fbpx

บริษัทในนิคมฯ มาบตาพุด นำร่อง Work from home

ระยอง 18 มี.ค.- บีแอลซีพี เขตนิคมฯ มาบตาพุด รับมือโควิด-19 เน้นจุดยืนความปลอดภัยพนักงานและรับผิดชอบต่อสาธารณะ นำร่องให้พนักงานบางส่วนทำงานจากบ้านผ่านระบบปฏิบัติการแล้ว พบการทำงานเต็มประสิทธิภาพ


นายยุทธนา เจริญวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีแอลซีพี เพาเวอร์ จำกัด (BLCP) นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง เปิดเผยว่า โรงไฟฟ้าบีแอลซีพี ได้เตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์แพร่ระบาด COVID-19 โดยทดลองใช้แผนต่อเนื่องทางธุรกิจด้วยการคำนึงถึงสิ่งสำคัญที่สุด 2 ประการ คือ 1. ความปลอดภัยของพนักงานและผู้ที่ปฏิบัติงานในบีแอลซีพี 2.บริษัทฯ สามารถดำเนินการผลิตและการส่งจ่ายกระแสไฟฟ้า กำลังการผลิต 1,400 เมกะวัตต์ เข้าสู่ระบบของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) อย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนความมั่นคงของระบบไฟฟ้าของ กฟผ.

บริษัทฯ จึงออกมาตรการให้พนักงานทดลองทำงานที่บ้าน (Work from home) เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2563 โดยใช้ระบบปฏิบัติการต่างๆ ที่บริษัทฯ จัดเตรียมไว้ โดยพบว่าการทำงานที่บ้านเป็นไปอย่างเต็มประสิทธิภาพ และสามารถลดความเสี่ยงในการปฏิสัมพันธ์ของพนักงานได้เป็นอย่างดี


ด้าน น.ส.วิมล ยงพานิชกุล ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท บีแอลซีพี กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 เป็นเรื่องที่บริษัทเน้นตระหนักอย่างมาก และได้รับมือกับสถานการณ์ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ขณะนี้มีพนักงานสามารถทำงานจากบ้านได้แล้วจำนวนหนึ่ง ส่วนพนักงานที่ยังต้องมาปฏิบัติหน้าที่ในบริษัทเป็นส่วน operation แม่บ้าน และผู้รับเหมา ซึ่งพนักงานที่มาทำงานในบริษัทก็จะมีมาตรการป้องกันและตรวจคัดกรองอย่างเข้มข้น เมื่อเข้าในเขตพื้นที่โรงไฟฟ้าบีแอลซีพีจะมีจุดติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิ (เทอร์โมสแกน) ที่ประตูก่อนเข้าในเขตพื้นที่โรงไฟฟ้า ส่วนบริษัทอื่นในนิคมฯ มาบตาพุดเชื่อว่ามีมาตรการคุมเข้มเช่นเดียวกัน ขึ้นอยู่ว่าแต่ละแห่งจะใช้นโยบายหรือมาตรการแบบใด และก็มีอีกบางบริษัทให้พนักงานทำงานจากบ้านแล้วเหมือนกัน.-สำนักข่าวไทย

 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้

อาลัย “อดีตแข้ง U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา

วงการลูกหนังอาลัย “อดีตนักเตะ U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา ชาวบ้านเผยจุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ลงสะพานอย่าขับเร็ว

สอบเพิ่ม “ไอ้แม็ก” ฆ่าชิงทรัพย์หญิงขับโบลท์ ฝากขังพรุ่งนี้

ตำรวจคุมตัว “ไอ้แม็ก” สอบปากคำเพิ่มคดีฆ่าชิงทรัพย์โชเฟอร์สาวขับโบลท์ เจ้าตัวปฏิเสธไปชี้จุด อ้างปวดท้องไม่สบาย เตรียมฝากขังพรุ่งนี้