ผอ.องค์การเภสัช ยันปัญหาขาดแคลนหน้ากากอนามัยคลี่คลายภายใน 1-2 วันนี้

ทำเนียบ 10 มี.ค.-ศูนย์โควิด-19 ทำเนียบรัฐบาลแถลง  ยัน  1-2 วันนี้ ปัญหาหน้ากากอนามัยขาดแคลนจะคลี่คลาย มีใช้เพียงพอสำหรับโรงพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ พร้อมย้ำมาตรการป้องกันควบคุมโรค การช่วยเหลือลูกจ้าง-ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ 


ศูนย์ข้อมูลมาตรการแก้ไขปัญหาจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โควิด-19 ที่มีนายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้อำนวยการศูนย์แถลงข่าวประจำวัน โดยนายไพศาล จารุรักษา ผู้จัดการโรงงาน Thai Hospital Products ตัวแทนโรงงานผู้ผลิตหน้ากากอนามัยกล่าวว่า ปัจจุบันมีการเพิ่มกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่องโดยมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 400,000 ชิ้นต่อวัน และจัดส่งให้กรมการค้าภายใน- องค์การเภสัชกรรม 350,000 ชิ้นต่อวัน จากการผลิต หน้ากากอนามัย 10.5 ล้านชิ้นต่อเดือน ยืนยันว่าไม่มีการกระจายหน้ากากอนามัยไปยังภาคเอกชนที่มาซื้อหน้าโรงงาน เพราะมีเจ้าหน้าที่จากกรมการค้าภายในไปควบคุมการส่งออก รวมถึงมีการติดตามสินค้าเพื่อให้ได้คุณภาพอีกด้วย 


ด้าน นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์  ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า ปัจจุบันองค์การเภสัชกรรม ได้จัดสรรหน้ากากอนามัยให้กับโรงพยาบาลสังกัดของรัฐ 400,000 ชิ้นต่อวัน โดยจะพิจารณาถึงความจำเป็นเร่งด่วนในแต่ละพื้นที่ ซึ่งตอนนี้สามารถกระจายไปถึง โรงพยาบาลในจังหวัดใหญ่ๆได้แล้วร้อยละ 99  ส่วน รพ.นอกสังกัด สธ. ได้รับ 300,000 ชิ้นต่อวัน ส่วนกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ จะเป็นผู้ประสานติดต่อให้กับโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งโรงพยาบาลเอกชนสามารถติดต่อกับโรงงานผู้ผลิตได้โดยตรง และมีตัวเลขรายงานว่า รพ.เอกชน และคลินิกได้รับ 140,000 ชิ้นต่อวัน ,รพ.ในสังกัด กทม. ได้รับ 70,000 ชิ้นต่อวัน และรพ. สังกัดมหาวิทยาลัยและคณะทันตแพทย์ ได้รับ 60,000 ชิ้นต่อวัน


ส่วนกระทรวงพาณิชย์ที่ได้รับการจัดสรร 500,000 ชิ้นต่อวัน นั้น กลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ำจะได้รับ 200,000 ชิ้นต่อวัน ร้านธงฟ้า 150,000 ชิ้นต่อวัน ร้านขายยา 25,000 ชิ้นต่อวัน และร้านสะดวกซื้อรวมถึงหน่วยงานราชการ 125,000 ชิ้นต่อวัน โดยช่วง3วันที่ผ่านมามีการบริหารจัดการกว่าล้านชิ้น และคาดการณ์ว่า 1-2 วันนี้สถานการณ์หน้ากากอนามัยขาดแคลนจะคลี่คลายโดยเร็ว มีใช้ ในโรงพยาบาลและเพียงพอต่อบุคลากรทางการแพทย์ 

ขณะที่ประเด็นการจัดสรรงบกลาง 225 ล้านบาท ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือ อปท. กว่า 1,400 แห่งทั่วประเทศ จัดทำหน้ากากทางเลือกนั้น นายประยูร รัตนเสนีย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข จัดอบรมให้ความรู้แก่บุคคลากรกว่าล้านคน ตามความสมัครใจโดยมีการจัดทำหน้ากากผ้าอย่างต่อเนื่อง ยืนยันว่างบประมาณดังกล่าวไม่ได้มากเกินความจำเป็นเนื่องจากมีต้นทุนอุปกรณ์ อยู่ที่ 4.5 บาทต่อ 1 ชิ้น ตามเป้าหมาย 50 ล้านชิ้น และไม่ได้เป็นการทำงานซ้ำซ้อน เป็นเรื่องที่ดีหากมีภาคส่วนอื่นร่วมกันจัดทำหน้ากากแจกจ่ายประชาชน

ด้าน นายจักษ์ พันธ์ชูเพชร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวถึง มาตรการรับมือแรงงานไทยกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยงหลังพ้นกักตัว 14 ว่า กระทรวงแรงงานได้มีการจัดตั้งศูนย์รองรับไว้แล้ว โดยมีการประชุมร่วมกับทูตแรงงานทั้ง 12 ประเทศ ขณะนี้ยังไม่มีนัยยะในการเลิกจ้างงานใดๆ แต่ได้มีการเตรียมความพร้อมในการดูแลบริษัทที่อาจปิดตัว เช่น การให้ลูกจ้างไม่ต้องมาทำงานและให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างเพียงร้อยละ 75  

ทั้งนี้ ที่ประชุมสำนักงานประกันสังคม มีมติเห็นชอบ เรื่องการปรับลดการส่งเงินสมทบประกันสังคมให้กับลูกจ้างและนายจ้าง จากเดิม ร้อยละ 5 เป็นร้อยละ 4 เพื่อเป็นการช่วยเหลือลูกจ้างผู้ประกอบการ เป็นระยะเวลา 6 เดือน เริ่มตั้งแต่สิ้นเดือนมีนาคมนี้

นายจักษ์ กล่าวอีกว่า หลังจากแรงงานไทยที่กลับและผ่านการกักตัวไว้ 14 วันแล้ว กระทรวงแรงงาน จะดำเนินการตรวจสอบสิทธิประโยชน์การเป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางาน เพื่อไปทำงานในต่างประเทศ แก่แรงงานไทยที่เดินทางกลับจากประเทศเสี่ยงต่อการติดเชื้อและแพร่ระบาด หากเป็นสมาชิกฯ มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนเนื่องจากโรคระบาด ซึ่งทางการของประเทศของประเทศนั้นประกาศกำหนดแล้ว จำนวน 15,000 บาท สำหรับผู้ที่ประสงค์จะทำงาน กรมการจัดหางานได้เตรียมตำแแหน่งงานว่างไว้รองรับจำนวน 66,000 อัตรา เช่น นักวิศวกรรม/ฝ่ายผลิต พนักงานฝ่ายขาย พนักงานบริการ เป็นต้น โดยอัตราการจ้างงานได้รับค่าแรงขั้นต่ำทางกฎหมาย ส่วนแรงงานตามทักษะจะได้รับตามวุฒิการศึกษา ส่วนผู้ที่ต้องการพัฒนาทักษะฝีมือจากเดิมในระบบ 70,000 คน กรมพัฒนาฝีมือแรงงานก็ได้เปิดฝึกอบรมเพิ่มอีก 30,000 คน รวมฝึกทั้งสิ้น 100,00 คน ผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระจะต้องการจะพัฒนาทักษะฝีมือ กรมพัฒนาฝีมือแรงานก็จะฝึกฝีมือให้จากเดิม 100,000 คน ได้เปิดฝึกอบรมเพิ่มอีก 20,000 คน รวมฝึกทั้งสิ้น 120,000 คน

ด้าน พันตำรวจเอกเชิงรณ ริมผดี  รองโฆษกสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กล่าวถึง มาตราการตรวจคนเข้าเมืองโดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง 4 ประเทศ ได้สนับสนุนการปฏิบัติงานทุกหน่วยงานเกี่ยวข้องทุกหน่วย ในการช่วยให้ข้อมูลผู้โดยสารที่เดินทางเข้าประเทศ จัดส่งให้กับกรมควบคุมโรค ขณะนี้สนามบินหลัก 4 สนามบิน ได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง  เชียงใหม่ และภูเก็ต รับผู้โดยสารจากประเทศเสี่ยงเฉลี่ยวันละ 4,500 คน ส่วนกรณีแรงงานไทยผิดกฎหมาย ที่เดินทางกลับประเทศไทยขอชี้แจงว่า เป็นกฎหมายตรวจคนเข้าเมืองเฉพาะประเทศนั้นๆ สั่งการ ตม .จังหวัดต่างๆ ช่วยพนักงานควบคุมโรคและติดตามผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศเสี่ยงว่ามีการกักตัวที่บ้านตามที่กำหนด 14 วันหรือไม่

ขณะที่ นายแพทย์ ขจรศักดิ์ แก้วจรัส รองอธิบดีกรมควบคุมโรค และนายแพทย์รุ่งเรือง กิตผาติ โฆษกประจำกระทรวงสาธารณสุข ได้ระบุถึงการเตรียมรับมือการเข้าสู่โควิดระดับที่ 3 ว่ากระทรวงสาธารณสุขได้พยายามควบคุมสถานการณ์อย่างเต็มที่โดยมีแผนเผชิญเหตุอย่างชัดเจน ซึ่งรัฐบาลและทุกหน่วยงานมีการผสานการทำงานแลกเปลี่ยนข้อมูล  ยืนยันว่าสามารถติดตามแรงงานไทยผิดกฎหมายได้ทั้งหมด อีกทั้งขอให้มั่นใจระบบสาธารณสุขของไทยว่ามีความชัดเจน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังข้อเท็จจริง​ปมทุ่นระเบิดช่องบก

กองทัพบก 22 ก.ค.- ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร​ 47 ประเทศ​ รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​-กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ พบ เป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​วางใหม่​ โดยมีหลายชาติ สนใจรับฟังขณะ​ พลจัตวา​ ฮอม​ คิม ผู้ช่วยทูตทหารดัมพูชา ร่วมด้วย กองบัญชาการ​กองทัพ​บก​ เชิญผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย​ รับฟังการชี้แจงสถานการณ์​ชายแดนไทย​-กัมพูชา​ ถึงข้อเท็จจริงกรณีไทยโดนรุกล้ำอธิปไตย​ และมีการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​ ทำให้ทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย​ และมีการตรวจสอบว่าเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่​ ที่วางในเขตไทย​ ซึ่งขัดต่ออนุสัญญา​ออตตาวา​ ที่ทั้งไทยและกัมพูชาเป็นประเทศภาคี​ที่ให้สัตยาบัน​​ บรรดาทูต​ทหาร​ ทยอยเดินทางมายังห้อง ศรีสิทธิสงคราม​ ภายในกองทัพบก ตั้งแต่เวลา​ 13.20 น.​ อาทิทูตทหารจากเวียดนาม เมียนมา อินเดีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อังกฤษ บูรไน ออสเตเรีย สหรัฐอเมริกา อินโดนิเซีย จีน กัมพูชา เยอรมันนี แคนนาดา […]

พายุวิภากระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านอาหารถล่ม

จันทบุรี 22 ก.ค. – พายุกระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านข้าวมันไก่ถล่ม กระแทกหลังแม่เจ้าของร้านได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่ภูเก็ตพายุถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต หลังคาร้านข้าวมันไก่ บริเวณตลาดศิริการ อ.เมือง จ.จันทบุรี ถูกพายุพัดร่วงลงมาทั้งแผง ท่ามกลางความตื่นตระหนกของลูกค้าและพนักงานในร้าน เหตุดังกล่าวเกิดช่วงเที่ยงพอดี จึงมีลูกค้ามานั่งกินข้าวเต็มร้าน กระทั่งมีฝนเทลงมา ทางร้านและลูกค้าจึงช่วยกันขนย้ายโต๊ะเก้าอี้เข้าข้างในเพื่อหลบฝน ก่อนพายุจะซัดเข้ามาอย่างรุนแรง จนหลังคาถล่ม เบื้องต้นไม่มีลูกค้าได้รับบาดเจ็บ มีเพียงแม่เจ้าของร้านข้าวมันไก่อีกร้าน ที่อยู่ติดกัน ถูกหลังคากระแทกหลังได้รับบาดเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลแล้ว พนักงานร้านข้าวมันไก่ บอกว่า ปกติบริเวณนี้มีฝนตกบ่อย หลังคาแข็งแรงดี ไม่ได้ชำรุดอะไร แต่วันนี้ ลมแรงมาก มาแบบวูบเดียว พัดหลังคาลอยขึ้นก่อนพังลงมา ทั้งนี้ลมพายุได้พัดหลังคาของตึกที่อยู่ในละแวกร้านข้าวมันไก่พังเสียหายจำนวน 15 คูหา เบื้องต้นกำลังทหารและตำรวจ ได้เข้าตรวจสอบ พร้อมให้การช่วยเหลือ ขนย้ายเศษซากหลังคาเคลียร์พื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว พายุโซนร้อนวิภาถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต ที่หน้าหาดเกาะเฮ จังหวัดภูเก็ต นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ หอบข้าวของวิ่งหนีลมพายุ จังหวะนั้นต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกลมพัดโค่นลงมา ในคลิปจะได้ยินเสียงคนพูดว่า “เห็นไหม คน ๆ อยู่ใต้นั้น” หลังเหตุการณ์สงบ […]

รถบรรทุกพุ่งชน จยย.พ่วงข้างรับส่ง นร. ตาย 3 เจ็บ 6

พระนครศรีอยุธยา 22 ก.ค. – สลด รถบรรทุก 6 ล้อ พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 6 คน เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุก 6 ล้อ ทะเบียนพระนครศรีอยุธยา พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน โรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ ก่อนตกลงไปในร่องน้ำ บนถนนชนบทเลียบคลองระพีพัฒน์ หมู่ 5 ตำบลวังน้อย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอัดกับรั้วบ้านจนรถพังยับ มีผู้ติดอยู่ในรถ 2 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คนออกมา แต่ผู้โดยสารเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนคนขับบาดเจ็บสาหัส ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง สภาพรถเสียหายยับเยิน คนบนรถ 7 คน เป็นนักเรียนโรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ 6 คน ผู้ปกครอง 1 คน บาดเจ็บทั้งหมด เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลวังน้อย และมีนักเรียน 2 คนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ จุดกิตติวังน้อย […]

โฆษก ทบ. เผยนานาชาติเข้าใจไทยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด

กองทัพบก 22 ก.ค.- โฆษก ทบ. เผยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด นานาชาติเข้าใจไทย ขณะผู้ช่วยทูตทหารกัมพูชานั่งนิ่งไม่โต้แย้ง – ให้กองทัพภาคที่ 2 ประเมินสถานการณ์หลังคนไทยนัดรวมตัวปราสาทตาเมือนธม ปลายเดือนนี้ พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวภายหลังการเชิญผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​- กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ ว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ส่วนใหญ่เป็นการรับฟังและมีคำถามบ้าง ถือว่าน้อย เนื่องจากทุกท่านอาจจะได้รับข่าวสารจากช่องทางอื่นมาบ้างแล้ว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก ที่พยายามบอกกล่าวและชี้แจงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในเรื่องข้อเท็จจริง พลตรีวินธัย เปิดเผยว่า ทูตทหารของกัมพูชา ไม่ได้ชี้แจงหรือมีคำถามอะไร คำถามส่วนใหญ่มาจากท่านอื่นมากกว่า ที่ถามเรื่องของความมั่นใจและยืนยันใช่หรือไม่ ซึ่งทางเรา ก็ให้เหตุผลไป และจะให้เอกสารชี้แจง ส่วนท่าทีของประเทศมหาอำนาจ ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ซึ่งการเชิญมาในวันนี้เราก็ทำตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก คือทำให้เป็นทางการ ส่วนการหารือได้ชี้แจงเรื่องของการละเมิด บูรณภาพดินแดน และเอ็มโอยู 2543 และอนุสัญญาออตตาวา ด้วยหรือไม่ พลตรีวินธัย ระบุว่า มีการพูดถึงประเด็นดังกล่าว และได้อธิบายตามหลักอนุสัญญา ที่ทั้งสองประเทศเป็นสมาชิก และเล่าถึงกลไกการแก้ไขปัญหา […]

ข่าวแนะนำ

พายุวิภาทำเชียงรายอ่วม-รพ.เทิง งดรับผู้ป่วยชั่วคราว

เชียงราย 23 ก.ค. – พายุวิภาทำ อ.เทิง จ.เชียงราย อ่วม น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือน พื้นที่การเกษตร โรงพยาบาลเทิง ประกาศงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไปชั่วคราว รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ด้านนายอำเภอสั่งการเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุวิภา ทำให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรหลายอำเภอใน จ.เชียงราย โดยเฉพาะ อ.เทิง สถานที่ราชการ ได้แก่ สภ.เทิง ศาลจังหวัด และโรงพยาบาลเทิง เกิดน้ำท่วมขัง โรงพยาบาลต้องงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไป รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ขณะที่สถานการณ์โดยทั่วไปยังมีฝนตกหนัก นายอำเภอเทิงลงพื้นที่ สั่งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ส่วนถนนพหลโยธิน ต.นางแล อ.เมืองเชียงราย น้ำป่าจากดอยโป่งพระบาทไหล่เอ่อท่วมถนนด้านขาขึ้น การสัญจรเป็นไปอย่างยากลำบาก ภาพรวมสถานการณ์ จ.เชียงราย เบื้องต้นมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 5 อำเภอ ประชาชนเดือดร้อนประมาณ 100 ครัวเรือน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

มท.2 รับกังวล จ.น่าน ที่สุด เหตุ 1 ชม. น้ำขึ้น 30 ซม.

ก.มหาดไทย 23 ก.ค.-มหาดไทย ถกวอรูมติดตามสถานการณ์ “พายุวิภา” ห่วงพื้นที่เหนือ-อีสาน พื้นที่ราบเชิงเขา เสี่ยงน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลัน ด้าน มท.2 กำชับพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่ม-ความปลอดภัยชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน เผยเตรียมลงพื้นที่เชียงราย-น่าน รับกังวลน่านที่สุด เหตุ 1 ชม. น้ำขึ้น 30 ซม. สั่ง ปภ.-กรมชลฯ เร่งสูบน้ำ นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยแห่งชาติหรือ บกปภ.ช. ประชุมตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์พายุ “วิภา” โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ร่วมรับฟัง และมีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ เข้าร่วมประชุมติดตามสถานการณ์ ได้ติดตามภาพรวมสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทั้งจังหวัดแถบภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง ให้หลายจังหวัดจากอิทธิพลพายุวิภาในที่ประชุม กล่าวว่า ได้มีการรายงานสถานการณ์เป็นรายพื้นที่ ประกอบด้วยพื้นที่ติดภูเขา ที่ราบเชิงเขา โดยให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และการตรวจสอบสภาพดินที่ได้รับการสะสมของปริมาณฝนที่ตกลงมา ซึ่งมีลักษณะอุ้มน้ำ และความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำป่าไหลหลาก […]

ฝนถล่มน่าน น้ำเริ่มท่วมหลายพื้นที่ และน้ำน่านเพิ่มขึ้นรวดเร็ว

น่าน 23 ก.ค.-อิทธิพลจากพายุวิภา ทำให้ฝนถล่มน่านอย่างหนัก ปริมาณฝนสะสมเกิน 200 มิลลิเมตร น้ำเริ่มท่วมในหลายพื้นที่ และน้ำน่านเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จ.น่าน ขณะนี้ฝนตกหนักต่อเนื่องมาเกือบ 20 ชั่วโมงแล้ว และหลายพื้นที่โดยเฉพาะทางตอนเหนือวัดปริมาณฝนสะสมเกิน 200 มิลลิเมตรเกือบ 20 สถานี ส่งผลให้ระดับน้ำน่านเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ยชั่วโมงละ 30 เซนติเมตร แม้ว่าระดับน้ำน่านยังต่ำกว่าตลิ่งอยู่มาก แต่ฝนที่ตกหนักติดต่อกันมาทั้งคืน โดยเฉพาะทางตอนเหนือของเมืองทั้งที่ปัว บ่อเกลือ เฉลิมพระเกียรติ ท่าวังผา และอีกหลายอำเภอ ซึ่งจากข้อมูลปริมาณน้ำฝนจากสถานีวัดของมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภา) ยามยาก ในจังหวัดน่าน เมื่อเช้านี้พบปริมาณฝนสะสมเกิน 200 มิลลิเมตรถึง 18 สถานี สูงสุดอยู่ที่สถานีต้นน้ำน้ำกอนฝั่งซ้าย ตำบลพญาแก้ว อำเภอเชียงกลาง สูงถึง 291 มิลลิเมตร นั่นทำให้บางพื้นที่ลุ่มต่ำเริ่มมีน้ำเข้าท่วมพื้นที่แล้ว อย่างที่อำเภอท่าวังผา เริ่มมีน้ำทะลักเข้ามาแล้ว รวมทั้งระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วโดยที่สถานีวัดระดับน้ำ n64 บ้านผาขวาง เหนือเมืองน่านไป 30 กิโลเมตร เพิ่มเป็น 7 เมตร […]

เตือนเฝ้าระวังดินถล่มใน 21 จังหวัด แม้ “วิภา” อ่อนกำลัง

กรุงเทพฯ 23 ก.ค.-กรมทรัพยากรธรณี แจ้งเตือนให้เฝ้าระวังดินถล่มในพื้นที่ 21 จังหวัด จากผลกระทบพายุ “วิภา” แม้ขณะนี้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำแล้ว แต่อิทธิพลของร่องมรสุมยังคงส่งผลให้หลายพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันตกมีฝนตกหนักต่อเนื่อง นายพิชิต สมบัติมาก อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี เปิดเผยว่า กรมฯ ยังคงเปิดศูนย์ปฏิบัติการธรณีพิบัติภัย (War Room) เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมงอย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 หรือจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยมีเป้าหมายเพื่อประเมินความเสี่ยง วิเคราะห์ข้อมูล และแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ จากการวิเคราะห์ข้อมูลฝนสะสมควบคู่กับแบบจำลองธรณีพิบัติภัย พบว่า มีพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดดินถล่มกระจายอยู่ใน 21 จังหวัด ได้แก่ -ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ ลำปาง ตาก อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์-ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: เลย อุดรธานี หนองคาย-ภาคตะวันออก: จันทบุรี ตราด-ภาคตะวันตก: กาญจนบุรี ราชบุรี-ภาคใต้ฝั่งตะวันตก: ระนอง พังงา […]