นนทบุรี 28 ก.พ. – อธิบดีกรมการค้าภายในย้ำราคาผลปาล์มที่ปรับตัวลดลงไปบ้าง อยู่ที่ 5 บาทต่อกิโลกรัมถือว่าเกษตรกรพอใจ แม้ผลผลิตจะออกเดือนมีนาคมคงไม่ทำให้ราคาตกมาก เตรียมเดินหน้าจัดมหกรรมกินผลไม้ช่วงผลผลิตออกตลาด
นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ขณะนี้สตอกน้ำมันปาล์มดิบลดลงจำนวนมาก จากการนำไปใช้ผลิตไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่ยังเหลือถึง 130,000 ตัน และนำไปผลิตเชื้อเพลิงพลังงาน ทั้งน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B10 และ B20 โดยวันที่ 1 มีนาคมนี้ กำหนดให้ทุกสถานีบริการน้ำมันจะต้องมีน้ำมัน B10 ให้บริการ ทำให้มีความต้องการน้ำมันดิบใช้ผลิต B10 ปีละ 2 ล้านตัน จากผลผลิตน้ำมันปาล์มดิบในประเทศที่ 3.2 ล้านตัน ถือเป็นสัดส่วนถึง 2 ใน 3 ของการนำไปใช้เป็นน้ำมันเชื้อเพลิง
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการป้องกันการลักลอบนำเข้า ทั้งการติดตั้งมิเตอร์ในถังเก็บน้ำมันปาล์มดิบทั้งหมด 450 แทงค์ โดยขณะนี้ร่างเปิดประมูลทีโออาร์ติดตั้งแทงค์เสร็จแล้ว คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะสามารถเปิดประมูลติดตั้งแทงค์ได้ ซึ่งจะมีการรายงานปริมาณการน้ำมันดิบตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงมาตรการคุมเข้มการนำเข้าได้เพียงด่านเดียว คือ ท่าเรือคลองเตย ส่วนการส่งออกจะจำกัดเพียง 3 ด่าน ได้แก่ แม่สอด ผ่านไปเมียนมา ด่านจังหวัดหนองคายไป สปป.ลาว และด่านจังหวัดจันทบุรีไปกัมพูชา ทำให้การลักลอบนำเข้า ที่จะกระทบต่อราคาในประเทศทำได้ยากขึ้น โดยเชื่อว่าระยะยาว ราคาปาล์มทั้งระบบจะอยู่ในระดับทรงตัว และมีเสถียรภาพมากขึ้นอีกด้วย
ทั้งนี้ เชื่อว่าจากมาตรการคุมเข้มเหล่านี้ที่ออกมาจะทำให้เป็นการป้องกันปัญหาดูแลน้ำมันปาล์มทั้งระบบเป็นอย่างดี ประกอบกับ แม้ผลปาล์มจะออกสู่ตลาดในช่วงเดือนปลายเดือนมีนาคมเป็นต้นไปก็ไม่น่าจะส่งผลให้ราคาผลปาล์มต่ำกว่า 5 บาทต่อกิโลกรัมอย่างแน่นอน ซึ่งเป็นตัวเลขที่เกษตรกรส่วนใหญ่พอใจ เพราะตุ้นทุนของเกษตรกรผู้ปลูกผลปาล์มจะอยู่ที่กว่า 3 บาทต่อกิโลกรัม จึงคิดว่าทุกมาตรการที่ออกมาหากดำเนินการได้ราคาจะไม่ต่ำกว่านี้
นอกจากนี้ กรณีจากปัญหาโรคโควิด-19 ระบาดหลายประเทศและเป็นช่วงที่ผลผลิตผลไม้ไทย เช่น ทุเรียน มังคุด และอีกหลายชนิดกำลังออกนั้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อการส่งออกผลไม้ไทยไปตลาดจีนและอีกหลายประเทศด้วยนั้น เบื้องต้นอาจจะใช้แนวทางกระตุ้นการบริโภคผลไม้ภายในประเทศแทนด้วยการเดินหน้าจัดมหกรรมบริโภคผลไม้ไทย ซึ่งเร็ว ๆ นี้จะจัดงานมหกรรมบริโภคผลไม้ไทย ทั้งทุเรียน มังคุดที่จังหวัดเชียงใหม่และอีกหลายจังหวัดด้วยกัน.-สำนักข่าวไทย