ศาลอุทธรณ์กลับสั่งจำคุก “ธาริต” 2 ปี ไม่รอลงอาญา

ศาลอาญา 5 มี.ค.- ศาลอุทธรณ์กลับสั่งจำคุก “ธาริต – 3 ดีเอสไอ” 2 ปี ไม่รอลงอาญา  กลั่นแกล้งแจ้งข้อหา “อภิสิทธิ์-สุเทพ” ฆ่าประชาชน เหตุสลาย ม็อบ นปช.ปี 2553  


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 9.00 น. วันนี้ (5 มี.ค.) ที่ห้องพิจารณา 911 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีหมายเลขดำ อ.310/2556 ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี  ซึ่งเป็นอดีตผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) , พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ ในฐานะอดีตหัวหน้าชุดคดีการเสียชีวิตของประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐจากเหตุรุนแรงทางการเมืองปี 2553 , พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ และ ร.ต.อ.ปิยะ รักสกุล ในฐานะพนักงานสอบสวน เป็นจำเลยที่ 1- 4 ในความผิดฐานเป็นร่วมกันเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต และเป็นเจ้าพนักงานสอบสวนกระทำการโดยมีเจตนากลั่นแกล้งให้ผู้อื่นได้รับโทษอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157, 200

คำฟ้องระบุพฤติการณ์สรุปได้ว่า กรณีเมื่อเดือน กรกฎาคม 2554 – 13 ธันวาคม 2555 ดีเอสไอได้สรุปสำนวนดำเนินคดีนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ ข้อหาก่อให้ผู้อื่นฆ่า และพยายามฆ่าโดยเจตนาและเล็งเห็นผล จากการออกคำสั่ง ศอฉ. ใช้กำลังเจ้าหน้าที่กระชับพื้นที่การชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เมื่อปี 2553 ที่ชุมนุมเพื่อขับไล่นายอภิสิทธิ์ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี  ซึ่งโจทก์เห็นว่าการแจ้งข้อหาบิดเบือนจากข้อเท็จจริง โดย นปช.ก่อความไม่สงบ ก่อการร้าย โจทก์ได้มอบนโยบายชัดเจนว่า ให้สลายการชุมนุม โดยหลีกเลี่ยงความสูญเสีย เพื่อระงับความเสียหายของบ้านเมือง โจทก์ไม่ต้องรับผิด เมื่อการชุมนุมยุติลง ดีเอสไอก็ได้สอบสวนดำเนินคดีแกนนำและชายชุดดำข้อหาก่อการร้ายด้วย 


ต่อมานายธาริต จำเลยที่ 1 ยอมตกเป็นเครื่องมือของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย จำเลยทั้ง 4 จึงร่วมกันแจ้งข้อหาสั่งฆ่าประชาชน กลั่นแกล้งโจทก์สนองความต้องการของรัฐบาล ซึ่งดีเอสไอไม่มีอำนาจ เพราะโจทก์เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ต้องเป็นการวินิจฉัยของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จำเลยทั้ง 4 ให้การปฏิเสธ 

คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษา เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2561 ยกฟ้องจำเลยทั้ง 4  โดยเห็นว่าพยานโจทก์ที่นำสืบมานั้น ไม่เห็นว่าจำเลยที่ 1 จงใจกลั่นแกล้งโจทก์ในการแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งทำในรูปของคณะกรรมการสอบสวนคดีพิเศษ มีจำเลยที่ 2-4 และอัยการเข้าร่วมเป็นคณะทำงาน โดยแต่งตั้งขึ้นภายหลังศาลมีคำสั่งไต่สวนการตายของนายพัน คำกอง คณะกรรมการไม่มีอำนาจสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้อง ต้องส่งให้อัยการสูงสุดพิจารณาต่อ จำเลยทั้ง 4 เป็นพนักงานสอบสวนเช่นเดียวกับอัยการที่ร่วมสอบ จึงไม่พอฟังว่าจำเลยทั้ง 4 กระทำผิดตามฟ้อง ส่วนหลักฐานอื่นเป็นเพียงพยานแวดล้อมและความเห็นทางกฎหมาย พิพากษายกฟ้อง ซึ่งโจทก์ยื่นอุทธรณ์  ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษ 

วันนี้ นายธาริต และกลุ่มพนักงานสอบสวนดีเอสไอ จำเลยทั้ง 4  ซึ่งได้รับการประกันตัวเดินทางมาศาล


โดยศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือเเล้วเห็นว่า ก่อนหน้าที่จะมีความเห็นควรเเจ้งข้อหาโจทก์ที่ 1-2 ในความผิดฐานฆ่าเล็งเห็นผลจากเหตุการสลายการชุมนุมปี 2553 จำเลยทั้ง 4 เคยมีความเห็นว่า การชุมนุม นปช.เป็นความผิดกฎหมาย จึงเเจ้งจ้อหาก่อการร้าย เเสดงว่าจำเลยที่  1-4 เห็นว่า โจทก์ที่ 1-2 กระทำไปตามหน้าที่ เเม้ภายหลังการไต่สวนการตายของ นายพัน คำกอง ศาลอาญาจะชี้ว่ากระสุนมาจากฝั่งทหาร เเต่ก็ไม่ได้ระบุว่าการกระทำโจทก์ทั้ง 2  เป็นความผิด จากการพิจารณาพฤติการณ์ประกอบกัน ฟังได้ว่าการที่จำเลยทั้ง 4 มีความเห็นต่างจากเดิม  เชื่อว่าเป็นการกลั่นเเกล้งโจทก์ทั้ง 2  เพื่อเอาใจรัฐบาล เพื่อมีผลในการต่ออายุตำเเหน่งอธิบดีดีเอสไอ 

การที่จำเลยทั้ง 4 สืบสวนสอบสวนโจทก์ทั้ง 2 พร้อมเเจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเล็งเห็นผล ทั้งที่เป็นอำนาจของ  ป.ป.ช. การกระทำจึงเป็นความผิดตามฟ้อง ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยทั้ง 4 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา157 เเละมาตรา 200 วรรค2 เป็นความผิดกรรมเดียวผิดกฎหมายหลาบบท ให้ลงโทษบทหนักสุดตามมาตรา 200 วรรค2 จำคุกจำเลยทั้ง 4 คนละ 3 ปี คำเบิกความเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยคนละ 2 ปีโดยไม่รอลงอาญา 

ภายหลังฟังคำพิพากษานายธาริต กล่าวสั้นๆ ว่า กำลังอยู่ระหว่างยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัวสู้คดีในชั้นฎีกา   .- สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สร้อยเพชรโลตัส

2 รัฐมนตรี “พิชัย” ปฏิเสธ ลั่นไม่เกี่ยวรับจำนำสร้อยเพชรโลตัส

2 รัฐมนตรี “พ” ยืนยันไม่รู้เรื่องสร้อยเพชรเส้นเดียวในโลกของ เมย์-วาสนา หลังมีข่าว ดิว-อริสรา เอาไปจำนำกับรัฐมนตรีอักษรย่อ “พ”

รอง ผบก.ป.เผยพร้อมออกหมายจับ “ดิว” หากมีพฤติกรรมหลบหนี

รอง ผบก.ป. ระบุจ่อพิจารณาออกหมายจับ “ดิว” หากมีพฤติกรรมหลบหนี ส่วนผู้ครอบครองทรัพย์สิน หากไม่ส่งทรัพย์สินคืนเป็นของกลาง เสี่ยงผิด รับของโจร

ตม.เผยมีการประสานขอข้อมูล “ดิว” บินออกนอกประเทศ

ตม.เผยมีการประสานขอข้อมูล “ดิว อริสรา” บินออกนอกประเทศ พร้อมคุมตัวตามขั้นตอนหากพบผู้ถูกกล่าวหาเดินทางเข้าไทย

สพฐ.สั่งเด้ง ผอ.รร.ในกาฬสินธุ์ ถูกร้องเรียนมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม

สพฐ.สั่งเด้ง ผอ.โรงเรียนในจังหวัดกาฬสินธุ์และ ผอ.เขตพื้นที่ฯ เข้า สพฐ.ชั่วคราว หลังถูกร้องเรียน ผอ.โรงเรียน มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับครูในโรงเรียน

ข่าวแนะนำ

กองปราบฯ ลุยสอบเส้นเงิน “ดิว อริสรา”

กองปราบฯ ลุยตรวจเส้นทางเงิน “ดิว อริสรา” กรณีนำของหรูกว่า 62 ล้านบาท ไปขายใช้หนี้ 22 ล้านบาท พร้อมประสาน “ซุง ศตาวิน” เข้าให้ปากคำ ด้าน “ดิว อริสรา” โพสต์ขอโทษทุกการกระทำ ยอมรับผิดทั้งหมด

นายกฯ ชื่นชมตำรวจทลายเครือข่ายยาเสพติด 7 คดีใหญ่

นายกฯ บินนครสวรรค์ ชื่นชมตำรวจทลายเครือข่ายยาเสพติด 7 คดีใหญ่ ยึดยาบ้ากว่า 20 ล้านเม็ด เร่งรัดเครื่องเอกซเรย์ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ลั่นปราบยาเสพติดเข้มข้นครบวงจร ขอให้มั่นใจไม่มีวนของกลาง พร้อมพิจารณางบสร้างขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน

ก.คมนาคม แจ้งความผู้รับเหมาปมคานทรุดตัว

กระทรวงคมนาคมเข้าร้องทุกข์ สน.บางมด ดำเนินคดีผู้รับเหมาทั้งแพ่ง-อาญา เหตุคาน “ทางด่วนพระราม 3 – ดาวคะนอง” ทรุดตัว พร้อมเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง ให้ได้ข้อสรุปภายใน 20 วัน ขณะที่ปัจจุบันได้ตั้งทีมพิเศษสแกนความปลอดภัยทุกโปรเจกต์ใหญ่ทั่วประเทศ ให้ DSI เข้ามาตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้าง