สภาอุตฯ มอบหน้ากาก 1 แสนชิ้นให้โรงพยาบาล

กรุงเทพฯ 14 มี.ค.- ส.อ.ท.มอบหน้ากากผ้า 1 แสนชิ้น ให้ 10 โรงพยาบาลรัฐ พร้อมมอบแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ 300,000 ลิตรให้โรงพยาบาลที่จำเป็น


นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ภายในเดือนนี้ ได้เตรียมหน้ากากผ้า 100,000 ชิ้น มอบให้โรงพยาบาลรัฐ 10 แห่ง รองรับการรักษากลุ่มเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 โดยหน้ากากผ้าคุณภาพเพียงพอ ลดความเสี่ยงการติดเชื้อ ผ่านการทดสอบจากสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอและสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.)  มีคุณสมบัติป้องกันละอองสารคัดหลั่งจากการไอหรือจามของผู้สวมใส่ที่มีขนาด 50-5 ไมครอน สามารถซักและนำกลับมาใช้ซ้ำได้ เพื่อช่วยลดขยะได้อีกทางหนึ่ง นอกจากนี้ ยังเตรียมผลิตหน้ากากผ้าราคาพิเศษให้กับผู้ประกอบการสมาชิกให้พนักงานได้ใช้

กลุ่มผู้ประกอบการโรงงานผลิตเอทานอลทั่วประเทศ 26 โรงงาน สมาชิก ส.อ.ท.ร่วมมือกับกรมสรรพสามิตผลิตแอลกอฮอล์เพื่อใช้ฆ่าเชื้อทำความสะอาดบริจาค 300,000 ลิตร มูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท มอบให้โรงพยาบาลที่มีความจำเป็น โดยโรงพยาบาลที่ต้องการสามารถติดต่อที่สรรพสามิตทุกจังหวัดทั่วประเทศ


พลอากาศตรีไกรเลิศ เธียรนุกุล ผู้แทนโรงพยาบาลภูมิพล กล่าวว่า ทางโรงพยาบาลจึงแบ่งโซนสีแดง โซนสีส้ม และโซนเขียว โดยโซนสีแดง ใช้หน้ากากผ้าไม่ได้ เพราะแพทย์จะต้องดูแลผู้ป่วย การได้รับหน้ากากผ้าทำให้โรงพยาบาลสามารถนำหน้ากากผ้าไปจัดสรรให้บุคลากรในโรงพยาบาลสามารถนำไปใช้ได้ เพราะทำงานในส่วนสำนักงานของโรงพยาบาล     

กรณีการฟ้องร้องเรื่องตัวเลขส่งออกหน้ากากอนามัยจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการเจรจายุติปัญหาใด ๆ ทั้งสิ้น นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า หลังจากยื่นฟ้องเพื่อให้ดำเนินคดีกับโฆษกกรมศุลกากรกรณีแถลงข่าวตัวเลขส่งออกหน้ากากอนามัย 330 ตัน ต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. เมื่อวานนี้แล้วนั้น ขณะนี้ไม่มีการติดต่อจากโฆษกกรมศุลกากร และไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้แล้ว เพราะเข้าสู่ขั้นตอนของเจ้าหน้าที่สอบสวนจะไปดำเนินการต่อและได้ทำหน้าที่รักษาเกียรติและศักดิ์ศรีของกรมการค้าภายในในฐานะที่เป็นลูกหม้อรับราชการอยู่ที่กรมฯ นี้มาตลอดชีวิต โดยส่วนตัวไม่เคยวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของหน่วยงานใดให้เกิดความเสียหาย และโดยส่วนตัวไม่ได้รู้จักกับโฆษกกรมศุลกากรมาก่อน หากเจ้าพนักงานชี้ว่ามีมูลและสั่งฟ้องก็ต้องเคารพในการพิจารณาของเจ้าพนักงาน แต่ถ้าไม่มีมูลก็ไม่สั่งฟ้องถือว่าเป็นไปตามกฎหมาย

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เรื่องดังกล่าว ขอให้ทำความเข้าใจร่วมกันให้ถูกต้อง เพราะเป็นหน่วยงานรัฐเหมือนกัน “หากผิดพลาดต้องขออภัย” แต่ขอให้ทุกฝ่ายร่วมกันสู้กับปัญหาโควิด เพราะความจริงอาจเป็นการสื่อความเรื่องพิกัดอัตราภาษีหลายประเทศในกลุ่มที่ส่งออกด้วยกัน ทำให้ดูเหมือนจำนวนส่งออกหน้ากากอนามัยมียอดสูง และกรมศุลกากรได้ชี้แจงเพิ่มเติมไปแล้ว คาดว่าปัญหาดังกล่าวจะยุติลงได้


การจัดสรรหน้ากากอนามัยโดย “ศูนย์กระจายหน้ากากอนามัย” เกิดขึ้นหลังหน้ากากอนามัยขาดแคลนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จนรัฐบาลต้องประกาศให้หน้ากากอนามัย กลายเป็นสินค้าควบคุม เมื่อ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ให้โรงงานผลิตทั้ง 11 แห่ง ต้องผลิตหน้ากากส่งมาที่ศูนย์แห่งนี้ กำลังการผลิตเดือนละ 36 ล้านชิ้น หรือวันละ 1.2 ล้านชิ้น ถูกแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก 7 แสนชิ้นให้กระทรวงสาธารณสุขรับผิดชอบจัดสรรหน้ากากให้กับโรงพยาบาลรัฐและเอกชน โรงพยาบาลในมหาวิทยาลัย องค์การเภสัชกรรม และองค์การอาหารและยา อีก 5 แสนชิ้นให้กรมการค้าภายใน กระจายสินค้าให้ประชาชนผ่านทางร้านค้าสะดวกซื้อ-ร้านธงฟ้าประชารัฐ และรถโมบายมากกว่า 100 คัน แต่ล่าสุด เพิ่งยกเลิกรถโมบายไปเมื่อ 11 มีนาคมที่ผ่านมา

นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ให้เหตุผลที่ยกเลิกรถโมบายว่าไม่ตอบโจทย์ ขณะที่ร้านธงฟ้าต่างๆ ก็มีสินค้าไม่เพียงพอกับความต้องการ ส่วนที่ประชาชนร้องเรียนว่าไม่พบสินค้าตามร้านสะดวกซื้อ เลยขอชี้แจงว่าร้านสะดวกซื้อและโมเดิร์นเทรดที่ได้รับจัดสรรหน้ากากอนามัยจะทำแผนกระจายสินค้าเองว่าจะวางจำหน่ายสาขาใดบ้าง

สำหรับประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ หรือ กกร. ให้ขายหน้ากากอนามัยแบบสีเขียวที่ผลิตในประเทศไม่เกินชิ้นละ 2.50 บาท เมื่อ 5 มีนาคม มีการจับกุมผู้กระผิดทุกวัน ข้อหาที่มีการจับกุมสูงสุดคือ ขายเกินราคาควบคุม รองลงมาคือ ไม่ติดป้ายแสดงราคา และขายแพงเกินจริง แต่ก็ยังมีคนใช้วิธีตั้งราคาขายไม่เกิน 2.50 บาท แล้วคิดค่าส่งแพงเกินจริงไปถึงเกือบ 1,000 บาท ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ยืนยันว่าเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยสินค้าและบริการ มาตรา 29 มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตึกถล่มพบเสียชีวิตเพิ่ม

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่าง

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ในพื้นที่โซน B และโซน C มีซากอาคารถล่มทับร่างอยู่ ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่างและค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารต่อเนื่อง

ชายวัย 50 ไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องเมียท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากตึก สตง.

ชายวัย 50 ปี ยกมือไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องภรรยาท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากอาคาร สตง.ถล่ม ด้านรอง ผบช.น. เตือนอย่าใช้โอกาสที่มีผู้ประสบเหตุสร้างความสงสารหลอกเอาทรัพย์สิน มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน

ออกแล้ว! ผลตรวจเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่ม พบไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น

ผลตรวจตัวอย่างเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว พบได้มาตรฐาน 15 ชิ้น ไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุตึกถล่ม ชี้ต้องดูหลายองค์ประกอบ

ข่าวแนะนำ

เริ่มใช้เครื่องจักรหนักเปิดซากอาคาร สตง.ถล่ม

102 ชั่วโมงแล้ว สำหรับปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุอาคาร สตง.ถล่ม หน่วยกู้ภัยจากนานาชาติให้ความหวังว่ายังมีโอกาสเจอผู้รอดชีวิต ทำให้การค้นหาวันนี้ต้องแข่งกับเวลาอย่างเต็มที่

ทองไทยนิวไฮต่อเนื่อง ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 550 บาท

ทองคำไทยผันผวนหนัก ปรับเปลี่ยน 18 ครั้ง ก่อนปิดตลาดปรับเพิ่ม 550 บาท ระหว่างวันขึ้นไปแตะนิวไฮ ทองคำแท่งขายออก 50,700 บาท ทองรูปพรรณขายออก 51,500 บาท ขึ้นไปต่อเนื่อง