เลย 9 มี.ค.- ผู้ว่าฯ เลยตรวจสถานที่ใช้เฝ้าระวังอาการแรงงานไทยกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยงโควิด-19 ย้ำความมั่นใจทุกขั้นตอนทำอย่างรัดกุมทั้ง 3 พื้นที่ ที่ผ่านมามีระบบคัดกรองเข้มยังไม่พบผู้ติดเชื้อ
นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดเลย และ นพ.ปรีดา วรหาร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเลย ตรวจความพร้อมของโรงพยาบาลค่ายศรีสองรัก อ.เมือง ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ใช้เป็นสถานที่เฝ้าระวังโควิด-19 ของแรงงานไทยที่เดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ส่วนอีก 2 แห่ง คือ กองร้อย อส. จังหวัดเลยที่ 2 บ้านท่าแพ และหน่วยควบคุมโรคติดต่อนำโดยแมลงที่ 8.2 เลย
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า จากการประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดเลยเมื่อวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้ข้อสรุปการกำหนดสถานที่และจำแนกบุคคลที่เดินทางมาจากประเทศเกาหลีเข้ามาจังหวัดเลย ซึ่งกระทรวงแรงงานระบุว่าจะมีประมาณ 80 คน หากเป็นกลุ่มที่เดินทางมาจากเมืองหลัก หรือเมืองที่มีแพร่ระบาดโควิด-19 รุนแรง ทางกระทรวงกลาโหมจะรับตัวไปดำเนิการเอง ส่วนผู้ที่เดินทางมาจากเมืองอื่น ๆ ในเกาหลี ก็จะเดินทางกลับภูมิเนาในจังหวัดเลย โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ตามอาการ หากมีไข้ หรือเข้าเกณฑ์ที่ต้องสอบสวนโรค ก็จะแยกมาอยู่ที่โรงพยาบาลค่ายศรีสองรัก ส่วนกลุ่มที่ไม่มีอาการต้องกักตัว 14 วัน จะไปอยู่ที่กองร้อย อส. จังหวัดเลยที่ 2 บ้านท่าแพ ซึ่งการเดินทางเข้ามาอาจจะไม่มาพร้อมกันทั้ง 80 คน คงจะทยอยกันมา ทางจังหวัดได้เตรียมความพร้อมรองรับไว้แล้ว ทั้งบุคลากรทางการแพทย์ อุปกรณ์ เครื่องมือต่าง ๆ รวมทั้งอาหารการกิน ที่ต้องใช้ภาชนะแบบใช้แล้วทิ้งครั้งเดียว
ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย กล่าวว่า ส่วนผู้ที่เดินทางจากประเทศอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ประเทศเสี่ยงจะต้องดำเนินการเช่นเดียวกัน โดยจะให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. นายอำเภอ เจ้าหน้าที่ รพ.สต. เข้าไปสำรวจว่ามีใครเดินทางเข้ามาในช่วงวันที่ 23 ก.พ.–7 มี.ค.นี้บ้าง หากพบจะเชิญเข้าสู่กระบวนการเฝ้าระวัง ขอให้ชาวจังหวัดเลยมั่นใจได้ว่าคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดทำด้วยความรัดกุม ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2563 ได้คัดกรองผู้ที่เดินทางเข้ามาตามจุดผ่านแดนและท่าอากาศยานเลย แล้วจำนวน 30,352 คน มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์เฝ้าระวัง 9 ราย ส่งตรวจแล้วไม่พบเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้ง 9 ราย.-สำนักข่าวไทย