คปภ.เยียวยาทุกภาคส่วนรับมือโควิด-19

กรุงเทพฯ 12 มี.ค. – คปภ.ออกมาตรการช่วยเหลือทุกภาคส่วนจากผลกระทบโควิด-19 ขยายเวลาลดเบี้ยประกันภัยสิ้นสุด 30 มิ.ย.63 ลดดอกเบี้ยขั้นต่ำที่ใช้คำนวณอัตราเบี้ยประกันภัยเหลือร้อยละ 1 ใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ตรวจสอบและยื่นเอกสารมากขึ้น ด้านธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจขนส่ง หากรถหยุดวิ่งขอคืนเบี้ยประกันภัยช่วงที่หยุดวิ่งหรือนำไปขยายระยะเวลาคุ้มครองของประกันภัยรถได้ 


สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจ (คปภ.) จัดประชุมชี้แจงมาตรการบรรเทาผลกระทบสถานการณ์โควิด-19 แก่ผู้ประกอบการในธุรกิจประกันในภาพรวม  โดยมีนายสุทธิพล ทวีชัยการ  เลขาธิการ คปภ. ระบุว่าการประชุมวันนี้เพื่อกำหนดมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบด้านประกันภัย ทั้งในส่วนของการประกันชีวิต การประกันวินาศภัย และคนกลางประกันภัย แบบบูรณาการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และครบวงจร

มาตรการช่วยเยียวยาและช่วยเหลือประชาชน ทาง คปภ.ขยายระยะเวลาของมาตรการที่ คปภ.ได้ออกคำสั่งไปแล้ว ได้แก่ การผ่อนผันเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันชีวิตและอัตราเบี้ยประกัน รวมทั้งให้บริษัทประกันภัยให้ส่วนลดเบี้ยประกันภัยได้ไม่เกินร้อยละ 10 ที่เดิมมาตรการจะสิ้นสุด 30 เมษายน 2563 ขยายไปจนถึง 30 มิถุนายน 2563 


มาตรการเยียวยาช่วยเหลือบริษัทประกันภัย ออกคำสั่งเพื่อปรับปรุงดอกเบี้ยขั้นต่ำที่ใช้ในคำนวณอัตราเบี้ยประกันภัย จากเดิมที่กำหนดไว้มากกว่าหรือเท่ากับร้อยละ 2 ปรับเป็นมากกว่าหรือเท่ากับร้อยละ 1 ทั้งนี้เพื่อช่วยรองรับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่เกิดการระบาดของโควิด-19 รวมทั้งจะมีการให้บริษัทประกันภัยจัดทำแนวทางปฏิบัติในเรื่องของการจัดทำแผนการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่้องสำหรับการรับมือการแพร่ระบาด ขณะนี้ยกร่างและรับฟังความคิดเห็นของบริษัทประกันภัยแล้ว 

นอกจากนี้ ยังผ่อนผันการส่งรายงานการดำรงเงินกองทุน และรายงานเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการบริหารความเสี่ยงของบริษัท โดยผ่อนผันการส่งรายงานเงินกองทุนประจำปีรายไตรมาสและรายเดือนออกไปไม่เกิน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่กำหนดให้ส่งรายงาน โดยบริษัทประกันยื่นขอผ่อนผันเป็นรายกรณีได้ ยังผ่อนผันการยื่นรายงานทางการเงินที่ต้องยื่นให้ คปภ. งบรายไตรมาส งบการเงินเฉพาะรอบปีปฏิทิน รายงานเกี่ยวกับฐานการเงินและกิจการของบริษัททั้งในส่วนของบริษัทประกันชีวิตและประกันวินาศภัย บริษัทประกันสามารถยื่นขอขยายระยะเวลาต่อนายทะเบียนก่อนครบกำหนดยื่นได้ โดยนายทะเบียนจะพิจารณาให้ความเห็นชอบเป็นรายกรณีและตามความเหมาะสม โดยจะผ่อนผันให้ครั้งละไม่เกิน 30 วันนับแต่ครบกำหนด ซึ่ง คปภ.กำหนดว่าจะผ่อนผันกรณีที่ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเงินของบริษัทโดยต้องยื่นเหตุผลและความจำเป็น

คปภ.ยังปรับกระบวนการทำงานด้านการตรวจสอบบริษัทประกันด้วย โดยปรับแผนการตรวจสอบโดยจะบูรณาการการทำงานระหว่างสายวิเคราะห์ธุรกิจประกันภัย สายงานตรวจสอบ จะใช้กระบวนการทางอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาใช้ดำเนินการมากขึ้น บริษัทประกันสามารถยื่นเอกสารผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์และการใช้เทคโนโลยีการประชุมทางไกลผ่านจอภาพ เพื่อทำให้เกิดความสบายใจทั้งฝั่งบริษัทประกันภัยและฝั่งผู้เข้าไปตรวจสอบ กรณีมีความจำเป็นต้องเข้าไปตรวจสอบก็จะดำเนินการเฉพาะจุด ตามความจำเป็นและเหมาะสม เพื่อให้ชัดเจนว่า ในช่วงสถานการณ์นี้ ไม่มีบริษัทประกันภัยที่ได้รับผลกระทบและสร้างผลกระทบให้กับประชาชน 


มาตรการบรรเทาผลกระทบธุรกิจท่องเที่ยวและผู้ประกอบการขนส่ง ซึ่งเป็นภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบโดยตรงของการแพร่ระบาดของโควิด-19 คปภ.มีมาตรการช่วยเหลือ โดยในส่วนกรมธรรม์ของรถยนต์ที่ใช้ในการท่องเที่ยวจะช่วยเหลือด้วยการเปิดโอกาสให้รถที่ไม่ได้มีการใช้เป็นระยะเวลาตั้งแต่ 30 วันขึ้นไป ผู้ประกอบการแจ้งหยุดการใช้รถกับบริษัทประกันภัยได้ โดยบริษัทผู้รับประกันภัยจะคืนเบี้ยประกันภัยรถยนต์ในช่วงที่หยุดการใช้รถ หรือตกลงกับบริษัทผู้รับประกันภัยเพื่อนำเบี้ยประกันภัยที่ได้รับใช้ในการขยายระยะเวลาคุ้มครองของประกันภัยรถได้  สำหรับกรมธรรม์ใหม่และกรมธรรม์ที่ต่ออายุจะออกคำสั่งนายทะเบียนให้บริษัทผู้รับประกันภัยสามารถพิจารณาช่วยเหลือ โดยอาจให้ส่วนลดสำหรับรถยนต์ประเภทนี้ได้ในอัตราไม่เกินร้อยละ 30 ของจำนวนเบี้ยประกันภัยสำหรับการประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจทุกประเภท สำหรับการทำสัญญาประกันภัยตั้งแต่วันที่มีผลบังคับตามคำสั่งจดทะเบียนจนกระทั่งถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563 

นอกจากนี้ เพื่อช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบธุรกิจท่องเที่ยวและผู้ประกอบการขนส่ง คปภ.ยังพิจารณาที่จะมีการปรับปรุงประกาศ คปภ.และข้อบังคับทั่วไปของพิกัดอัตราเบี้ยประกันภัย ซึ่งประกาศประกันภัยจะต้องนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการคปภ.ในเดือนนี้(มี.ค.63) เพื่อให้บริษัทประกันพิจารณาช่วยเหลือผ่อนผันให้ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและขนส่ง สามารถที่จะแบ่งชำระเบี้ยประกันภัยรถยนต์เป็นรายงวดได้ สำหรับผู้ที่มีการทำสัญญาหรือมีการชำระเบี้ยประกันภัยตามสัญญาตั้งแต่วันที่ผลที่ส่งนายทะเบียน จนกระทั่งถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563 

มาตรการเยียวยาคนกลางประกันภัย คปภ.มีมาตรการขยายการยื่นงบการเงินและการบริการต่าง ๆ ของนายหน้า และยังขยายระยะเวลาการต่อใบอนุญาตต่าง ๆ จากเดิมขยายไปถึง 30 เมษายน 2563 ก็จะขยายออกไปสิ้นสุด 30 มิถุนายน 2563 ส่วนรายงานการเงินที่ต้องยื่นต่อสำนักงาน คปภ.ในกรณีทั้งธรุกิจประกันชีวิตและวินาศภัย สามารถยื่นต่อนายทะเบียนเพื่อขอการขยายเวลายื่นได้ก่อนครบกำหนด โดยนายทะเบียนจะพิจารณาผ่อนผันรายกรณี ๆ ไป โดยผ่อนผันให้ครั้งละ 30 วัน แต่ถ้าพ้นระยะเวลาขอผ่อนผันแล้ว สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ยังไม่คลี่คลาย ก็สามารถยื่นขอความเห็นชอบต่อนายทะเบียนได้อีก นอกจากนี้ นายหน้าประกันภัยประเภทนิติบุคคลต้องมีแผนในการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องสำหรับการรับมือกับเหตุการณ์การแพร่ระบาด

ในส่วนของสำนักงาน คปภ. มีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดให้แก่ผู้มาติดต่อและพนักงาน คปภ. โดยมี แนวทางปฏิบัติการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ (Business Continuity Management: BCM) และการจัดทำแผนรองรับการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง (Business Continuity Plan: BCP)ซึ่ง สามารถที่จะทบทวนสถานการณ์ต่าง ๆ ให้เหมาะสมได้ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ว่าฯ สงขลา จัดคิวนายอำเภอรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ทุกสัปดาห์

กทม. 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ทำหนังสือด่วน จัดคิวนายอำเภอ เวียนต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” สนามบินหาดใหญ่ ทุกสัปดาห์ นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ สข 0017.3/17839 เรื่อง ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เรียน นายอำเภอเมืองสงขลา ด้วยจังหวัดสงขลาได้รับแจ้งว่า นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มีกำหนดเดินทางมาราชการในพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อตรวจราชการสำคัญตามนโยบายรัฐบาล และมีกำหนดเดินทางกลับไปปฏิบัติราชการ ณ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD 3103 เวลา 08.25-09.50 น. เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จังหวัดสงขลาจึงขอให้ท่านดำเนินการ ดังนี้ 1. เชิญนายอำเภอเมืองสงขลา ร่วมส่งนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ณ ห้องรับรอง ท่าอากาศยานหาดใหญ่ […]

ดราม่า “ไข่เจียวปู 4,000” ถึงหูพาณิชย์

กรุงเทพฯ​ 18 ส.ค.​-“จตุพร” สั่งกรมการค้าภายในตรวจสอบประเด็น​ดราม่า​ “ไข่​เจียวปู” ร้าน​ Michelin Guide สูงถึง​จานละ 4,000 บาท​ จาก​ที่​แจ้งราคาในเมนู​ 1,500​ บาท ย้ำ​ไม่ตรงปกไม่ได้ กรณี “พีชชี่” ยูทูบเบอร์ชื่อดัง โพสต์เล่าประสบการณ์สั่งไข่เจียวปูร้านดังราคาเมนู 1,500 บาท แต่ถูกเก็บจริง 4,000 บาท กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ ล่าสุด นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า จะมอบหมายให้กรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะนี้​ยังไม่ได้รับรายละเอียด​ แต่โดยหลักการแล้ว ราคาที่เรียกเก็บจากผู้บริโภคต้องตรงกับราคาที่ระบุในเมนู หาก “ไม่ตรงปก” จะบั่นทอนความเชื่อมั่นทางการค้า “การค้าขายจะยั่งยืนได้ต้องอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจ หากผู้บริโภครู้สึกว่า​ ราคาไม่ตรงกับที่เห็นในเมนู ย่อมเสียความรู้สึก” นายจตุพรกล่าว เรื่องนี้เริ่มจาก “พีชชี่” โพสต์ผ่าน X เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ระบุว่าไปทานไข่เจียวปู ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยเพียงไม่กี่แห่งที่ได้รับการบรรจุใน Michelin Guide โดยเมนูระบุราคา 1,500 […]

“บิ๊กต่าย” ถกบอร์ดกลั่นกรอง เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร.

กรุงเทพฯ 17 ส.ค. – ผบ.ตร. นั่งหัวโต๊ะประชุมกลั่นกรองแต่งตั้งนายพลสีกากี เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร. ที่ห้องประชุม 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ตร. หรือ “บอร์ดกลั่นกรอง” พิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบ.ตร.-ผบก. โดยมี พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.นิรันดร เหลื่อมศรี รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. และ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.สกพ. และเลขานุการ เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ […]

เสียงเรียกแห่งความอร่อย…ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วโบราณเชียงใหม่

เชียงใหม่ 17 ส.ค. – โดดเด่นไม่เหมือนใคร “ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วสูตรโบราณ” ของอาแปะตี๋อ้วน ที่แต่งกายแบบล้านนาโบราณ เดินหาบขายตามตลาดและย่านชุมชนใน จ.เชียงใหม่ มานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยใช้การตีกังสดาล หรือระฆังวงเดือน เรียกลูกค้า สะดุดตาผู้พบเห็น หลายคนติดใจในรสชาติและราคาที่ย่อมเยา จนมีลูกค้ามากมาย .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“หลวงพ่ออลงกต” ยืนยันยังไม่ลาออกจากเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ

18 ส.ค. – ปมร้อน “หลวงพ่ออลงกต” ขอลาออกจากเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เปิดทางให้ตรวจสอบวัด ล่าสุด “หลวงพ่ออลงกต” ยืนยันยังไม่ลาออก ขอเวลาจัดการทุกเรื่อง คาด 1 เดือนชัดเจน วันนี้ (18 ส.ค.) มีกระแสข่าวว่า “พระราชวิสุทธิประชานาถ” หรือ “หลวงพ่ออลงกต” ประกาศลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อรับผิดชอบต่อสถานการณ์และเปิดทางให้กระบวนการตรวจสอบดำเนินไปอย่างโปร่งใส ขณะที่ นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยกับทีมข่าวสำนักข่าวไทยว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ กำลังติดตามข่าวดังกล่าว แต่ยังไม่ได้รับหนังสือขอลาออกอย่างเป็นทางการ คาดว่าจะเกิดความชัดเจนในวันพรุ่งนี้ (19 ส.ค.) ส่วนเหตุผลที่หลวงพ่ออลงกตลาออก คาดว่าเปิดทางให้กระบวนการตรวจสอบเดินหน้าได้ พศ.แจ้งวัดหักลดหย่อนเงินบริจาคต้องผ่านระบบ e-Donation ผอ.พศ. ยังกล่าวถึงกรณีอธิบดีกรมสรรพากรทำหนังสือแจ้งมายังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา แจ้งว่ากำหนดให้การบริจาคให้แก่วัด มูลนิธิ สมาคม กองทุน และองค์การต่างๆ ซึ่งผู้บริจาคได้รับสิทธิหักลดหย่อนเงินบริจาค ต้องใช้ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ของกรมสรรพากรเท่านั้น โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 […]

“ภูมิธรรม” ​เผยเจรจาเขตแดนไม่จบง่าย ลั่นไม่เคยพูดยุบ ศบ.ทก.

ทำเนียบ 18 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ​เผยเจรจาเขตแดนไม่จบง่าย​ ต้องรอผลประชุม​ RBC​-GBC มอบตำรวจภูธร​ภาค​ 3 รับเรื่องร้องทุกข์​ประชาชน-​ราชการ​ ส่งอัยการสั่งฟ้องแพ่ง​-อาญา​ “กัมพูชา” ส่วนฟ้อง “ฮุนเซน​” หรือ​ “ฮุน​ มาเนต​” ให้เป็นไปตามข้อกฎหมาย​ ไม่ตอบจัดการเครือข่ายนักการเมืองในไทย​ ชี้​หากทำก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องเปิดเผย​ ลั่น​ไม่เคยพูดสักคำ​ ยุบ ศบ.ทก. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ว่า ขณะนี้สถานการณ์บริเวณชายแดนไทยกัมพูชายังต้องเฝ้าระวัง จึงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ส่วนเรื่องการเจรจาเขตแดนทั้งหลายยังไม่จบง่ายๆ และยังรอการประชุม ตามกรอบต่างๆ ซึ่งการประชุม RBC จะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 25-27 สิงหาคมนี้ ขณะที่วันที่ 8-10 กันยายนจะเป็นการประชุม GBC ที่เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา ทั้งนี้ได้สั่งการให้หน่วยราชการติดตามข่าวสาร และประสานงานกันอย่างมีเอกภาพ โดยเฉพาะในเรื่องข่าวสารที่สร้างความสับสนและความเข้าใจผิดให้กับพี่น้องประชาชน พร้อมยอมรับว่าขณะนี้มีกระบวนการไอโอ จึงขอช่วยกัน อย่าตกเป็นเหยื่อของเรื่องนี้ พร้อมย้ำว่ารัฐบาลยึดผลประโยชน์ประเทศชาติอธิปไตยของประเทศทรัพย์สินและชีวิตของพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง จึงขอความร่วมมือจากทุกฝ่าย ขณะเดียวกันที่ประชุม สมช.ยังมีการพิจารณาเรื่องการดำเนินคดีตามกฎหมาย กรณีกัมพูชาใช้กำลังทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ในการคุกคามอธิปไตยของไทย […]

