สิงคโปร์ 16 ส.ค. – ผลโพลล์ชี้ว่า แรงงานในสิงคโปร์ราวร้อยละ 40 จะปฏิเสธงาน หากไม่ได้รับอนุญาตให้ทำงานจากที่บ้าน หรือนายจ้างไม่อนุญาตให้เข้างานแบบเหลื่อมเวลาทำงานได้
แรนด์สตัด (Randstud) บริษัทที่ปรึกษาด้านทรัพยากรมนุษย์ของเนเธอร์แลนด์ ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นรายครึ่งปีของผู้ตอบแบบสอบถามที่เป็นแรงงานในสิงคโปร์ 1,000 คน อายุ 18-67 ปี ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคมที่ผ่านมา ผลสำรวจดังกล่าว ซึ่งได้รับการเผยแพร่เมื่อวันจันทร์ พบว่า แรงงานในสิงคโปร์ร้อยละ 42 จะปฏิเสธงาน หากนายจ้างไม่อนุญาตให้ทำงานจากที่บ้าน ขณะที่ร้อยละ 52 เล็งเห็นความสำคัญของการทำงานจากที่บ้าน และมีเพียงร้อยละ 52 ที่ระบุว่านายจ้างอนุญาตให้ทำงานจากบ้านได้ นอกจากนี้ ร้อยละ 41 ยังระบุว่า จะปฏิเสธงาน หากนายจ้างไม่อนุญาตให้เข้างานแบบเหลื่อมเวลาทำงาน
ผลสำรวจความเห็นของแรนด์สตัดยังพบว่า แรงงานในสิงคโปร์ร้อยละ 80 ให้ความสำคัญกับการเข้างานแบบเหลื่อมเวลาทำงาน แต่มีเพียงร้อยละ 60 ที่ระบุว่าได้รับอนุญาตให้เข้างานแบบเหลื่อมเวลาทำงาน และมีร้อยละ 27 ที่ลาออกจากงาน เพราะนายจ้างไม่มีนโยบายยืดหยุ่นเรื่องเวลาทำงานและสถานที่ทำงาน
ก่อนหน้านี้ กระทรวงแรงงานสิงคโปร์ สภาสหภาพการค้าแห่งชาติสิงคโปร์ และสภาองค์กรนายจ้างแห่งชาติสิงคโปร์ ได้ออกมาสนับสนุนให้นายจ้างปรับใช้แนวทางการทำงานที่ยืดหยุ่นให้แก่ลูกจ้าง โดยให้เหตุผลว่าแนวทางดังกล่าวจะช่วยให้เกิดความยืดหยุ่นในสถานที่ทำงานท่ามกลางสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งยังระบุว่า บริษัททั่วโลกเริ่มหันมาใช้แนวทางนี้เป็นแนวทางการทำงานในอนาคตอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย