ตัวอย่างดีๆ แรงงานไทยกลับจากเกาหลี ขอกักตัวเอง 14 วัน

ภูมิภาค 8 มี.ค. – โลกโซเชียลชื่นชม ตัวอย่างดีๆ แรงงานไทยกลับจากเกาหลีใต้ ขอกักตัวเอง 14 วัน เพื่อเฝ้าดูอาการ ใช้ช่วงเวลานี้เก็บของทำความสะอาด ขุดดิน ปลูกผัก รดน้ำต้นไม้ 


ตัวอย่างดีๆ เฟซบุ๊กชื่อ MissyNok Chamaiporn ชาวโซเชียลต่างชื่นชม หลังเจ้าตัวเดินทางกลับจากประเทศเกาหลี มาถึงเมืองไทยเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ มีพ่อแม่มารับที่สนามบินสุวรรณภูมิ เดินทางกลับบ้านที่ อ.เมือง จ.สระบุรี ซึ่งเจ้าของเฟซบุ๊กเป็นแรงงานสาวไทยถูกกฎหมายในเกาหลีใต้ ไปทำงานในโรงงานชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ทำงานมานาน 4 ปี 7 เดือน แล้วหมดสัญญาว่าจ้างจึงเดินทางกลับไทย หลังแรงงานสาวคนนี้เดินทางมาถึง ไม่ได้สวมกอดพ่อแม่ ต้องนั่งท้ายรถกระบะ และกลับถึงบ้านก็ไม่ได้เข้าพักที่บ้าน ไปพักกักตัวเองในบ้านกระต๊อบหลังน้อย เพื่อเฝ้าดูอาการ 14 วัน ป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 บ้านหลังดังกล่าวมีรั้วรอบขอบชิด ตอนแรกไฟฟ้าไม่มี ปัจจุบันมีแล้ว ห้องน้ำก็ไม่มี กลางวันแดดร้อนมาก ต้องปรับสภาพตัวเองทุกอย่าง ยามว่างก็เก็บของทำความสะอาด รดน้ำต้นไม้ ปลูกต้นไม้ 


ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่บ้านของแรงงานสาวคนนี้ ที่ ต.หนองปลาไหล อ.เมือง จ.สระบุรี พบ น.ส.ชไมพร เดชยศดี (น้องนก) อายุ 27 ปี เจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าว เธอมีสภาพร่างกายแข็งแรง สดใสร่าเริง น้องนกบอกว่าวางแผนตั้งใจกักตัวเอง 14 วัน ตั้งแต่ก่อนกลับมาจากเกาหลีแล้ว เพราะกลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง และโรคโควิด-19 ก็เป็นโรคติดต่อได้ง่าย หากตัวเองรับเชื้อมาก็ไม่อยากให้แพร่ไปสู่คนในครอบครัว หรือคนอื่นๆ จึงพูดคุยกับพ่อแม่ให้ช่วยเตรียมหาสถานที่สำหรับกักตัวเองอยู่คนเดียวโดยไม่มีผู้ใดเข้าใกล้ แยกตัวออกมาทั้งเรื่องการอาหารการกิน อุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ รวมถึงการใช้ห้องน้ำ แม้วันนี้กักตัวเองเข้าสู่วันที่ 7 แล้ว ยังแข็งแรงดี แต่ก็ควรป้องกันไว้ก่อนดีกว่า  


ระหว่างกักตัวเองก็หากิจกรรมหลายอย่าง เช่น ขุดดิน ปลูกผัก รดน้ำต้นไม้ ขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุข โทรมาสอบถามอาการตลอด เพราะหากพบอาการผิดปกติ จะส่งเจ้าหน้าที่มาช่วยดูแล   พร้อมกันนี้ขอฝากไปถึงคนไทยที่เดินทางกลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ควรให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ และกักตัวเองเพื่อเฝ้าระวังอาการ 14  วันตามแนะนำ

ส่วนที่ จ.เพชรบูรณ์ ดร.ภูมินทร์ คำหนัก สาธารณสุข อ.วิเชียรบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลบึงกระจับ ออกติดตามอาการผู้เดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยงโควิค-19 ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ในพื้นที่หมู่ 3 ต.บึงกระจับ อ.วิเชียรบุรี โดยบุคคลดังกล่าวเดินทางกลับมาจากอิตาลี ถึงประเทศไทยในช่วงกลางคืนของวันที่6 มีนาคมที่ผ่านมา และหลังจากเดินทางมาถึงก็ได้มีการสัมผัสกับผู้อยู่อาศัยในไทยที่เป็นญาติ จำนวน 8 ราย โดยทั้งหมดอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน

หลังจากที่เจ้าหน้าที่ทราบจากการโพสต์ภาพลงในเฟซบุ๊กของผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศเสี่ยง ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามขั้นตอน และประสานหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่เข้าตรวจสอบอาการเบื้องต้น พบว่าไม่มีไข้ จึงแนะนำให้กักตัวเองอยู่ภายในบ้าน พร้อมมอบหน้ากากอนามัย และคำแนะนำในการปฏิบัติตัว  หลังจากนี้จะมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่มาติดตามและรายงานอาการจนกว่าจะครบกำหนด 14 วัน

สาวอายุ 31 ปี ผู้เดินทางมาจากอิตาลี เปิดเผยว่า ตนเองและญาติทั้ง 8 คน หลังจากนี้จะกักตัวเองอยู่แต่ภายในบ้าน ไม่ออกไปไหน ตามที่ทางสาธารณสุขแนะนำ เป็นเวลา 14 วัน ล้างมือบ่อยๆ ไม่เอามือไปสัมผัสหน้ากาก เวลากินข้าวก็ให้แยกจากคนอื่นๆ ไม่ใช้ของร่วมกัน นอกจากนี้จะมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขมาตรวจวัดไข้เช้า-เย็น ทุกวัน จนครบกำหนดเวลา 14 วัน. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม