กรุงเทพฯ 10 มี.ค. – กกต.มีมติแจ้งความดำเนินคดีอาญา “ธนาธร” ปมถือหุ้นสื่อวี–ลัค มีลักษณะต้องห้ามสมัคร ส.ส.แต่ยังใช้สิทธิสมัครผิด ม.151 พ.ร.ป.เลือกตั้ง ชี้โทษหนักจำคุก 1-10 ปี เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี
ที่ประชุม กกต. มีมติให้สำนักงาน กกต.ไปดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจทุ่งสองห้องให้ดำเนินคดีอาญากับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กรณี รู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีคุณสมบัติในการสมัครรับเลือกตั้งส.ส.แต่ยังใช้สิทธิลงสมัครรับเลือกตั้ง ผิดมาตรา 151 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. 2561 หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย เมื่อวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา ให้สมาชิกภาพ ส.ส.ของนายธนาธร สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) จากกรณีถือหุ้นสื่อ บริษัท วี–ลัค มีเดีย จำกัด อยู่ในวันที่ 6 ก.พ.62 ซึ่งเป็นวันที่พรรคอนาคตใหม่ยื่นบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อต่อกกต. โดยโทษตามมาตรา 151 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี
ทั้งนี้การพิจารณาเรื่องดังกล่าว หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้สมาชิกภาพ ส.ส.ของนายธนาธรสิ้นสุดลง สำนักงาน กกต.ได้มีการเสนอเรื่องให้ที่ประชุมกกต.พิจารณาไม่น้อยกว่า 3 ครั้ง แต่ที่ประชุมกกต.ได้ให้ทางสำนักงานฯนำเรื่องดังกล่าวไปปรับปรุงเนื่องจากเห็นว่าการจะดำเนินคดีอาญากับนายธนาธรแตกต่างจากคดีตัดสิทธิทางการเมืองที่ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ โดยคดีอาญานั้นต้องมีข้อมูลที่ชี้ให้เห็นถึงเจตนาว่าขณะที่นายธนาธร ยื่นลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่นั้น นายธนาธรรู้ว่าตนมีลักษณะต้องห้ามใช้สิทธิสมัครตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98(3) แต่ยังคงสมัคร พยานหลักฐานประกอบจึงต้องมีน้ำหนักเพราะการสู้คดีก็ต้องสู้กันถึง 3 ศาล อย่างไรก็ตามการแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนจากเหตุนี้ไม่ใช่นายธนาธรเป็นคนแรกที่ กกต.ดำเนินการ โดยก่อนหน้านี้ผู้สมัคร ส.ส. ที่กกต.มีคำวินิจฉัยว่ารู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เพราะมีลักษณะต้องห้าม เช่น สังกัดพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองเดียวไม่ถึง 90 วันจนถึงวันเลือกตั้ง กกต.ก็จะมอบให้สำนักงาน กกต. ไปแจ้งความร้องทุกข์ที่สน.ทุ่งสองห้อง เช่นเดียวกัน .- สำนักข่าวไทย