3 สมาคมปุ๋ยลดราคาช่วยเกษตรกร

กรุงเทพฯ 9 มี.ค.-กรมวิชาการเกษตรร่วมกับ 3 สมาคมปุ๋ย ลดราคาปุ๋ยเคมี 121 สูตร รวมปุ๋ยอินทรีย์ชนิดเม็ด ผง และน้ำกว่า 500,000 ตัน ชี้ปุ๋ยถูกลอตแรกถึงมือเกษตรกรปลายเดือนมีนาคมนี้


นางสาวเสริมสุข  สลักเพ็ชร์  อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า หารือกับสมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย  สมาคมการค้าผู้ผลิตปุ๋ยไทย  และสมาคมธุรกิจปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยชีวภาพไทย เพื่อขอความร่วมมือลดราคาปุ๋ยตามนโยบายของนายเฉลิมชัย  ศรีอ่อน  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ได้มอบหมายภารกิจให้กรมวิชาการเกษตร  กรมส่งเสริมการเกษตร กรมส่งเสริมสหกรณ์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ดำเนินโครงการลดราคาปุ๋ย เพื่อลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกร  ทั้ง 3 สมาคมยินดีช่วยเหลือเกษตรกรให้เข้าถึงปุ๋ย ซึ่งจำหน่ายในราคาถูกอย่างแท้จริง โดยกรมวิชาการเกษตรทำหน้าที่ประสานงานโครงการ

ล่าสุดสมาคมการค้าปุ๋ยทั้ง 3 แห่ง แจ้งข้อมูลการลดราคาปุ๋ยมาที่กรมวิชาการเกษตร ประกอบด้วย ปุ๋ยเคมี 121 สูตร ปริมาณ 429,800 ตัน ปุ๋ยอินทรีย์ชนิดเม็ด-ผงปริมาณ 142,000 ตัน และปุ๋ยอินทรีย์ชนิดน้ำปริมาณ  40,000 ลิตร รวมทั้งสิ้น 571,840 ตัน  คิดเป็นมูลค่าส่วนลดทั้งหมด  421 ล้านบาท ซึ่งกรมวิชาการเกษตรจัดทำแนวทางวิธีการดำเนินงาน ข้อมูลการลดราคาปุ๋ย และแผนการดำเนินงานโครงการลดราคาปุ๋ยเพื่อลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรเพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติตามหน้าที่ความรับผิดชอบของหน่วยงานที่เข้าร่วมโครงการแล้ว


อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวต่อว่า  หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแจ้งข้อมูลการลดราคาปุ๋ยของทั้ง 3 สมาคมไปยังสหกรณ์การเกษตร  สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้าธ.ก.ส. ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) กลุ่มเกษตรกร  และกองทุนต่างๆ  จากนั้นสถาบันเกษตรกรได้แจ้งข้อมูลความต้องการใช้ปุ๋ยของเกษตรกรครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ โดยแยกเป็นสหกรณ์การเกษตร 93 แห่งต้องการใช้ 66,839 ตัน  กลุ่มเกษตรกร 9 แห่งต้องการใช้ 547 ตัน วิสาหกิจชุมชน 3 แห่งต้องการใช้ 351 ตัน กลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่ 10 แห่งต้องการใช้ 281 ตัน  ศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชน 3 แห่งต้องการใช้  25 ตัน และศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชนแห่งต้องการใช้ 2 ตัน  รวมความต้องการใช้ปุ๋ยทั้งหมด 68,045 ตัน โดยปุ๋ยสูตรที่ได้รับแจ้งความต้องการมากที่สุด 3 อันดับแรกคือ ปุ๋ยเคมีสูตร 46-0-0 ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15  และปุ๋ยเคมีสูตร 16-20-0 ทางสมาคมปุ๋ยทั้ง 3 แห่งจะจัดสรรปุ๋ยให้กลุ่มเป้าหมายให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 มีนาคม หลังจากนั้นกรมวิชาการเกษตรจะแจ้งให้กลุ่มเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรทราบเพื่อซื้อขายปุ๋ยตามเงื่อนไขของโครงการ  คาดว่า ปุ๋ยจะถึงสถาบันเกษตรกรช่วงปลายเดือนมีนาคม

“โครงการลดราคาปุ๋ยเพื่อลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรเริ่มต้นตั้งแต่เดือนมีนาคมซึ่งเป็นช่วงที่เข้าสู่ฤดูกาลเพาะปลูกพืชของเกษตรกร ต่อเนื่องจนถึงเดือนธันวาคม2563” อธิบดีกรมวิชาการการเกษตร กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สั่งย้ายครูแบทแมน

สั่งเด้ง “ครูแบทแมน” ถ่ายคลิปไม่เหมาะสมในโรงเรียน

กัน จอมพลัง บุก ก.ศึกษาธิการ ร้องเอาผิดครูชายสวมหน้ากากแบทแมน ถ่ายคลิปไม่เหมาะสมในโรงเรียน จ.อุทัยธานี ล่าสุดสั่งย้าย “ผอ.โรงเรียน-ครูแบทแมน” เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ด้าน “สส.ชาดา-กัน จอมพลัง” ลงพื้นที่ ขีดเส้นตายสอบเอาผิด

แม่อดีตครูสาว ยังติดใจสาเหตุ หลังพบศพในรถลานจอด รพ.

“น้องกิ๊ฟ” อดีตครูหายตัวไปเกือบ 1 เดือน พบอีกทีเป็นร่างไร้วิญญาณในรถยนต์บนลานจอดของโรงพยาบาล ญาติยังติดใจสาเหตุวอนตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด ไขข้อสงสัย

สั่งจำคุก “อัจฉริยะ” 2 เดือน ไม่รอลงอาญา คดีละเมิดอำนาจศาล

ศาลอาญาสั่งจำคุก “อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์” 2 เดือน ไม่รอลงอาญา ฐานละเมิดอำนาจศาล เผยแพร่เอกสารสรุปย่อคำพิพากษาต่อสื่อมวลชนโดยไม่ได้รับอนุญาต

ข่าวแนะนำ

เคลื่อน 18 ศพเหยื่อบัสมรณะ ถึงบ้านเกิด ญาติร่ำไห้อาลัย

เจ้าหน้าที่กู้ภัยเคลื่อนร่างผู้เสียชีวิต 18 ราย จากเหตุรถบัสพลิกคว่ำ ถึงวัดป่าวิเวกธรรมคุณ อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของญาติที่รอรับศพ

สำรวจจุดเกิดเหตุรถบัสมรณะ 18 ศพ

ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุรถบัสมรณะ 18 ศพ พบว่ารถคันดังกล่าวฝ่าฝืนคำสั่งไม่ยอมจอดพักรถและลงชื่อก่อนจุดเกิดเหตุ 1 กิโลเมตร ทำให้รถเกิดเบรกแตกไหลลงเขาจนเกิดโศกนาฏกรรม

นายกฯ เรียก “รมต.จิราพร-ผบ.ตร.” ถกปราบบุหรี่ไฟฟ้า

“แพทองธาร” นายกฯ เรียก “รมต.จิราพร-ผบ.ตร.” ประชุมปราบปราม “บุหรี่ไฟฟ้า” ขีดเส้น 30 วัน ดำเนินการให้เด็ดขาด สั่งเข้มห้ามขายใกล้สถานศึกษา ต้องจัดการผู้นำเข้า

รถบัสดูงานคว่ำ

เร่งหาสาเหตุรถบัสคณะดูงานบึงกาฬ พลิกคว่ำทางลงเขาศาลปู่โทน

เจ้าหน้าที่เร่งกู้ซากรถบัสคณะดูงานเทศบาลบึงกาฬ เสียหลักพลิกคว่ำบริเวณทางลงเขาศาลปู่โทน จ.ปราจีนบุรี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 18 คน บาดเจ็บอีกจำนวนมาก พร้อมเร่งหาสาเหตุของอุบัติเหตุ หลังมีรายงานว่าตอนลงเขารถบัสใช้ความเร็วเกิน 100 กม./ชม.