กรุงเทพฯ 1 มี.ค.- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ เผย ทส.ผนึกทหาร จ.เลย ทำแนวกันไฟบนภูกระดึง เผย ป่าเริ่มฟื้นฟูตัวเอง รอฝนแรก ยังไม่เคาะทำกระเช้าไฟฟ้า
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ไฟป่าบนพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จ.เลย ที่ได้รับความเสียหายกว่า 3,200 ไร่ ว่า ได้ร่วมทำแนวกันไฟป่าพื้นที่บนภูกระดึง ทั้งเจ้าหน้าที่จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดเลย และกระทรวงกลาโหม ได้ร่วมกันทำแนวกันไฟ 100 กิโลเมตร หรือบริเวณหลังแปล 37,500 ไร่ และพื้นที่เชิงเขา-หน้าผา จนถึงด้านพื้นล่าง 750 กิโลเมตร หรือประมาณ 1 แสนไร่ ทำแนวกันไฟความกว้าง 20-50 เมตร ยกเว้นแนวทุ่งหญ้าที่จะต้องทำให้กว้าง 50 เมตรขึ้นไป แต่ต้องกำจัดเชื้อเพลิงออกให้หมดก่อน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ กล่าวว่า ขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ไฟป่าบนภูกระดึงทุกคน รวมถึงตัวแทนจากทุกหน่วยงานที่มาร่วมปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลัง ช่วยควบคุมระดับไฟป่า ให้สงบลง ไม่ขยายวงกว้างสร้างความเสียหายไปมากกว่านี้ สาเหตุไฟป่าเกิดจากความมักง่ายของมนุษย์จนทำให้ธรรมชาติบนภูกระดึงเสียหายร้อยละ 10 ของพื้นที่ทั้งหมด และจากการเดินสำรวจสภาพต้นสนที่เสียหายจากไฟป่าได้เริ่มฟื้นตัวเองโดยแตกกิ่งขึ้นมาใหม่จึงถือเป็นข่าวดีที่สภาพป่าที่เสียหายไปสามารถฟื้นฟูกลับมาได้เองร้อยละ 80 อย่างไรก็ตาม จะต้องรอฝนแรกของฤดูฝนที่กำลังจะมาถึงช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ให้พื้นที่บนภูกระดึงฟื้นตัวเอง แต่เนื่องจากขณะนี้ ภูกระดึงกำลังประสบปัญหาภัยแล้ง และมีปริมาณน้ำน้อยมากทำให้ปีนี้อุทยานแห่งชาติภูกระดึง ต้องปิดรับนักท่องเที่ยวเร็วกว่าปีอื่น ๆ 2 เดือน ตั้งแต่เดือนเมษายนถึงเดือนกันยายนรวม 6 เดือนด้วยกัน ซึ่งจากเดิมทุกปีจะปิดระยะเวลา 4 เดือน ทั้งนี้ เพื่อให้ธรรมชาติฟื้นฟูตัวเอง
นายวราวุธ กล่าวว่า สำหรับมาตรการฟื้นฟูภูกระดึงระยะยาว คือให้เร่งทำแนวกันไฟเพื่อป้องกันไฟป่า สิ่งสำคัญคือ จะต้องเพิ่มอุปกรณ์ป้องกันไฟป่าให้เพียงพอและเพิ่มประสิทธิภาพเจ้าหน้าที่ปกป้องผืนป่า ขณะที่ประชาชนเองต้องขอความร่วมมือเพื่อเป็นกำลังสำคัญในการช่วยปกป้องผืนป่า จะได้เป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่ไม่ให้มีการเผาป่าขึ้นอีก นอกจากนี้ ตนได้กำชับเจ้าหน้าที่กรมอุทยาน สัตว์ป่า และพันธุ์พืชทุกแห่งทั่วประเทศถึงเรื่องการใช้เครื่องปั๊มหัวใจ และฝึกการทำ CPR เพื่อช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน อีกทั้งให้กรมทรัพยากรธรณีจัดทำโครงการเพื่อเสริมความรู้การเปลี่ยนแปลงของระดับหินแต่ละชั้นตั้งแต่ระดับพื้นล่างของภูกระดึงไปจนถึงยอดภูกระดึงว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร เป็นการเสริมความรู้ให้กับนักท่องเที่ยวที่มาขึ้นภูกระดึง ส่วนกรณีที่มีกลุ่มชาวบ้านมาขอให้สร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึงนั้น เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่จะต้องมีการศึกษาให้ละเอียดรอบคอบมากที่สุด ตอนนี้เรียกได้ว่า มีทั้งให้ สร้างและไม่สร้าง ฝ่ายละ 50 ต่อ 50 .-สำนักข่าวไทย