ทบ.แจงบ้านหนองจานอยู่ในเขตไทย เดิมเป็นที่ลี้ภัยชาวเขมร

กองทัพบก 18 ส.ค.- ทบ. แจงพื้นที่บ้านหนองจาน อยู่ในเขตประเทศไทย เดิมเคยเป็นที่ช่วยเหลือชาวกัมพูชาลี้ภัยจากการสู้รบชั่วคราว ภายหลังพบมีการขยายชุมชน ละเมิด MOU43 แม้ฝ่ายไทยมีการประท้วงอย่างต่อเนื่อง จากกรณีที่มีชาวกัมพูชาได้ออกมาร้องเรียนเรื่องการวางรั้วลวดหนามของทหารไทยบริเวณบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว โดยกล่าวอ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นดินแดนของตนนั้น พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่าแท้จริงแล้วพื้นที่ดังกล่าวเป็นอาณาเขตของประเทศไทย ซึ่งอยู่บริเวณบ.หนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว รอยต่อแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ระหว่างหลักเขตแดนที่ 46 และ 47 นอกจากนี้ยังพบว่าฝ่ายกัมพูชาละเมิดข้อตกลงในพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยการสนับสนุนให้ราษฎรมาสร้างถิ่นฐานอย่างถาวร ทั้งในบริเวณพื้นที่อ้างสิทธิ์ และนอกบริเวณพื้นที่อ้างสิทธิ์ในฝั่งประเทศไทย ซึ่งกองทัพบก โดยกองกำลังบูรพา ได้ดำเนินการประท้วงร้องเรียนฝ่ายกัมพูชาในเวทีต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งระดับหน่วยทหารในพื้นที่ และผ่านกระทรวงการต่างประเทศ ตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน แต่ฝ่ายกัมพูชากลับนิ่งเฉย ไม่มีการชี้แจงในรายละเอียด หรือแก้ไขใดๆ จึงยืนยันได้ว่าฝ่ายไทยได้ใช้การแก้ปัญหาโดยสันติวิธีมาตลอด โฆษกกองทัพบก กล่าวต่อว่าสำหรับปัญหา ณ ปัจจุบัน ฝ่ายกัมพูชา มีเจตนาอันไม่บริสุทธิ์ พยายามจะใช้ประชาชนให้เป็นผู้ออกหน้าในการรุกล้ำพื้นที่อธิปไตยประเทศไทยในบริเวณดังกล่าว ทั้งนี้ อาจเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับฝ่ายทหารโดยตรง ทำให้เข้าใจได้ว่า […]

ผู้ว่าฯ สงขลา ยืนยันไม่ได้ออกคำสั่งรับ มท.3

สงขลา 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ยืนยันไม่ได้ออกคำสั่งให้นายอำเภอจัดเวรต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ส่วนมีใครคิดจะปลอมแปลงขึ้นมาก็ต้องตรวจสอบกันต่อไป นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ออกมากล่าวถึงเรื่องที่มีหนังสือคำสั่งทางราชการให้นายอำเภอของจังหวัดสงขลาทั้ง 16 อำเภอจัดเวรต้อนรับ-ส่ง และจัดห้อง VIP พร้อมอาหารว่าง ต้อนรับ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงมหาดไทย นายเดชอิศม์ ขาวทอง ซึ่งรายละเอียดในหนังสือกล่าวว่าให้นายอำเภอเมืองสงขลาปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 คือในวันนี้ ว่าไม่เป็นความจริง ตนไม่ได้ออกหนังสือฉบับนี้ เพราะหนังสือที่ตนลงนามฉบับสุดท้ายในวันนั้นคืองานประชุม ส่วนความจริงตอนนี้มอบหมายให้รองผู้ว่าราชการที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว แต่ให้ข้อคิดว่าหนังสือที่จะขอใช้พื้นที่หน่วยงานจากท่าอากาศยาน ก็ต้องเป็นลายเซ็นของผู้ว่าราชการเท่านั้น ส่วนมีใครคิดจะปลอมแปลงหรือทางหนังสือปลอมขึ้นมาก็ต้องตรวจสอบกันต่อไป แต่จะให้ได้ความจริงให้เร็วที่สุด เมื่อมีการสอบถามเรื่องความขัดแย้งของจังหวัดสงขลาราชการจังหวัดสงขลากล่าวว่าท่านไม่น่าจะมีความขัดแย้งกับใคร เพราะไม่เคยทำงานในพื้นที่มาก่อน เพิ่งมารับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาในครั้งแรก ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ยังกล่าวอีกว่า วันและเวลาดังกล่าวที่มีการออกหนังสือ ตนก็ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ ไปธุระส่วนตัวงานแต่งงานของญาติที่จังหวัดนครศรีธรรมราช แต่จะให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องหาความจริงเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดเพราะถือว่าเป็นการทำผิดอย่างมาก.-สำนักข่าวไทย