“พิธีพุทธาภิเษก” วัดราชบพิธฯ ไม่เปิดสาธารณะ เลี่ยงโควิด-19

วัดราชบพิธฯ 19 มี.ค.-เฟซบุ๊กสำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เผยแพร่ประกาศ เรื่องมาตรการเฉพาะสำหรับพิธีพุทธาภิเษก ณ วัดราชบพิธฯ ในวันเสาร์ที่ 28 มี.ค.63 เป็นกิจภายใน ไม่เปิดเป็นการสาธารณะ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 


ประกาศสำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ที่ 2/2563 เรื่อง มาตรการเฉพาะ สำหรับพิธีพุทธาภิเษก  ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ระหว่างสถานการณ์โรคระบาด

ตามที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม กำหนดจัดพิธีพุทธาภิเษกพระพุทธรูป มังคลาภิเษกพระบรมรูป พระรูป และเหรียญ เนื่องในศุภมงคลสมัย 150 ปีแห่งการสถาปนาวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ในวันเสาร์ ที่ 28 มีนาคม 2563 นั้น


เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา2019(COVID-19) วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามและสำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราชจึงประกาศให้การจัดพิธีดังกล่าวเป็นกิจภายใน ไม่เปิดเป็นการสาธารณะ พร้อมกำหนดมาตรการ ดังต่อไปนี้

1.อนุญาตให้เฉพาะพระภิกษุที่ได้รับอาราธนาและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ซึ่งผ่านการคัดกรองทางการแพทย์บริเวณหน้าประตูวัดฝั่งถนนราชบพิธเท่านั้นที่จะสามารถเข้าไปในวัดได้ โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เฝ้าตรวจนับจำนวนบุคคลที่อยู่ในบริเวณพิธี ให้มีได้ไม่เกิน 100 คน

2.ไม่อนุญาตให้พระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไปที่ไม่ได้รับมอบหมายหน้าที่ปฏิบัติจากวัดราชบพิธ และสำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เข้าพื้นที่วัดราชบพิธ ในวันเสาร์ ที่ 28 มีนาคม 2563


3.งดการสัมผัสพระวรกาย และการสัมผัสร่างกาย ระหว่างบุคคลโดยเด็ดขาด

4.งดการถวายสิ่งของต่อพระหัตถ์เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช 

5.งดการกราบลงบนพื้นโดยปราศจากผ้าหรือกระดาษของเฉพาะตนรองมือและหน้าผาก ทั้งนี้ กิริยายืนและน้อมไหว้ เป็นการแสดงความเคารพตามพระธรรมวินัย สามารถใช้ได้อย่างเหมาะสมในสถานการณ์โรคระบาด โดยไม่จำเป็นต้องกราบ

6.การนั่ง ยืน เดิน ควรเว้นพื้นที่ระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 2 เมตร

7.ให้พระภิกษุสามเณร เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และบุคคลภายนอกที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ปฏิบัติตามคำสั่ง คำแนะนำทางการแพทย์และการสาธารณสุขของแพทย์ บุคลากรทางการแพทย์ กับทั้งคำสั่ง คำแนะนำทางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งประจำอยู่ในพิธีและในพื้นที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม อย่างเคร่งครัด

ประกาศ ณ วันที่ 18 มีนาคม 2563 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

วันที่ 11 ปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. ถล่ม

วันที่ 11 ของปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. พังถล่ม เจ้าหน้าที่เดินหน้าใช้เครื่องจักรหนักเข้า เคลียร์ซากต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซนบี และซี ที่คาดว่าเป็นจุดที่มีผู้ติดค้างอยู่จำนวนมาก

ชุดค้นหาลงโพรงโซน B, C ลึก 5-6 เมตร ได้กลิ่นแรง ไม่พบผู้สูญหาย

“กู้ภัย” เผยเจาะโพรงพื้นที่โซน B และ C ได้แล้ว พร้อมส่งชุดค้นหาลงโพรงไปตรวจสอบลึก 5-6 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม แต่ได้กลิ่นแรง เร่งเดินหน้าเครื่องจักรหนักเคลียร์ซากต่อเนื่อง ยันจะช่วยเหลือจนกว่านำร่างสุดท้ายออกมาครบ