แจงดราม่าสถานที่กักโรคบุรีรัมย์แออัด ชี้เป็นสถานการณ์ฉุกเฉิน

ภูมิภาค 10 มี.ค. – ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ แจงสาเหตุสถานที่กักกันโรคสำหรับคนไทยกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยงแออัดเพราะเตรียมไว้รองรับเพียง 60 คน แต่ส่งมาบุรีรัมย์มากถึง 186 คน ระบุเป็นชาวบุรีรัมย์เพียง 20 คน ที่เหลือมาจากหลายจังหวัด ในฐานะเจ้าบ้านจึงให้การดูแลเบื้องต้น ก่อนคัดแยกไปกักโรคตามภูมิลำเนา ยืนยันจังหวัดพร้อมดูแลกลุ่มเสี่ยง เหตุที่เกิดขึ้นเป็นภาวะฉุกเฉิน

แจงดราม่าสถานที่กักโรคบุรีรัมย์แออัด ชี้เป็นแค่สถานการณ์ฉุกเฉิน
ที่บุรีรัมย์ หลังมีผู้ใช้เฟซบุ๊กแชร์ภาพสถานที่กักโรคสำหรับคนไทยที่กลับจากประเทศเสี่ยง พร้อมข้อความ…ด่วน! ไม่มีความพร้อม คุณภาพที่พักโดยรวมแย่มาก ผีน้อย ผีใหญ่ 190 กว่าชีวิตที่มาถึงไทยเมื่อวันที่ 9 มีนาคม ถูกกักตัวที่สนามกีฬาที่บุรีรัมย์ อากาศร้อน แต่ต้องนอนเต็นท์ พัดลมไม่พอ ห้องน้ำรวม นอนรวม ไม่ใครมีรองเท้าแตะ ห้องน้ำระบายไม่ได้ เจิ่งนอง เต็นท์กางเรียงกัน ทุกคนทุลักทุเล กระเป๋าคนละ 1-3 ใบ และผีน้อยที่มาจากเมืองไม่เสี่ยง มานอนรวมกันกับคนที่มาจากเมืองเสี่ยง เขาหวั่นๆ ว่าอาจรอดมาจากที่โน่น แต่มีโอกาสติดโควิด-19 ที่นี่ มาถึงสุวรรณภูมิ ผ่านขั้นตอนการตรวจ ถูกรวมขึ้นรถ นึกว่าจะได้ไปสัตหีบ แต่ถูกส่งมาบุรีรัมย์ ทุกคนเครียด มาถึงได้ข้าวคนละกล่อง และไม่มีการชี้แจงใดๆ ร้อนมาก นอนไม่ได้ แบบนี้เรียกได้ว่า เคลียร์คนออกจากสุวรรณภูมิมาสถานที่กักตัว แต่ไม่มีความพร้อมดูแล วอนช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริง

วันนี้ นายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ ชี้แจงว่า สถานที่กักโรคดังกล่าวเป็นสนามกีฬาเอกชน ที่เห็นผู้ที่กลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยงเข้ามาอยู่อย่างแออัดเป็นการสื่อสารที่คลาดเคลื่อน จริงๆ สถานที่นี้เตรียมไว้รองรับคนเพียง 60 คน แต่เมื่อคืนนี้มีมามากถึง 186 คน เป็นชาวบุรีรัมย์เพียง 20 คน ที่เหลือมาจากหลายจังหวัด ต้นทางยังไม่มีการคัดแยกมา บุรีรัมย์ในฐานะเจ้าบ้านจึงให้การดูแลในเบื้องต้น ก่อนคัดแยกให้ไปกักโรคตามภูมิลำเนา ยืนยันจังหวัดพร้อมดูแลกลุ่มเสี่ยง และเหตุที่เกิดขึ้นเป็นภาวะฉุกเฉิน
กรมขนส่งฯ แจงขั้นตอนการส่งกักตัวที่ภูมิลำเนา
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยถึงกรณีประเด็นดราม่าดังกล่าวว่า ขั้นตอนการปฏิบัติงานข้อตกลงที่มีร่วมกับกระทรวงมหาดไทย เมื่อนำผู้โดยสารออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะขึ้นรถโดยสารที่จัดเตรียมไว้ หลังจากนั้นจะนำไปรวมในจังหวัดที่เป็นศูนย์กลางแต่ละภูมิภาค เช่น กรณีนี้คือจังหวัดบุรีรัมย์ หลังจากนั้นจะมีการประสานกับกระทรวงมหาดไทย เพื่อกระจายผู้โดยสารไปจังหวัดต่างๆ ที่เป็นภูมิลำเนา อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการอยู่ร่วมกันหลายวันอาจทำให้แรงงานเหล่านี้เกิดความเครียด ล่าสุดกรมการขนส่งทางบกได้สั่งการให้ขนส่งจังหวัดบุรีรัมย์เร่งจัดรถนำแรงงานไปส่งภูมิลำเนาแล้ว เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการปฏิบัติงานมากขึ้น แบ่งเบาภาระของกระทรวงมหาดไทย

