ชะตาชีวิตคนทำงาน หลังห้างสรรพสินค้าปิด 22 วัน

กรุงเทพฯ 23 มี.ค. – ห้างสรรพสินค้า เป็นหนึ่งใน 25 สถานที่ที่ กทม.มีมาตรการปิดเป็นเวลา 22 วัน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งในกรุงเทพฯ มีห้างและศูนย์การค้ากว่า 100 แห่ง มีพนักงานจำนวนมาก คุณสันติวิธี พรหมบุตร ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ไปตามดูชีวิตของพนักงานส่วนหนึ่ง พบว่า หลายคนไม่มีค่าจ้างในช่วงหยุด 22 วันนี้ และใช้ชีวิตอย่างวิตก 


ขนมปัง 2 ชิ้น และเครื่องดื่มอีก 1 ขวด เป็นมื้อเที่ยงอันเรียบง่ายของ กัมปนาท ทันวิมา ชายหนุ่มวัย 28 ปี ที่จ่ายเงินค่าอาหารมื้อนี้อย่างประหยัดที่สุด 20 บาท เพราะต้องหยุดงานเป็นวันที่ 2 แล้ว หลังรัฐสั่งปิดห้างสรรพสินค้า สถานที่ทำงานของเขา เป็นเวลา 22 วัน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19


กัมปนาท เป็นพนักงานร้านอาหารในห้างสรรพสินค้าใหญ่แห่งหนึ่ง เขาได้เงินเดือน 12,000 บาท แต่การหยุด 22 วันนี้ นายจ้างไม่ได้จ่ายค่าจ้างให้ เฉลี่ยวันละ 380 บาท รวมแล้วเขาจะขาดรายได้ 8,360 บาท เขาบอกว่า ปกติเงินเดือนไม่ค่อยพอใช้จ่ายอยู่แล้ว มีภาระค่าเช่าห้องเดือนละ 2,200 บาท ค่าผ่อนรถจักรยานยนต์ 3,000 บาท ส่งให้พ่อแม่อีก 3,000 บาท แต่เดือนนี้ต้องปรับตัวให้อยู่รอด อยากกลับบ้านเกิดที่อุบลราชธานี แต่เห็นสภาพคนเดินทางจำนวนมาก จึงตัดสินใจอยู่ที่นี่ไปก่อน แต่ละวันจะมานั่งคุยกับลุงร้านตัดเย็บใต้อพาร์ตเมนต์ โดยใช้หน้ากากอนามัย ซึ่งที่ทำงานแจกให้ใช้มา 2 สัปดาห์แล้ว เป็นเครื่องป้องกัน 


เช ชาวเมียนมาเชื้อสายกะเหรี่ยง เป็นลูกจ้างร้านอาหารในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เขากำลังปลอบโยนภรรยาไม่ให้หวั่นวิตกมากเกินไป ทั้งคู่ทำงานที่เดียวกัน และต้องหยุดงานแบบไม่ได้เงินค่าจ้าง 22 วัน

เช และภรรยา ตัดสินใจไม่กลับเมียนมา บ้านเกิดที่จังหวัดเมียวดี เพราะกลัวว่าจะติดเชื้อโควิด-19 โดยไม่รู้ตัว และอาจนำเชื้อไปแพร่ให้ลูกวัย 2 ขวบ และญาติพี่น้อง เพราะพวกเขาทำงานบริการ ต้องเจอผู้คนจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา หลังต้องหยุดงานเป็นวันที่ 2 พวกเขาเก็บตัวในห้องพักแคบๆ ตรวจสอบข่าวจากเฟซบุ๊กในมือถือ ใช้เงินเก็บที่มีอยู่กว่า 10,000 บาท ซื้อข้าวสารตุนไว้ 20 กิโลกรัม

ประมวล ประสานเสียง และภรรยา ทำงานร้านอาหารเดียวกันในห้างสรรพสินค้าใหญ่แห่งหนึ่ง ได้ค่าจ้างรายวันรวมกันเดือนละกว่า 20,000 บาท 22 วันที่ต้องหยุด พวกเขาไม่ได้เงินค่าจ้างเช่นกัน เพราะมีค่าใช้จ่ายรายวัน ค่าห้อง ที่ต้องจ่ายอยู่แล้ว และสถานการณ์แบบนี้ไม่สามารถหางานที่ไหนทำได้

ห้างสรรพสินค้า เป็นหนึ่งในสถานที่ที่กรุงเทพมหานคร มีคำสั่งปิด 22 วัน นับจากวันที่ 22 มีนาคม – 12 เมษายน 2563 เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 หลังมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นวันละนับร้อยราย ข้อมูลในระบบของกรุงเทพมหานคร มีห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าเล็กใหญ่ราว 138 แห่ง แต่ละแห่งมีพนักงานจำนวนมาก โดยเฉพาะแรงงานภาคบริการ ที่มีทั้งคนไทยและแรงงานจากเพื่อนบ้านเมียนมา ลาว กัมพูชา ซึ่ง 22 วันนี้ มีทั้งคนที่ยังคงรอดูสถานการณ์ในกรุงเทพฯ และคนที่ตัดสินใจเดินทางออกจากกรุงเทพฯ กลับภูมิลำเนาของตัวเอง. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง