ยอดป่วยโควิด-19 เพิ่มอีก 30 คน รวมสะสม 177 คน

สธ.17 มี.ค.-สธ.เผยยอดป่วยโควิด-19 เพิ่มอีก 30 คน ทำให้ยอดรวมพุ่ง 177คน ย้ำเตรียม รพ.-เตียงรองรับผู้ป่วยพอ หากเกิดระบาดหนักเมษายน ส่วนผู้ป่วยนอน รพ.เอกชน ไม่ต้องสำรองจ่ายรัฐดูแล ติดขัดโทร 1669 กรณีพบคนไข้แกล้งไอใส่แพทย์พยาบาล ย้ำมีความผิด เพราะโควิด-19 เป็นโรคติดต่ออันตราย จ่อเอาผิดทางอาญา ขอให้เห็นใจบุคลากรด้วย


นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (ปลัด สธ.) แถลงข่าวสถานการณ์การติดเชื้อโรคโควิด -19 ว่า พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มอีก 30 คน  ทำให้มีจำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสมรวม 177 คน โดยจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ที่พบเป็นกลุ่มเฝ้าระวังเดิมที่อยู่ในผู้ป่วยติดเชื้อแบบกลุ่มก้อน ที่สนามมวย ทั้งราชดำเนิน ลุมพินี อ้อมน้อย 11 คน และมีรายงานผู้ป่วยมาจากสถานบันเทิงอีก 1 คน กลับจากต่างประเทศอีก 9 คน ทำงานใกล้ชิดสัมผัสต่างชาติอีก 1คน (คนขับรถแท๊กซี่) และกลุ่มที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยเดิมอีก  2 คน ส่วนที่เหลือเป็นกลุ่มผู้ที่เดินทางมาจากอิตาลีอีก 6 คน 


นพ.สุขุม  กล่าวต่อไปว่า  ขณะเดียวกันพบปัญหาภาวะความเครียดจากสถานการณ์ดังกล่าว  ทำให้มีประชาชนบางส่วนต้องการตรวจโควิด หรือ ไม่พอใจ แสดงอาการไอใส่เจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์ เรื่องนี้ถือเป็นความผิดทางอาญา เพราะโรคนี้ถือเป็นโรคระบาดอันตราย การกระทำเท่ากับข่มขู่ คุกคามแพทย์ พยาบาล มีความผิดตามกฎหมายอาญา หากแพทย์คนใดเจอเหตุการณ์เช่นนี้จะดำเนินคดีกับคนกระทำการดังกล่าวให้ถึงที่สุดเพราะขณะนี้ แพทย์พยาบาล ทำงานกันอย่างเต็มที่ 

พร้อมกล่าวต่อไปว่า สถานพยาบาลเอกชนที่รับตรวจแล็บโควิด ต่อไปต้องรับรักษาด้วยให้เป็นมาตรฐานเดียวกันและทางกระทรวงสาธารณสุขจะเข้าไปช่วยเหลือจัดจ่ายส่วนต่างให้เหมาะสม ยืนยันคนป่วยโควิด-19 หากเข้ารักษา รพ.เอกชนไม่ต้องจ่ายเงินสำรองก่อน หากติดขัดแจ้งสายด่วน 1669


ด้าน นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ขณะนี้การพบผู้ป่วยเพิ่มส่วนใหญ่เป็นคนที่อาศัยอยู่ใน กทม.ร้อยละ80-90 การวางระบบและการจัดหาเตียงขณะนี้ ยืนยันว่ามีเพียงพอ จากการหารือร่วมกับโรงพยาบาลในสังกัด กทม.มหาวิทยาลัย เหล่าทัพ ได้มีการตรวจจัดทำวอร์ดรักษาเฉพาะผู้ป่วยโรคโควิด -19 ในทุกโรงพยาบาล ขณะนี้มีเตียงสำรองเบื้องต้น 234 เตียง และคาดว่าในสัปดาห์หน้า จะได้จัดสรรให้ชะลอผู้ป่วยอาการไม่รุนแรงไปรับยาที่ร้านขายยา เพื่อลดความแออัด เพิ่มเตียง และลดความแออัดในสถานพยาบาล ทำให้จะสามารถมีเตียงเพิ่มได้มากถึง 400 เตียง  โดยในส่วนความร่วมมือของโรงพยาบาลที่ร่วมได้แก่ รพ.บางขุนเทียน รพ.ทุ่งสองห้อง รพ.รามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ รพ.ศูนย์การแพทย์กาญจนภิเษก ศาลายา เป็นต้น  นอกจากนี้ยังมีแผนนำโรงพยาบาลจิตเวช อาทิ ศรีธัญญาและสถาบันจิตเวช สมเด็จเจ้าพระยา ฯร่วมด้วย 

นพ.สมศักดิ์ ยอมรับหนักใจเรื่องการจัดหาเตียงผู้ป่วยโควิด-19 ไว้รองรับ เพราะส่วนใหญ่ประชาชนยังไม่เข้าใจ เกิดแรงต้าน ในส่วนของ รพ.บางบัวทอง ที่มีประชาชนออกมาต้านอยากให้ไปใช้โรงพยาบาลอื่นแทน ขณะเดียวกันได้วางแนวทางการสำรองและจ่ายยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) ในการรักษาอาการของโควิด -19 ในส่วนของ กทม.ให้ รพ.ราชวิถี เป็นคนกระจายยา ส่วนในภูมิภาคต่างจังหวัดได้มอบให้ทางโรงพยาบาลศูนย์และพื้นที่เป็นผู้กระจายให้กับโรงพยาบาลอื่นๆ รวมถึงเอกชน                                            

นพ.สมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า คาดว่าในอนาคตราวเดือนเมษายนอาจมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น การรักษาดูแล นอกจากการจัดตั้งวอร์ดเฉพาะ โควิด-19 แล้ว ยังรวมไปถึงการปรับเกณฑ์การดูแลผู้ป่วยในระยะเวลา หากมีอาการป่วยรุนแรงและในสถานการณ์เตียงไม่พอ จะใช้เกณฑ์การรักษาภายใน 48 ชั่วโมงให้นอนรักษา รพ.ก่อน เพราะอยู่ในช่วงการป่วยปอดอักเสบ ขณะเดียวกันเพื่อได้มีการจัดเตรียมทีมแพทย์หมุนเวียน พร้อมอุปกรณ์ป้องกันไปดูแล

นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 พบในชายและหญิงเท่าๆกัน การคาดการณ์ การระบาดของเดือนเมษายน เพราะเกี่ยวข้องกับการเดินทาง หากประชาชนให้ความร่วมมือไม่เดินทางไปสถานที่แออัด พื้นที่เสี่ยง ป่วยหยุด การระบาดก็ไม่เพิ่ม .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสานตอนบน ฝนตกหนักบางแห่ง

กรุงเทพฯ 29 ก.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือตอนบน ภาคอีสานตอนบน และบริเวณด้านรับลมมรสุมมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และบริเวณด้านรับลมมรสุมมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน ตาก บึงกาฬ นครพนม จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 […]

หยุดยิง! ชายแดนไทย-กัมพูชา เงียบสนิทตามเดดไลน์ 24.00 น.

29 ก.ค. – ไทย-กัมพูชา ตกลงหยุดยิงพร้อมกัน 24.00 น.ที่ผ่านมา โดยไม่มีเงื่อนไข ถือเป็นก้าวแรกสำคัญในการคลี่คลายสถานการณ์ รวมถึงฟื้นฟูสันติภาพและความมั่นคง ส่วนเช้าวันนี้ (29 ก.ค.) มีการประชุมระหว่างแม่ทัพของทั้งสองประเทศ และการประชุมระดับรัฐมนตรีกลาโหม 4 ส.ค. วานนี้ (28 ก.ค.) ที่ประชุมสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ทำเนียบนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่มีนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน เป็นคนกลางในการเจรจา สมเด็จฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ที่ประชุมบรรลุข้อตกลง 3 ข้อโดยเฉพาะ “ข้อตกลงหยุดยิงทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข” มีผลตั้งแต่เที่ยงคืนที่ผ่านมา ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการคลี่คลายสถานการณ์ และฟื้นฟูสันติภาพและความมั่นคง เช้าวันนี้ (29 ก.ค.) มีการจัดประชุมอย่างไม่เป็นทางการ ระหว่างผู้บัญชาการกองกำลังของ 2 ประเทศ ได้แก่ กองทัพภาคที่ 1 และ 2 ของฝ่ายไทย และกองทัพภาคที่ […]

น้ำทะลักท่วม 4 ชุมชนริมน้ำแม่สาย เดือดร้อนหลายร้อยครัวเรือน

เชียงราย 28 ก.ค. – สถานการณ์น้ำท่วมแม่สายยังวางใจไม่ได้ หลังมวลน้ำจากต้นน้ำแม่สายที่เมียนมา สูงขึ้นต่อเนื่องตลอดทั้งวัน จนน้ำสายทะลักท่วมบ้านเรือนประชาชน 4 ชุมชน ชาวบ้านเดือดร้อนหลายร้อยครัวเรือน บริเวณสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 1 เจ้าหน้าที่นำรถแบ็กโฮแขนยาวมาตักเศษไม้เศษสวะที่ขวางทางน้ำ ซึ่งระดับน้ำในลำน้ำสายที่กั้นพรมแดนไทย-เมียนมา เพิ่มสูงจนเกือบล้นขึ้นมาบนสะพานแล้ว แต่ยังอยู่ต่ำกว่าแนวป้องกันน้ำท่วมที่ทางกรมการทหารช่างสร้างไว้ แต่น้ำไหลเชี่ยวกราก พัดเอาเศษไม้เศษขยะซัดกระแทกสะพานอย่างอย่างต่อเนื่อง โดยน้ำในลำน้ำสายทรงตัวสูงมาหลายชั่วโมงแล้ว หลังทะลักเข้าท่วมหลายชุมชนชายแดนแม่สายซ้ำรอยปีที่แล้ว แม้ระดับน้ำและสถานการณ์ยังไม่หนักเท่า แต่ต้องเฝ้าระวัง ขณะที่ทางฝั่งจังหวัดท่าขี้เหล็ก ของเมียนมา กำลังถูกน้ำท่วมหนัก จนต้องปิดด่านชายแดนไปก่อน และน้ำที่ผ่านไหลสะพานตอนนี้ ถือว่าเป็นมวลน้ำก่อนใหญ่ก้อนสุดท้ายที่ไหลมาจากต้นน้ำที่หมู่บ้านโจตาดา ประเทศเมียนมา ที่อยู่ห่างจากสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 1 ไปกว่า 30 กิโลเมตร หากผ่านพ้นค่ำคืนนี้ไปได้และไม่มีฝนตกหนักทางต้นน้ำน่าจะพอเบาใจได้ นายอำเภอแม่สายบอกว่า ตอนนี้อพยพประชาชนกลุ่มเปราะบาง ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียงไปอยู่ตามศูนย์พักพิงและพื้นที่ปลอดภัยแล้ว.-สำนักข่าวไทย

น้ำยืนเดือด ระเบิดตก 8 ลูก วัวตาย 1 ตัว

อุบลราชธานี 28 ก.ค. – ตลอดช่วงบ่ายที่ผ่านมา พื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ยังมีรายงานเสียงปืนใหญ่ดังต่อเนื่อง จรวด BM 21 จำนวน 8 ลูก ข้ามตกข้ามมายังฝั่งไทย ทำให้พื้นที่การเกษตรเสียหาย วัวของชาวบ้านตาย 1 ตัว ช่วงบ่ายที่ผ่านมา จรวด BM 21 จำนวน 8 ลูก ตกยังพื้นที่สวนปาล์ม จากนั้นเจ้าหน้าที่เดินทางเข้าไปตรวจสอบพบความเสียหายจากแรงระเบิดหลายจุด อีกทั้งยังทำให้วัวตาย 1 ตัว ด้านเจ้าของวัวได้ให้ข้อมูลว่า แถวหมู่บ้านไม่เคยพบกระสุนเข้ามาตกในพื้นที่ ขณะเกิดเหตุตนกำลังเกี่ยวหญ้าให้วัว ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่น รู้สึกตกใจมาก รีบวิ่งไปดูวัว ซึ่งต่อมาได้ตายระหว่างเคลื่อนย้ายอพยพ อีกทั้งเป็นที่น่าสังเกตว่าเวลา 15.00 น. ซึ่งมีการเริ่มการเจรจาระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชา ที่ประเทศมาเลเซีย เสียงปืนได้สงบลงประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นเมื่อเวลา 16.00 น. ก็เริ่มได้ยินเสียงปืนใหญ่ดังกึกก้องต่อเนื่องอีกครั้ง ส่วนบรรยากาศในตลาดสดแห่งหนึ่งในพื้นที่ปะทะ ยังมีกลุ่มพ่อค้าจิตอาสาช่วยกันจัดเตรียมอาหาร เพื่อนำอาหารไปแจกจ่ายแก่ผู้นำชุมชนรวมถึงเจ้าหน้าที่ โดยได้ตั้งโรงครัว […]