BIG STORY : บริษัทแห่งหนึ่งใน จ.ระยอง ฆ่าเชื้อบริษัท หลังพบผู้ป่วยโควิด-19 เข้าพื้นที่

ภูมิภาค/กทม. 11 มี.ค. – บริษัทแห่งหนึ่งใน จ.ระยอง ออกคำชี้แจงเรื่องการดูแลพนักงานและฆ่าเชื้อพื้นที่บริเวณห้องอบรม หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เดินทางมาร่วมอบรมในบริษัท โดยบริษัทได้ติดตามตรวจสอบผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่พบพนักงานติดเชื้อ

พ.ต.อ.เชิงรณ ริมผดี รองโฆษกสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ยืนยันว่าตำรวจตรวจคนเข้าเมืองที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตำแหน่ง ผบ.หมู่ ฝ่าย ตม.ขาเข้า ป่วยเป็นโควิด-19 จริง หลังมีการตรวจวัดไข้หลังออกเวรเมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา และมีไข้สูงเกิน 37.5 องศาฯ ก่อนส่งต่อไปยังโรงพยาบาลตรวจวัดอย่างเป็นทางการ และผลออกมาเมื่อวันที่ 9 มีนาคม ว่าติดเชื้อจริง อย่างไรก็ตาม พบเพียงมีอาการไข้ และไม่มีอาการติดเชื้อที่ปอด เพราะถึงมือแพทย์ได้เร็ว ขณะที่ผลตรวจผู้ใกล้ชิดพบว่าไม่มีอาการติดเชื้อ เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติงานในเคาน์เตอร์เดียวกันก็ได้มีการตรวจและไม่พบเชื้อ แต่จำเป็นต้องกักตัว 14 วัน เพื่อเฝ้าระวังตามระเบียบ

เช่นเดียวกับที่บริษัท มาบตาพุดโอเลฟินส์ จำกัด ได้ออกประกาศการดูแลพนักงานและเพิ่มความสะอาดในห้องอบรม หลังจากพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของบริษัทคู่ธุรกิจเข้าร่วมอบรมที่อาคารของบริษัท ตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ ทั้งที่มีการคัดกรองอย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ติดตามตรวจสอบผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด และไม่พบพนักงานติดเชื้อ จึงได้ฆ่าเชื้อโดยรอบทั้งหมด โดยผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทยได้เดินทางไปสังเกตการณ์ พบมีการคัดกรองเข้มข้น แต่ไม่อนุญาตให้เข้าไปในพื้นที่

สำหรับภาพรวมสถานการณ์โควิด-19 กระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมอีก 6 คน ทำให้ยอดรวมผู้ป่วยสะสมมีทั้งสิ้น 59 คน รักษาหายแล้ว 34 คน เหลือรักษาตัวในโรงพยาบาล 24 คน

สำหรับรายละเอียดทั้ง 6 คน ประกอบด้วย คนที่ 1 เป็นเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองประจำสนามบินสุวรรณภูมิ เพศชาย อายุ 21 ปี มีไข้ ไอ น้ำมูก ป่วยตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม คาดว่าเกิดจากการสัมผัสพาสปอร์ตนักเดินทาง คนที่ 2 เป็นเจ้าหน้าที่ตรวจสัมภาระนักเดินทางประจำสนามบินสุวรรณภูมิ เพศชาย อายุ 40 ปี มีไข้ ไอ ปวดตัว ตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคม คาดว่าติดต่อจากการสัมผัสสัมภาระนักเดินทาง คนที่ 3 เป็นพนักงานบริษัท เพศชาย อายุ 25 ปี ไม่มีประวัติเดินทาง แต่ป่วยปอดอักเสบ และเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค จนพบเชื้อโควิด-19 คนที่ 4 เป็นหญิงชาวไทย อายุ 27 ปี เพิ่งกลับจากเกาหลีใต้ มีไข้ ไอ น้ำมูก คนที่ 5 เป็นชายไทย อายุ 40 ปี มีประวัติเดินทางกลับมาจากญี่ปุ่น และคนที่ 6 เป็นชายชาวสิงคโปร์ อายุ 36 ปี มีอาชีพทำงานพบปะกับชาวต่างชาติ

ด้าน นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค บอกว่า สถานการณ์ทั่วโลกพบระบาดรวม 115 ประเทศ และในยุโรปพบผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น จึงแนะนำให้เลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่ระบาด พร้อมย้ำว่าขณะนี้ประเทศไทยยังเป็นการระบาดในเฟส 2 ไม่ได้มีการยกระดับเฝ้าระวังเพิ่มเติมแต่อย่างใด

ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งด่วน เพื่อติดตามและรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาด หลังจากพบการแพร่ระบาดในต่างประเทศมากขึ้น หลังจากนั้นได้ร่วมแถลงข่าวร่วมกับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง


นายกรัฐมนตรียืนยันความจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด หากไม่ปฏิบัติอาจคุมสถานการณ์ไม่ได้ อย่างไรก็ตาม จะต้องคัดกรองทั้งทางตรงและทางอ้อมมากขึ้น โดยเฉพาะบุคคลที่เดินทางมาจากกลุ่มเสี่ยง ซึ่งต้องคัดกรองตั้งแต่ประเทศต้นทางยันปลายทาง ยอมรับว่าขณะนี้ไม่สามารถทำตามข้อเสนอปิดประเทศ เพราะจะส่งผลกระทบหลายด้าน

ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยืนยันว่าเพื่อลดความเสี่ยงการแพร่ระบาด จึงสั่งยกเลิก Visa on Arrival 18 ประเทศเป็นการชั่วคราว หากนักท่องเที่ยวจาก 18 ประเทศต้องการเดินทางเข้ามาต้องไปติดต่อสถานทูตไทยและต้องแนบใบรับรองแพทย์ นอกจากนี้ยังให้ยกเลิก Free Visa เป็นการชั่วคราวกับนักท่องเที่ยว 3 ประเทศ คือ อิตาลี เกาหลีใต้ และฮ่องกง ซึ่งมีสถานการณ์การแพร่ระบาดรุนแรง จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ปกติ โดยมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ส่วนชาวต่างชาติที่เดินทางมาจาก 4 ประเทศ ได้แก่ จีน เกาหลีใต้ อิตาลี และอิหร่าน เมื่อผ่านเข้ามาจะต้องถูกกักตัวที่โรงแรมโนโวเทล สนามบินสุวรรณภูมิ เป็นเวลา 14 วัน เพื่อเฝ้าสังเกตอาการ หากไม่ยินยอมจะส่งกลับประเทศต้นทางทันที สำหรับคนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศเสี่ยง กระทรวงคมนาคมจะจัดรถรับ-ส่งตั้งแต่สนามบินจนถึงบ้านพัก และไม่อนุญาตให้แวะส่งกลางทาง

นอกจากนี้รัฐบาลได้สั่งปิดศูนย์ควบคุมที่อำเภอสัตหีบ และในจังหวัดต่างๆ โดยผู้ที่ถูกควบคุมจะมีการส่งแพทย์ไปตรวจคัดกรองเชื้อ ก่อนส่งไปเฝ้าระวังที่บ้านพักในภูมิลำเนา โดยจะแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ไปติดตามดูแล และหากผู้ที่กลับมาไม่กักตัว หรือไม่ปฏิบัติตามจะถูกลงโทษตามกฎหมาย คือจำคุก 1 ปี หรือปรับ 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยเหตุผลจำเป็นที่ต้องทำเพราะกระทรวงสาธารณสุขแนะนำว่าหากนำเอาบุคคลที่กลับจากประเทศเสี่ยง หรือบุคคลที่มีความเสี่ยงมารวมตัวกัน อาจมีโอกาสแพร่เชื้อและระบาดสูงเหมือนกับเคสของเรือ Diamond Princess

สำหรับ 3 ประเทศที่ยกเลิก Free Visa ประกอบด้วย อิตาลี เกาหลีใต้ และฮ่องกง ส่วน 18 ประเทศ และ 1 เขตเศรษฐกิจ ที่ยกเลิก Visa on Arrival  ประกอบด้วย บัลแกเรีย ภูฏาน จีน ไซปรัส เอธิโอเปีย หมู่เกาะฟิจิ จอร์เจีย อินเดีย คาซัคสถาน มอลตา เม็กซิโก นาอูรู ปาปัวนิวกินี โรมาเนีย รัสเซีย ซาอุดีอาระเบีย ไต้หวัน (เขตเศรษฐกิจ) อุซเบกิสถาน และวานูอาตู.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ หลังเมียนมาปะทะรุนแรง

ตาก 12 ก.ค. – ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ด่วน พร้อมเฝ้าระวังชายแดนอำเภอพบพระอย่างใกล้ชิด หลังเหตุปะทะในเมียนมาทวีความรุนแรง มีรายงานการโจมตีค่ายทหารเมียนมาด้วยโดรน กองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา ใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีใส่ฐาน “ทีตาแหล่” ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามบ้านวาเล่ย์เหนือ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก หลายครั้ง ขณะที่ทหารเมียนมาก็ยิงปืนเล็กยาวตอบโต้ โดยยังไม่ทราบความเสียหายที่เกิดขึ้น และยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อฝั่งประเทศไทย พลตรีไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร พร้อมคณะนายทหารระดับสูง และฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บริเวณบ้านวาเล่ย์ และบ้านมอเกอร์ไทย อำเภอพบพระ อย่างใกล้ชิด เพื่อประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงในการเตรียมแผนเผชิญเหตุจากผลกระทบของการสู้รบใกล้แนวชายแดนในด้านมนุษยธรรม โดยขณะนี้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาจำนวน 457 คน อาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 2 แห่ง ในอำเภอพบพระ และได้รับการดูแลตามหลักมนุษยธรรมภายใต้ความร่วมมือของศูนย์สั่งการชายแดนประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดตาก และแนวทางของสภาความมั่นคงแห่งชาติ พลตรี ไมตรี เน้นย้ำให้หน่วยเฉพาะกิจราชมนู ร่วมกับฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของกองกำลังติดอาวุธต่างชาติ และดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งกองกำลังนเรศวรยืนยันว่าประเทศไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง และไม่สนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในการใช้พื้นที่ประเทศไทยเพื่อประโยชน์ของตนเอง .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง

กทม. 12 ก.ค.-“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเอี่ยวสีกากอล์ฟ เชื่อพระเป็นเหยื่อ หากไม่เสร็จพร้อมดำเนินการ เผยอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เข้าให้ข้อมูล เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง วันนี้ (12 ก.ค.) หลังจากอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เมื่อเวลา 12.30 น. แต่งกายด้วยชุดโปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าเข้ามาให้ปากคำกรณีที่ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสไม่ตอบ เมื่อถามเพิ่มเติมว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่ อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน จากนั้นในเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยเดินทางขึ้นตึกด้านหลัง ใช้ลิฟต์ลานจอดรถ หลังเดินทางกลับจากวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร โดยหลบผู้สื่อข่าวที่มารออยู่ด้านหน้า และได้สอบปากคำอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ในเวลา 16.20 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ให้สัมภาษณ์ว่าการหารือกับพระผู้ใหญ่ในวันนี้ ก็ถือเป็นการทำงานร่วมกันกับ ปปท. ซึ่งมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ […]

อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร ย่องให้ข้อมูลตำรวจกองปราบ

12 ก.ค. – อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร แอบย่องเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจกองปราบ เวลา 12.05 น. วันที่ 12 กรกฎาคม 2568 อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เบื้องต้นส่วมชุด โปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าวันนี้เข้ามาให้ปากคำกรณีที่ ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสวัดโสธรฯ ไม่ตอบแต่อย่างใด ผู้สื่อข่าวสอบถามเพิ่มเติมต่ออีกว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่นั้น ด้านอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน.-414-สำนักข่าวไทย