ก.ล.ต.แนะนักลงทุนรอบคอบ โควิดกระทบบางอุตสาหกรรม

กรุงเทพฯ 27 ก.พ. – ก.ล.ต.เร่งเปิดทางเอสเอ็มอี-สตาร์ทอัพระดมทุน แนะนักลงทุนติดตามสถานการณ์และพิจารณารอบด้าน ชี้โควิด-19 กระทบบางอุตสาหกรรม 



นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า หลักเกณฑ์เพื่อสนับสนุนและรองรับการระดมทุนของเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพ เพื่อสามารถระดมทุนในวงกว้างได้ผ่านมติเห็นชอบของคณะทำงาน SME Startup PE VC ประกอบด้วย หน่วยงานภาครัฐและเอกชน 14 แห่งแล้ว โดยร่างหลักเกณฑ์อยู่ระหว่างการเปิดรับฟังความเห็นจากประชาชน และคาดว่าจะได้ข้อสรุปเรื่องหลักเกณฑ์ภายในไตรมาส 1 ปี 2563 ในส่วนการจัดตั้งตลาดรองเพื่อรองรับการจดทะเบียนของเอสเอ็มอีและสตาร์ตอัพ ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) อยู่ระหว่างประชุมหารือเรื่องรูปแบบตลาดที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ ซึ่งคาดจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนภายในปีนี้


สำหรับร่างหลักเกณฑ์จะกำหนดให้เอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพที่เป็นบริษัทจำกัดและบริษัทมหาชนจำกัด ซึ่งมีผลการดำเนินการมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง (proven track record) หรือมีมูลค่ากิจการระดับหนึ่ง สามารถระดมทุนจากบุคคลในวงกว้างและนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดรองได้ โดยไม่ต้องยื่นคำขออนุญาตจากสำนักงาน

ขณะที่การปรับตัวลดลงของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ก.ล.ต.ได้ประสานงานกับ ตลท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และพบว่าระบบการซื้อขายและชำระราคาของธุรกิจหลักทรัพย์สามารถดำเนินการได้ตามปกติ ซึ่งมองว่าการปรับตัวลดลงของดัชนีหุ้นไทยนั้นเกิดจากหลายปัจจัยทั้งภายในและนอกประเทศ พร้อมยอมรับว่าส่วนหนึ่งเป็นผลจากความวิตกกังวลต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งน่าจะมีผลกระทบต่อบางอุตสาหกรรมและเป็นการปรับตัวไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นทั่วโลก แต่ขณะเดียวกันยังมีอีกหลายอุตสาหกรรมของไทยที่ยังเป็นบวก มั่นใจสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ไม่กระทบยอดยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) เพื่อขอเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ปีนี้ที่คาดว่าจะมีมากกว่า 50 บริษัทแน่นอน และ Digital Asset มากกว่า 10 บริษัทเพราะมีระบบเทคโนโลยีที่รองรับสามารถให้คำปรึกษาได้ตลอด 24 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม การประกาศใช้พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 วานนี้ (26 ก.พ.) จะช่วยให้เกิดการลงทุนและส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ แนะนำให้ผู้ลงทุนติดตามและศึกษาข้อมูล เพื่อประกอบการตัดสินใจในการลงทุนอย่างรอบคอบ. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

“แพทองธาร” บอกเป็นนายกฯ GEN Y อยากให้ทุกคนเข้าใจ

“แพทองธาร” พร้อมแจงฝ่ายค้านตั้งหัวข้อซักฟอกภาวะผู้นำ ย้อนต้องเป็นผู้นำให้ได้ก่อน แล้วค่อยพูดถึงคนอื่น บอกเป็น “นายกฯ GEN Y” พร้อมแจงให้ประชาชนเข้าใจข้อมูลที่แท้จริง ยังไม่บอกใครเป็นองค์รักษ์ ส่วน “ทักษิณ” เข้าบ้านพิษณุโลก ถกวิเคราะห์สถานการณ์เศรษฐกิจโลก หลัง “ทรัมป์” นั่งปธน.

เสือแก่งกระจาน

4 เสือป่าแก่งกระจาน​อวดโฉมผ่านกล้องดักถ่าย​ สะท้อน​ความ​อุดมสมบูรณ์

เสือ​ 4 ชนิด ปรากฏ​ตัวผ่าน​กล้อง​ดัก​ถ่าย​ในอุทยาน​แห่งชาติ​แก่งกระจาน​ สะท้อน​ความ​อุดม​สมบูรณ์ของระบบนิเวศ​ อันเป็นผลจากการลาดตระเวนเชิงคุณภาพ​ที่เข้มข้นในผืนป่ามรดก​โลก

จดหมายอุยกูร

ราชทัณฑ์ ยันจดหมายผู้ต้องขังไม่มีตราประทับของเรือนจำ

ราชทัณฑ์ แจงจดหมายผู้ต้องขังจากเรือนจำจะไม่มีตราประทับของเรือนจำ และผู้ต้องขังชาวอุยกูร์ยืนยันไม่เคยเขียนจดหมายฉบับดังกล่าว ชี้เป็นจดหมายที่ทำขึ้นมาอย่างไม่ถูกต้อง

ล่าโจรชิงทอง 102 บาท กลางห้างดังแม่สอด

โจรสวมชุดไรเดอร์ควงปืนพกสั้นบุกชิงทองร้านทองกลางห้างดัง อ.แม่สอด จ.ตาก ใช้เวลาเพียง 1 นาที กวาดทองคำรูปพรรณน้ำหนักรวม 102 บาท ก่อนขี่จักรยานยนต์หลบหนีไป