ผู้ว่าฯ ขอนแก่นขอโทษสังคม ยันภาพโซเชียลเป็นข้อมูลเก่า

ส่วนขอนแก่น นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าฯ ขอนแก่น ขอโทษชาวโซเชียลที่มีภาพของศูนย์เฝ้าระวังสุขภาพพุทธมณฑลอีสาน ซึ่งเป็นสถานที่เฝ้าระวังโรคของคนกลุ่มเสี่ยง เผยแพร่ออกไปในสภาพที่ไม่สมบูรณ์ ทำให้หลายคนไม่สบายใจ แต่แท้จริงแล้วจังหวัดได้เตรียมทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว เพียงแต่ยังไม่ได้นำมาติดตั้ง ซึ่งในวันนี้การลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อย ยืนยันว่ารองรับกลุ่มเสี่ยงได้เต็มรูปแบบ ทั้งห้องพักที่จัดไว้ได้ติดตั้ง wi-fi มีทีวีให้ติดตามข่าวสาร จัดเจ้าหน้าที่พลศึกษานำออกกำลังกาย มีพระสงฆ์เป็นผู้นำปฏิบัติธรรม และนักจิตวิทยาให้คำแนะนำและพูดคุยเพื่อลดความตึงเครียดในช่วง 14 วัน

พบคนกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยงมีไข้สูง 2 คน

ที่เชียงใหม่ กลุ่มคนที่กลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยงเดินทางเข้ารับการกักโรคเฝ้าระวังโควิด-19 ตามภูมิลำเนาที่กองร้อยอาสารักษาดินแดนเชียงใหม่ที่ 1 เพิ่มอีก 4 คน ทำให้ขณะนี้มีผู้เข้ากักโรครวม 9 คน ทั้งหมดไม่ใช่กลุ่มแรงงานผิดกฎหมาย แต่เดินทางไปเที่ยวเกาหลี ในจำนวนนี้เจ้าหน้าที่พบมีไข้สูง 2 คน จึงส่งตัวไปรักษาโรงพยาบาล และตรวจหาเชื้อโควิด-19 ซึ่งอยู่ระหว่างรอผลตรวจอย่างเป็นทางการ  

ผลตรวจหญิงไทยไข้สูงที่กระบี่ ไม่พบเชื้อโควิด-19

ที่กระบี่ ผลตรวจหญิงไทยอายุ 54 ปี ที่ไปทำงานเกาหลีใต้ และเดินทางมาเที่ยวที่กระบี่ แต่มีอาการไข้สูงถึง 39 องศาฯ ออกแล้ว โดยนายสมควร ขันเงิน รองผู้ว่าฯ กระบี่ ระบุว่าผลตรวจสารคัดหลั่งของหญิงรายดังกล่าวออกมาเป็นลบ ไม่พบเชื้อโควิด-19 แต่เพื่อให้เกิดความมั่นใจ จะส่งตัวหญิงรายนี้ไปสังเกตอาการตามมาตรการเฝ้าระวังที่กองร้อยอาสาสมัครรักษาดินแดน จ.กระบี่ ให้ครบ 14 วัน พร้อมจัดเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก 24 ชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

รวบแล้วนักโทษหนีเรือนจำนนทบุรี จนมุมที่ จ.ชลบุรี

จับได้แล้วนักโทษชายหนีเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ระหว่างออกกองงานภายนอก จนมุมที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางแสน จ.ชลบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนนทบุรี

ตัดไฟ 5 จุดชายแดนเมียนมา วันแรก กระทบชาวบ้านหลายหมื่นคน

หลังทางการไทยตัดไฟฟ้าที่เชื่อมโยงไปยังเมืองเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ส่งผลชาวบ้านแห่กักตุนน้ำมัน โรงพยาบาลเมียวดี ได้รับผลกระทบในการเก็บเวชภัณฑ์ที่ต้องใช้ตู้แช่

ตร.ปัตตานีเร่งล่า 6 คนร้ายควงปืนปล้นร้านสะดวกซื้อ

อุกอาจ 6 คนร้าย พร้อมอาวุธมีด-ปืน ยกพวกปล้นร้านสะดวกซื้อใน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้เงินไป 4,492 บาท ตำรวจเร่งไล่กล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่คนร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนี

นายกฯ​ ยกคณะเยือนจีน หารือความร่วมมือรอบด้าน

นายกรัฐมนตรี​ ยกคณะเยือนจีนอย่างเป็นทางการ หารือความร่วมมือรอบด้าน แก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ ย้ำไทยปลอดภัย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนตลอดปี สานต่อ​รถไฟความเร็วสูง-แลนด์บริดจ์ ขณะที่เตรียมรับแพนด้ายักษ์คู่ใหม่​ และจะไปให้กำลังใจนักกีฬาไทยแข่งเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว