กรุงเทพฯ 17 มี.ค. – สุวรรณภูมิรายงานคัดกรองผู้โดยสารตามมาตรการป้องกันโควิด-19 จำนวน 665 เที่ยวบิน พบผู้โดยสารมีไข้ 2 ราย นำส่งโรงพยาบาล
ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (EOC) COVID – 19 รายงานผลการสรุปจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางผ่านเข้า – ออก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ประจำวันอังคารที่ 17 มีนาคม 2563 ข้อมูลวันที่ 16 มีนาคม 2563 เวลา 00.00 – 23.59 น. จำนวน 665 เที่ยวบิน เป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 437 เที่ยวบิน ขาออก 215 เที่ยวบิน ขาเข้า 222 เที่ยวบิน และเที่ยวบินภายในประเทศ 228 เที่ยวบิน ขาออก 114 เที่ยวบิน ขาเข้า 114 เที่ยวบิน สรุปผู้โดยสารที่เดินทางผ่านเข้า – ออก ทสภ. จำนวน 71,523 คน ผู้โดยสารระหว่างประเทศ 49,355 คน ขาออก 31,300 คน ขาเข้า 18,055 คน และผู้โดยสารภายในประเทศ 22,168 คน ขาออก 9,218 คน ขาเข้า 12,950 คน
ทั้งนี้ จากข้อมูลวันที่ 16 มีนาคม 2562 มีเที่ยวบินรวม 1,074 เที่ยวบิน แบ่งเป็นเที่ยวบินขาออก 535 เที่ยวบิน เที่ยวบินขาเข้า 539 เที่ยวบิน เมื่อเปรียบเทียบกับวันที่ 16 มีนาคม 2563 ทสภ. มีเที่ยวบินลดลงร้อยละ 38.1 และในส่วนของจำนวนผู้โดยสารเมื่อมีการเปรียบเทียบจากปีที่ผ่านมามีจำนวนผู้โดยสารทั้งสิ้น 195,452 คน แบ่งเป็น ผู้โดยสารขาออก 99,159 คน และผู้โดยสารขาเข้า 96,293 คน ลดลงร้อยละ 63.4
โดยด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ทสภ.ได้ดำเนินการคัดกรองผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ 18,055 คน พบผู้โดยสารเข้าเกณฑ์ PUI จำนวน 2 ราย ได้นำตัวส่งโรงพยาบาล สำหรับผู้โดยสารที่เป็นแรงงานไทยที่เดินทางมาจากประเทศเกาหลีใต้ 115 ราย จำแนกเป็นผู้โดยสารที่มีวีซ่าการเดินทางหมดอายุ (Overstay) 71 ราย ไม่พบผู้โดยสารที่เข้าเกณฑ์ PUI และเก็บตัวอย่างบุคลากรใน ทสภ. ส่งตรวจ 5 คน อยู่ระหว่างรอผล Lab และเก็บตัวอย่างผู้โดยสารคนไทย ที่ไม่มีเอกสารแสดงผลการตรวจ Covid -19 ใน 48 ชั่วโมง จำนวน 3 คน อยู่ระหว่างรอผล Lab โดยที่ผู้โดยสารพักรออยู่ที่ห้องตรวจคัดกรองของด่านควบคุมโรคฯ สุวรรณภูมิ
ทั้งนี้ ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ทสภ.ได้ดำเนินการคัดกรองผู้โดยสารขาออก 31,300 คน ไม่พบผู้โดยสารเข้าเกณฑ์ PUI วันที่ 16 มีนาคม 2563 มีเที่ยวบินที่มาจากประเทศเกาหลี 4 เที่ยวบิน (สายการบินไทย 2 เที่ยวบิน KOREAN AIRLINES 2 เที่ยวบิน) มีจำนวนผู้โดยสารทั้งสิ้น 304 คน โดยเป็นผู้โดยสารคนไทยจำนวน 115 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้โดยสารที่เป็นแรงงานไทยที่เดินทางมาจากประเทศเกาหลี ที่มีวีซ่าการเดินทางหมดอายุ (Overstay) 71 คน
ทั้งนี้ วันที่ 18 มีนาคม 2563 เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป ทสภ.จะปรับเปลี่ยนกระบวนการตรวจคัดกรองอุณหภูมิ ซึ่งจากเดิมตรวจคัดกรองฯ เฉพาะผู้โดยสารเป็นการตรวจคัดกรองผู้ที่จะผ่านเข้าไปภายในอาคารผู้โดยสารทั้งหมด หรือเรียกว่าการคัดกรองแบบ Terminal Screening ซึ่งผู้โดยสาร ผู้ใช้บริการ ผู้ประกอบการ และผู้ปฏิบัติงาน ณ ทสภ.ต้องได้รับการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าภายในอาคารผู้โดยสาร เพื่อให้การคัดกรองมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทสภ.จึงปิดประตูเข้า – ออก อาคารผู้โดยสารบางส่วน และกำหนดให้มีจุดคัดกรอง ณ ประตูเข้า – ออกที่เปิดใช้งาน คือ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 เปิดใช้งานประตูหมายเลข 2 , 4 , 7 และ 9 อาคารผู้โดยสาร ชั้น 3 เปิดใช้งานช่องทางเชื่อมอาคารจอดรถยนต์ ประตู หมายเลข 3 และ 8 คงเดิม อาคารผู้โดยสารขาเข้า ชั้น 2 เปิดใช้งานประตูหมายเลข 5 เฉพาะการผ่านเข้า และเปิดการใช้งานประตูหมายเลข 3 , 4 , 6 ,8 และ 10 สำหรับการผ่านออกเท่านั้น อาคารผู้โดยสาร ชั้น 1 เปิดใช้งานประตูหมายเลข 3 และ 7 อาคารผู้โดยสารชั้นใต้ดิน B1 กำหนดทางเข้าและออกอย่างละ 1 ช่องทาง กรณีตรวจพบผู้โดยสารมีอุณหภูมิร่างกายสูงกว่า 37.5 องศาเซลเซียส เจ้าหน้าที่จะแนะนำให้พักรอและทำการตรวจซ้ำอีกครั้ง หากยังตรวจพบอุณหภูมิร่างกายสูงกว่าค่าที่กำหนด ผู้โดยสารจะต้องเข้าสู่กระบวนการตรวจประเมินต่อไป
ทั้งนี้ กระบวนการหรือขั้นตอนคัดกรองดังกล่าวอาจกระทบกับเวลาหรือเที่ยวบิน ทสภ.จึงขอความร่วมมือให้ผู้โดยสารเผื่อเวลาในการเดินทางมาสนามบินเพื่อป้องกันการพลาดเที่ยวบิน.-สำนักข่าวไทย