กรุงเทพฯ22มี.ค..-แถลงการณ์ขบวนการสร้างเสริมสุขภาพประชาชนต่อสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อCovid-19 และการควบคุมพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและ 5 จังหวัด ปริมณฑล ขอให้ประกาศภาวะฉุกเฉินระยะสั้น เป็นเวลา 3 สัปดาห์เพื่อหยุดการแพร่กระจายของโรค
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ Covid-19 ในประเทศไทย เป็นการแพร่ระบาดไปทั่วทุกภูมิภาคแทบทุกจังหวัด ไม่จำกัดอยู่เพียงสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง ที่น่ากังวลยิ่งคือมีผู้ป่วยติดเชื้อภายในประเทศที่ไม่สามารถระบุต้นตอที่มาของการติดเชื้อได้ ประกอบกับมีบางประเทศซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านไม่มีระบบเฝ้าระวังที่เข้มแข็งเพียงพอ ผู้ป่วยส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง ไม่รู้ตัวว่าติดเชื้อ ไม่ได้มารักษาตั้งแต่ต้นในทันที มีการใช้ชีวิตอย่างปกติ ไม่ได้ป้องกันการแพร่เชื้อที่เหมาะสม รวมถึงล่าสุดในวันนี้กรุงเทพมหานคร ได้ออกประกาศสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราวฉบับที่สอง ประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว(ฉบับที่2) ในวันนี้ให้ปิดสถานที่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2563 ถึงวันที่12 เมษายน 2563 อาทิ ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า เว้นแต่ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านขายยาหรือสินค้าเบ็ดเตล็ดที่จําเป็นต่อการ ดำรงชีวิต ร้านอาหาร พื้นที่นั่งหรือยืนรับประทานอาหารในร้านสะดวกซื้อ ฯลฯ ตลอดจนในสมุทรปราการ สมุทรสาคร นครปฐม นนทบุรี และปทุมธานี ที่ออกประกาศเช่นเดียวกัน
ขบวนการสร้างเสริมสุขภาพประชาชน มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง จึงขอแสดงจุดยืนและมีข้อเสนอดังนี้
1. ขอสนับสนุนมาตรการจำกัดการเข้าออกในแต่ละจังหวัด และขอให้ประกาศภาวะฉุกเฉินระยะสั้น เป็นเวลา 3 สัปดาห์เพื่อหยุดการแพร่กระจายของโรค และดำเนินการป้องกันแก้ไขอย่างเต็มระบบ โดยประกาศรับรองให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อCovid-19เข้าสู่ระยะที่ 3 รวมถึงใช้ พรบ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย พ.ศ.2550 ให้จังหวัดประกาศเขตภัยพิบัติเสริมความคล่องตัวการทำงานในจังหวัด
2.จากการปิดสถานที่ที่เกิดขึ้น ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาด โควิด 19 กลุ่มแรงงานในระบบ รัฐบาลควรให้เงินสมทบเมื่อว่างงาน โดยจ่ายให้ร้อยละ 80 (จากที่กำหนดไว้เดิมแค่ร้อยละ 50) เป็นระยะเวลา 60 วัน และแรงงานนอกระบบให้หามาตรการช่วยเหลือในอัตราร้อยละ 80 ของค่าแรงขั้นต่ำ เป็นเวลา60 วันเช่นเดียวกัน
3.ขอให้รัฐบาล จัดหาหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือ แจกฟรีให้กับประชาชน ซึ่งเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ หมวด 3 สิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทย มาตรา 47 “….บุคคลย่อมมีสิทธิ ได้รับการป้องกันและขจัดโรคติดต่ออันตรายจากรัฐโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย” และขอเรียกร้องให้มีความร่วมมือกับหน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชน เช่น สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงทุกแห่งจัดหาเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ แจกให้ประชาชนฟรีในทุกๆ สถานี
4.ขอเรียกร้องต่อ ผู้บริหารร้านสะดวกซื้อทุกแบรนด์ ได้จัดให้มีจุดล้างมือ สบู่ น้ำ (แบบไม่สัมผัส) หรือเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า 100% รวมถึงกำหนดให้ทั้งผู้ขายและผู้ซื้อสวมหน้ากากอนามัย และลดการสัมผัสในทุกกรณี เช่น ปุ่มกด All member
5.ขอให้กรุงเทพมหานคร และทุกจังหวัด ดำเนินการจัดระเบียบร้านค้า แผงขายอาหารในตลาดสด ตลาดนัด (แหล่งอาหารการกิน) ให้สอดรับกับมาตรการควบคุมสถานการณ์ เช่นจัดให้มีระยะห่างระหว่างแผงค้า ให้ใส่หน้ากากอนามัยทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ กำหนดจุดล้างมือไร้สัมผัส หรือติดตั้งอ่างล้างมือด้วยสบู่(ใช้เท้าเปิดปิดน้ำ) การสแกนตรวจวัดไข้ และมีการประชาสัมพันธ์วิธีปฏิบัติตนที่ถูกต้องอย่างต่อเนื่อง เป็นต้น ตลอดจนจัดการระบบป้องกันและกลไกสนับสนุนอื่นๆให้ร้านสะดวกซื้อรายย่อยในชุมชนให้ยืนหยัดอยู่ได้ เพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงแหล่งอาหารได้อย่างเพียงพอ
6.ขอวิงวอนต่อพี่น้องประชาชน ลดการเคลื่อนที่เดินทางออกต่างจังหวัด เพื่อระงับการแพร่กระจายของเชื้อCovid-19 ให้ความร่วมมือกับภาครัฐอย่างเต็มที่ ไม่กระทำการใดๆที่เป็นอุปสรรคต่อการป้องกันและแก้ไขปัญหา โดยยึดหลัก “เดินทางน้อยเสี่ยงน้อย” “กลับต่างจังหวัด=นำความเสี่ยงไปด้วย”
7.ขอให้ภาครัฐสนับสนุนกิจกรรรมและโครงการที่เพิ่มการสร้างความมั่นคงทางอาหารของชุมชนทั้งในเขตเมืองและชนบท เช่น การปลูกผักในเมือง และการเกษตรแบบผสมผสาน เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย