สงขลา 23 มี.ค. – บรรยากาศที่ด่านชายแดน จ.สงขลา เงียบเหงา หลังจังหวัดประกาศระงับการเข้า-ออกของบุคคลทุกสัญชาติ มีรายงานว่าแรงงานไทยติดอยู่ที่ด่านพรมแดนมาเลเซีย ไม่สามารถเดินทางกลับได้นับร้อยคน วิดีโอคอลขอความช่วยเหลือ
บรรยากาศที่ด่านพรหมแดนไทย-มาเลเซีย จ.สงขลา เช้านี้งียบเหงา โดยเฉพาะที่ด่านปาดังเบซาร์ อ.สะเดา และด่านประกอบ อ.นาทวี ซึ่ง จ.สงขลา ได้ออกประกาศคำสั่งเมื่อวานนี้ (22 มี.ค.) ให้ระงับการเดินทางเข้า-ออกของบุคคลทุกสัญชาติ รวมทั้งคนไทย ยานพาหนะ และสิ่งของ ผ่านจุดผ่านแดนถาวรตลอดแนวชายแดน จ.สงขลา เป็นการชั่วคราวนับตั้งแต่หลังเที่ยงคืนที่ผ่านมา ทำให้เช้านี้ เจ้าหน้าที่ได้ปิดประตูด่านชายแดนไม่ให้บุคคลและยานพาหนะเข้า-ออกอย่างสิ้นเชิง ยกเว้นที่ด่านพรมแดนสะเดา อ.สะเดา เพียงด่านเดียว ที่ผ่อนปรนให้รถขนส่งสินค้าพร้อมคนขับประจำรถ 1 คน สามารถเดินทางเข้า-ออกเพื่อขนส่งสินค้าข้ามแดนได้ แต่จะต้องผ่านการตรวจคัดกรองอย่างเข้มข้น ทั้งการตรวจวัดอุณหภูมิ ซักประวัติ หากพบพนักงานขับรถที่เป็นชาวต่างชาติมีไข้ จะไม่อนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศเด็ดขาด หากเป็นคนไทยจะทำการสอบสวนโรค และติดตามอาการ แนะนำให้กักตัว ซึ่งมาตรการปิดด่านในวันนี้ ส่งผลให้การขนส่งสินค้าเข้าออกเช้านี้เบาบางกว่าทุกวันที่ผ่านมา
บริเวณหน้าด่านพบว่ามีรถโดยสารที่มารอรับแรงงานไทยจำนวนหนึ่ง มีรายงานว่ามีแรงงานไทยอีกกว่า 240 คน ขณะนี้ติดอยู่ที่ด่านชายแดนมาเลเซีย ไม่สามารถกลับเข้ามาในประเทศไทยได้ทันตามเวลาที่จังหวัดประกาศ เนื่องจากเพิ่งทราบข่าว และการติดต่อรถโดยสารเพื่อเดินทางมาส่งยังฝั่งไทยทำได้ยาก เช่น แรงงานไทยกลุ่มนี้ จากกัวลาลัมเปอร์ ที่เดินทางออกจากกัวลาลัมเปอร์เมื่อคืนที่ผ่านมา แต่การเดินทางใช้เวลานานหลายชั่วโมง ทำให้มาไม่ทันด่านปิด และได้วิดีโอคอลเพื่อขอความช่วยเหลือ เนื่องจากเดินทางกลับเข้าประเทศไม่ทัน และถูกทางการมาเลเซียห้ามชุมนุมบริเวณด่านเพื่อรอความชัดเจนจากทางการไทย
อย่างไรก็ตาม สถานเอกอัครราชทูตประเทศไทย ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ได้ออกประกาศเพิ่มเติมกรณีปิดด่านทางบกชายแดนไทย-มาเลเซียชั่วคราว สำหรับคนไทยในมาเลเซียที่ต้องการประสงค์จะกลับประเทศไทย สามารถเดินทางกลับได้โดยช่องทางทางอากาศเท่านั้น ซึ่งจะต้องแสดงเอกสารต่อเจ้าหน้าที่ ทั้งใบรับรองแพทย์และเอกสารรับรองการเดินทางกลับประเทศไทยที่สถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุลใหญ่ และกระทรวงการต่างประเทศออกให้เท่านั้น. – สำนักข่าวไทย