งรับซื้อคืนมีส่วนต่าง 300 บาท
นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยว่า ในช่วงเช้าที่ผ่านมาได้มีการเรียกประชุมสมาชิกสมาคมเป็นการด่วน เนื่องจากราคาทองคำในตลาดเอเชีย โดยเฉพาะที่ตลาดทองเซิ่นเจิ้น สาเหตุจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 ที่กำลังระบาดอย่างหนัก ทำให้เกิดผลกระทบต่อธุรกิจทองคำเป็นวงกว้าง ทำให้ราคาทองคำผันผวนสูง การกำหนดค่า Premium หรือ Discount ไม่เป็นไปตามภาวะปกติ เกิดปัญหาด้านการขนส่งทองคำระหว่างประเทศ เนื่องจากการลดเที่ยวบินและมาตรการผ่านเข้า-ออกของแต่ละประเทศ
สมาคมค้าทองคำจึงเรียกประชุมคณะกรรมการเพื่อหารือปัญหานี้ และเห็นควรให้กำหนดมาตรการชั่วคราวเพื่อให้ตลาดทองคำของไทย มีความสมดุลและเป็นธรรม โดยอ้างอิงตามราคาทองคำตลาดโลก เพื่อภาคธุรกิจค้าทองคำดำเนินการได้ และไม่ให้ผู้บริโภคได้รับผลกระทบจากการซื้อขายที่อาจหยุดชะงักจากวิกฤตินี้ โดยกำหนดให้ประกาศราคาทองคำแท่งขายออกและราคาทองคำแท่งรับซื้อคืนมีส่วนต่าง 300 บาท เพื่อให้การซื้อขายทองคำในประเทศยังสามารถดำเนินการต่อไปได้ อย่างมีประสิทธิภาพในสภาวะที่ผิดปกติเช่นนี้ โดยเริ่มตั้งแต่วันนี้ (25 มี.ค.) จนกว่าจะมีประกาศเป็นอย่างอื่น
นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่ากรณีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วโลกขณะนี้ ทำให้สายการบินหยุดให้บริการ ส่งผลกระทบให้ผู้ประกอบการค้าทองของไทย ไม่สามารถส่งออกทองคำได้ ขณะที่ต้นทุนค่าขนส่งทองคำรวมค่าประกัน (ค่า Premium) ปรับสูงขึ้นจากเดิม 30-50 เซนต์/ออนซ์ เป็น 25 เหรียญ/ออนซ์ นับเป็นวิกฤตที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
อย่างไรก็ตามทางสมาคมได้มีการประชุมเร่งด่วนกับสมาชิกผู้ประกอบการในช่วงเช้าที่ผ่านมา (25 มี.ค.) จึงมีมติให้ปรับส่วนต่างราคารับซื้อและขายออกทองคำแท่ง เป็น 300 บาท เพื่อให้การซื้อขายทองคำภายในประเทศยังดำเนินการต่อได้
โดยนายกสมาคมค้าทองคำ ระบุอีกว่า ราคาส่วนต่างที่ปรับใหม่นั้น จะช่วยประคองสภาพคล่องของผู้ค้าทองในไทยได้อย่างน้อยอีก 2-3 วันเท่านั้น หากราคาทองคำยังพุ่งสูงและมีแรงขายออกมามาก จะทำให้ผู้ค้าทองขาดสภาพคล่อง ซึ่งขณะนี้ยังต้องติดตามสถานการณ์ราคาทองคำแบบรายนาที
โดยเมื่อเวลา 10..29 น. สมาคมค้าทองคำประกาศราคารับซื้อทองคำแท่งที่ 24,500 บาท ขายออก 24,800 บาท ส่วนราคาทองรูปพรรณ รับซื้อ 24,058.92 บาท ราคาขายออก 25,300 บาท
นายวรุต รุ่งขำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ฟิวเจอร์ ระบุทิศทางทองคำยังเป็นขาขึ้น จากการที่ธนาคารกลางหลายประเทศใช้มาตรการอัดฉีดเม็ดเงิน โดยเฉพาะธนาคารกลางสหรัฐที่ใช้มาตรการไม่จำกัดวงเงิน ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า ทำให้ทองคำกลับมาเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่ได้รับความนิยม เพื่อป้องกันภาวะเงินเฟ้อจากการใช้มาตรการดังกล่าว ขณะที่แรงเทขายลดลงหลังเหมืองทองคำหลายแห่งปิดชั่วคราว เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างไรก็ตาม แม้ราคาทองมีทิศทางเป็นขาขึ้น แต่ยังมีแรงเทขายออกมาในช่วงสั้นที่จะทำให้ราคาทองคำย่อตัวลงได้
ขณะที่ปัจจัยที่ยังต้องติดตาม คือ การผ่านร่างงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจจากสภาคองเกรสอีก 2 ล้านล้านดอลลาร์ฯ หากผ่านจะทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าลงอีก ส่งผลต่อราคาทองคำให้ปรับขึ้นตาม แต่หากไม่ผ่านจะส่งผลให้ตลาดเงินตลาดทุนผันผวนและกดดันราคาทองให้ปรับตัวลง นอกจากนี้ วันนี้ยังต้องติดตามผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ซึ่งคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.25% ทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าใกล้เคียงในกรอบ 33.05-33.17 บาทต่อดอลลาร์ ส่งผลให้ราคาทองคำบวกเพิ่มได้อีก 100-150 บาท/บาททองคำ
สำหรับกรอบราคาทองคำวันนี้ แนวรับให้ไว้ที่ 1,585-1,607 ดอลลาร์/ออนซ์ และแนวต้านที่ 1,644 – 1,671 ดอลลาร์/ออนซ์ ราคาในประเทศแนะนำเข้าซื้อที่ 24,650-25,000 บาท/บาททองคำ โดย 25,000 บาทเป็นโซนเสี่ยง และขายทำกำไรที่ 25,600-26,000 บาท/บาททองคำ
ขณะที่ราคาทองคำปี 2563 เดือนมกราคมทำนิวไฮที่ 1,611 ดอลลาร์/ออนซ์ เดือนกุมภาพันธ์ทำนิวไฮที่ 1,689 ดอลลาร์/ออนซ์ และเดือนมีนาคมช่วงต้นเดือนทำนิวไฮที่ 1,703 ดอลลาร์/ออนซ์ .- สำนักข่าวไทย