BIG STORY : บริษัทแห่งหนึ่งใน จ.ระยอง ฆ่าเชื้อบริษัท หลังพบผู้ป่วยโควิด-19 เข้าพื้นที่

ภูมิภาค/กทม. 11 มี.ค. – บริษัทแห่งหนึ่งใน จ.ระยอง ออกคำชี้แจงเรื่องการดูแลพนักงานและฆ่าเชื้อพื้นที่บริเวณห้องอบรม หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เดินทางมาร่วมอบรมในบริษัท โดยบริษัทได้ติดตามตรวจสอบผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่พบพนักงานติดเชื้อ

พ.ต.อ.เชิงรณ ริมผดี รองโฆษกสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ยืนยันว่าตำรวจตรวจคนเข้าเมืองที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตำแหน่ง ผบ.หมู่ ฝ่าย ตม.ขาเข้า ป่วยเป็นโควิด-19 จริง หลังมีการตรวจวัดไข้หลังออกเวรเมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา และมีไข้สูงเกิน 37.5 องศาฯ ก่อนส่งต่อไปยังโรงพยาบาลตรวจวัดอย่างเป็นทางการ และผลออกมาเมื่อวันที่ 9 มีนาคม ว่าติดเชื้อจริง อย่างไรก็ตาม พบเพียงมีอาการไข้ และไม่มีอาการติดเชื้อที่ปอด เพราะถึงมือแพทย์ได้เร็ว ขณะที่ผลตรวจผู้ใกล้ชิดพบว่าไม่มีอาการติดเชื้อ เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติงานในเคาน์เตอร์เดียวกันก็ได้มีการตรวจและไม่พบเชื้อ แต่จำเป็นต้องกักตัว 14 วัน เพื่อเฝ้าระวังตามระเบียบ

เช่นเดียวกับที่บริษัท มาบตาพุดโอเลฟินส์ จำกัด ได้ออกประกาศการดูแลพนักงานและเพิ่มความสะอาดในห้องอบรม หลังจากพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของบริษัทคู่ธุรกิจเข้าร่วมอบรมที่อาคารของบริษัท ตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ ทั้งที่มีการคัดกรองอย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ติดตามตรวจสอบผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด และไม่พบพนักงานติดเชื้อ จึงได้ฆ่าเชื้อโดยรอบทั้งหมด โดยผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทยได้เดินทางไปสังเกตการณ์ พบมีการคัดกรองเข้มข้น แต่ไม่อนุญาตให้เข้าไปในพื้นที่

สำหรับภาพรวมสถานการณ์โควิด-19 กระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมอีก 6 คน ทำให้ยอดรวมผู้ป่วยสะสมมีทั้งสิ้น 59 คน รักษาหายแล้ว 34 คน เหลือรักษาตัวในโรงพยาบาล 24 คน

สำหรับรายละเอียดทั้ง 6 คน ประกอบด้วย คนที่ 1 เป็นเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองประจำสนามบินสุวรรณภูมิ เพศชาย อายุ 21 ปี มีไข้ ไอ น้ำมูก ป่วยตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม คาดว่าเกิดจากการสัมผัสพาสปอร์ตนักเดินทาง คนที่ 2 เป็นเจ้าหน้าที่ตรวจสัมภาระนักเดินทางประจำสนามบินสุวรรณภูมิ เพศชาย อายุ 40 ปี มีไข้ ไอ ปวดตัว ตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคม คาดว่าติดต่อจากการสัมผัสสัมภาระนักเดินทาง คนที่ 3 เป็นพนักงานบริษัท เพศชาย อายุ 25 ปี ไม่มีประวัติเดินทาง แต่ป่วยปอดอักเสบ และเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค จนพบเชื้อโควิด-19 คนที่ 4 เป็นหญิงชาวไทย อายุ 27 ปี เพิ่งกลับจากเกาหลีใต้ มีไข้ ไอ น้ำมูก คนที่ 5 เป็นชายไทย อายุ 40 ปี มีประวัติเดินทางกลับมาจากญี่ปุ่น และคนที่ 6 เป็นชายชาวสิงคโปร์ อายุ 36 ปี มีอาชีพทำงานพบปะกับชาวต่างชาติ

ด้าน นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค บอกว่า สถานการณ์ทั่วโลกพบระบาดรวม 115 ประเทศ และในยุโรปพบผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น จึงแนะนำให้เลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่ระบาด พร้อมย้ำว่าขณะนี้ประเทศไทยยังเป็นการระบาดในเฟส 2 ไม่ได้มีการยกระดับเฝ้าระวังเพิ่มเติมแต่อย่างใด

ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งด่วน เพื่อติดตามและรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาด หลังจากพบการแพร่ระบาดในต่างประเทศมากขึ้น หลังจากนั้นได้ร่วมแถลงข่าวร่วมกับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง


นายกรัฐมนตรียืนยันความจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด หากไม่ปฏิบัติอาจคุมสถานการณ์ไม่ได้ อย่างไรก็ตาม จะต้องคัดกรองทั้งทางตรงและทางอ้อมมากขึ้น โดยเฉพาะบุคคลที่เดินทางมาจากกลุ่มเสี่ยง ซึ่งต้องคัดกรองตั้งแต่ประเทศต้นทางยันปลายทาง ยอมรับว่าขณะนี้ไม่สามารถทำตามข้อเสนอปิดประเทศ เพราะจะส่งผลกระทบหลายด้าน

ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยืนยันว่าเพื่อลดความเสี่ยงการแพร่ระบาด จึงสั่งยกเลิก Visa on Arrival 18 ประเทศเป็นการชั่วคราว หากนักท่องเที่ยวจาก 18 ประเทศต้องการเดินทางเข้ามาต้องไปติดต่อสถานทูตไทยและต้องแนบใบรับรองแพทย์ นอกจากนี้ยังให้ยกเลิก Free Visa เป็นการชั่วคราวกับนักท่องเที่ยว 3 ประเทศ คือ อิตาลี เกาหลีใต้ และฮ่องกง ซึ่งมีสถานการณ์การแพร่ระบาดรุนแรง จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ปกติ โดยมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ส่วนชาวต่างชาติที่เดินทางมาจาก 4 ประเทศ ได้แก่ จีน เกาหลีใต้ อิตาลี และอิหร่าน เมื่อผ่านเข้ามาจะต้องถูกกักตัวที่โรงแรมโนโวเทล สนามบินสุวรรณภูมิ เป็นเวลา 14 วัน เพื่อเฝ้าสังเกตอาการ หากไม่ยินยอมจะส่งกลับประเทศต้นทางทันที สำหรับคนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศเสี่ยง กระทรวงคมนาคมจะจัดรถรับ-ส่งตั้งแต่สนามบินจนถึงบ้านพัก และไม่อนุญาตให้แวะส่งกลางทาง

นอกจากนี้รัฐบาลได้สั่งปิดศูนย์ควบคุมที่อำเภอสัตหีบ และในจังหวัดต่างๆ โดยผู้ที่ถูกควบคุมจะมีการส่งแพทย์ไปตรวจคัดกรองเชื้อ ก่อนส่งไปเฝ้าระวังที่บ้านพักในภูมิลำเนา โดยจะแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ไปติดตามดูแล และหากผู้ที่กลับมาไม่กักตัว หรือไม่ปฏิบัติตามจะถูกลงโทษตามกฎหมาย คือจำคุก 1 ปี หรือปรับ 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยเหตุผลจำเป็นที่ต้องทำเพราะกระทรวงสาธารณสุขแนะนำว่าหากนำเอาบุคคลที่กลับจากประเทศเสี่ยง หรือบุคคลที่มีความเสี่ยงมารวมตัวกัน อาจมีโอกาสแพร่เชื้อและระบาดสูงเหมือนกับเคสของเรือ Diamond Princess

สำหรับ 3 ประเทศที่ยกเลิก Free Visa ประกอบด้วย อิตาลี เกาหลีใต้ และฮ่องกง ส่วน 18 ประเทศ และ 1 เขตเศรษฐกิจ ที่ยกเลิก Visa on Arrival  ประกอบด้วย บัลแกเรีย ภูฏาน จีน ไซปรัส เอธิโอเปีย หมู่เกาะฟิจิ จอร์เจีย อินเดีย คาซัคสถาน มอลตา เม็กซิโก นาอูรู ปาปัวนิวกินี โรมาเนีย รัสเซีย ซาอุดีอาระเบีย ไต้หวัน (เขตเศรษฐกิจ) อุซเบกิสถาน และวานูอาตู.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีต ผกก.ขับรถปาดหน้า-ชัก M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง

สงขลา 11 พ.ค. – การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี เดือด ลูกชาย สส.สงขลา ทำร้ายตำรวจคุมหน่วย ส่วน จ.นครศรีธรรมราช อดีตผู้กำกับขับรถปาดหน้าและชักปืน M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เดือด นายชวลิต เจริญพงษ์ อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง และปัจจุบันเป็นผู้สมัครรองนายกเทศมนตรีที่วัง เบอร์ 2 เข้าแจ้งความที่ สภ.กะปาง ว่าถูก พ.ต.อ.พิรุณ อดีต ผกก.ที่ปรึกษาผู้สมัครนายกเทศมนตรีอีกทีม ขับรถไล่ตามและใช้ปืน M16 ข่มขู่ โดยก่อนเกิดเหตุได้ไปกินข้าวที่ร้านอาหารกับผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.ที่วัง ได้เจ้อกับลูกน้องคนสนิทของ พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก เข้ามาพูดจาข่มขู่ พวกตนจึงหนีขึ้นรถเพื่อตัดปัญหา แต่ปรากฏว่าเมื่ออกจากร้านได้เพียง 10 เมตร พ.ต.อ.พิรุณ ได้ขับรถแวนเชฟโรเลตสีขาวปาดหน้า และลงจากรถพร้อมปืน M16 วิ่งมาที่รถของตน เห็นท่าไม่ดี จึงหักพวงมาลัยขับรถหนีและเข้ามาแจ้งความ ระหว่างนั้น พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]

ผบ.ตร. สั่งกองวินัยเตรียมสอบ ปมมติแพทยสภาลงโทษหมอ

ผบ.ตร. รับทราบกรณีแพทยสภาลงโทษหมอ ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 สั่งกองวินัยเตรียมสอบ หากเป็นแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษ 3 แพทย์ เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 ท่าน เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยว่ากล่าวตักเตือน 1 ท่าน พักใช้ใบประกอบวิชาชีพ 2 ท่าน เผยมติที่ประชุมมีความเห็น “เป็นเสียงส่วนใหญ่มาก มาก มาก”

ข่าวแนะนำ

ออกหมายจับ สจ.คนดังพร้อมพวก รุมทำร้าย ตร.คาหน่วยเลือกตั้ง

สงขลา 12 พ.ค.- ศาลจังหวัดสงขลาออกหมายจับ สจ.คนดัง พร้อมพวกรวม 7 คน หลังก่อเหตุรุมทำร้าย ‘ด.ต.’ คาหน่วยเลือกตั้ง จ.สงขลา ขณะที่ ผบ.ตร.สั่งเอาผิด พวกทำตัวเหนือกฎหมาย จากกรณีสมาชิกสภา อบจ.สงขลา บุตรชาย สส.สงขลา ก่อเหตุสั่งให้ลูกน้อง 6 คน รุมทำร้ายร่างกาย ด.ต.นิสาธิต สังกัด ตชด.43 ปฏิบัติหน้าที่เจ้าพนักงานรักษาความสงบเรียบร้อยหน่วยเลือกตั้ง บริเวณหน้าหน่วยเลือกตั้งที่ 7 หมู่ 2 ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลาหลัง ส.อบจ.คนดังกล่าว เข้ามาใช้สิทธิที่หน่วย และให้ลูกน้องถ่ายรูป ซึ่งผิดกฎหมายเลือกตั้ง ด.ต.นิสาธิต จึงได้เข้าไปตักเตือน สร้างความไม่พอใจ ก่อนขับรถออกจากหน่วยเลือกตั้ง จากนั้นมีกลุ่มชายชกรรจ์ 5-7 คน เข้ามาที่หน่วยเลือกตั้ง และรุมทำร้าย ด.ต.นิสาธิต บาดเจ็บ ต่อหน้าต่อตาชาวบ้านที่มาใช้สิทธิเลือกตั้ง อ้างว่าลูกพี่ใหญ่ ไม่มีใครกล้าทำอะไร ล่าสุด ศาลจังหวัดสงขลาอนุมัติหมายจับผู้ก่อเหตุทั้งหมด 7 […]

เพลิงไหม้มาราธอน โหมโรงงานเฟอร์นิเจอร์ ยังคุมไม่ได้

12 พ.ค.- ยังไม่ดับ! ไฟไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์ ย่านลาดกระบัง ต้นเพลิงอยู่ที่ชั้นใต้ดิน ยังไม่สามารถลงไปได้ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ รุดลงพื้นที่ สั่งอพยพชาวบ้านใกล้เคียง เร่งช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ ยืนยันสถานการณ์จะคลี่คลายภายในวันนี้ เพลิงไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์ ซอยฉลองกรุง 55 แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ ลุกโหมมาตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ ก่อนเจ้าหน้าที่ระดมรถดับเพลิงเข้าควบคุมสถานการณ์ ตลอดทั้งคืน ยังมีไฟปะทุออกจากชั้นใต้ดินของโครงสร้างอาคาร     ล่าสุดเช้าวันนี้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมทีมวิศวกรผู้ เชี่ยวชาญด้านอาคารโรงงานอุตสาหกรรม ตำรวจ และทีมกู้ภัย เร่งเข้าตรวจสอบความเสียหายรอบพื้นที่โรงงาน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เผยว่า มอบหมายให้ ดร.สุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา(ดร.จอร์น) ประธานสภากรุงเทพมหานคร และนายธราพงษ์ เพ็ชรคง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตลาดกระบัง ลงพื้นที่ตั้งศูนย์บัญชาการเหตุยังจุดเกิดเหตุ ส่วนแนวทางปฏิบัติการ เตรียมใช้โฟมประกอบน้ำ ฉีดเข้าจุดที่ยังคงมีเพลิงปะทุคาดว่าจะควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในวงจำกัดได้ภายในช่วงเที่ยงวันนี้   ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงระบุว่า ต้นเพลิงอยู่ที่ชั้นใต้ดิน แต่ยังไม่สามารถลงไปได้ เนื่องจากมีกลุ่มควันและความร้อนสูง จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์พิเศษ หน้ากากออกซิเจน […]

กทม.ประกาศยุติค้นหาผู้สูญหายใต้ซากตึก สตง.

กรุงเทพฯ 12 พ.ค. – กทม. ประกาศยุติการค้นหาผู้สูญหายใต้ซากตึก สตง. ด้านรองผู้ว่าฯ กทม. สั่งลดระดับกองปูนซากตึกข้างศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง จาก 9 เมตร เหลือ 6 เมตร ป้องกันอันตรายและง่ายต่อการค้นหาหากมีชิ้นส่วนที่เหลือติดค้างอยู่ เมื่อเวลา 10.30 น.ที่ผ่านมา (12 พ.ค. 68) ที่กองอำนวยกาารร่วม สน.บางซื่อ ห้างสรรพสินค้าเจเจมอลล์ ถ.กำแพงเพชร 2 แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประกาศยุติค้นหาผู้สูญหายจากเหตุอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ถล่ม รศ.ทวิดา เปิดเผยว่า วันนี้การค้นหาผู้ติดค้างภายในซากอาคารดังกล่าวยุติทั้งหมดแล้ว และเวลา 17.00 น. วันนี้ ทีมสุนัข K9 จะเข้าสำรวจความชัดเจนบริเวณกองซากวัสดุอาคาร สตง. หลังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เพื่อให้เเน่ใจว่าจะไม่มีชิ้นส่วนมนุษย์หลงเหลืออยู่แล้ว ส่วนด้านเครื่องจักรในพื้นที่จะยังคงทำงานอยู่ เนื่องจากจะมีการขนซากเศษปูนที่อยู่ตรงโซน A ทั้งหมด ย้ายออกไปหลังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง โดยในเวลา […]

ไทยตอนบนยังเผชิญพายุฤดูร้อน ฝนตก-ลมแรง

กทม. 12 พ.ค.- กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนยังคงมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก ส่วนภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยา เผยประเทศไทยตอนบนยังคงมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก และฝนตกหนักบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีพายุฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ มีข้อจำกัดในการระบายน้ำ ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ เนื่องจากการระบายน้ำอาจทำได้ไม่สะดวก และไม่ควรอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเสริมความแข็งแรงให้ไม้ผล และเตรียมการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง รวมทั้งดูแลรักษาสุขภาพในช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนปกคลุมประเทศเวียดนามและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทย และทะเลจีนใต้เข้าปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนยังคงมีอากาศร้อนบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ สำหรับภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ทั้งนี้เนื่องจากลมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย สภาวะอากาศที่มีผลต่อการสะสมฝุ่นละอองในระยะนี้: การสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันบริเวณประเทศไทยตอนบน อยู่ในเกณฑ์น้อยถึงปานกลาง โดยมีแนวโน้มลดลงหรือคงที่ เนื่องจากยังคงมีฝนตกหลายพื้นที่ในบริเวณดังกล่าว .-สำนักข่าวไทย