นายกฯ ขอความร่วมมือกลุ่มเสี่ยงอย่าปกปิดข้อมูล

รัฐสภา 27 ก.พ.-นายกรัฐมนตรีขอความร่วมมือ ผู้เดินทางกลับจากประเทศเสี่ยง อย่าปกปิดข้อมูล  สังเกตอาการตัวเองและพบแพทย์ เพื่อให้ติดตามอาการ ย้ำไทยมีมาตรการคัดกรองผู้ที่เสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 อยู่แล้ว ห่วงแพร่ระบาดในการชุมนุม แนะอย่าฟังความข้างเดียว 


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงมาตรการเฝ้าระวังเชื้อโควิด-19 สำหรับบุคคลที่เดินทางกลับจากประเทศเสี่ยงแล้วปกปิดข้อมูลเหมือน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐที่ถูกหยิบยกขึ้นหารือในที่ประชุมสภาฯเมื่อวานนี้ (26 ก.พ.) และเหตุการณ์ล่าสุดมีการติดเชื้อจากปู่-ย่า ไปสู่หลานว่า ในส่วนของ ส.ส. ได้ไปตรวจเชื้อแล้วไม่พบว่าติดเชื้อ แต่หมอได้เฝ้าติดตามอาการ รวมถึงกรณีอื่นได้มีการเฝ้าติดตามทุกพื้นที่ ดังนั้นขอฝากไปยังประชาชนที่มีความเสี่ยง ให้ไปพบแพทย์เพราะถือเป็นความร่วมมือระหว่างกัน  ต่อให้รัฐมีมาตรการดีอย่างไร แต่หากประชาชนไม่ดูแลตัวเองก็ลำบาก ขอให้คิดถึงคนอื่น ตนเป็นห่วงทุกคน

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไทยมีมาตรการคัดกรองผู้ที่เสี่ยงติดเชื้อโควิด 19 อยู่แล้ว แต่ต้องขอความร่วมมือ หากปกปิดเจ้าหน้าที่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะผู้ที่เดินทางกลับอยู่บ้านตัวเอง แต่มีการตรวจสอบผ่านสนามบินมาแล้ว ไม่พบว่าติดเชื้อ ดังนั้นทุกคนต้องรู้ตัวและเมื่อกลับจากต่างประเทศให้ไปตรวจ และแจ้งว่าเดินทางกลับจากประเทศเสี่ยง แพทย์จะได้ติดตามตรวจอาการเป็นระยะ แต่ถ้าไม่ร่วมมือกัน คนกว่า 60 ล้านคน จะทำอะไรได้ขอให้ช่วยกันทั้ง 2 ทาง 


พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงการชุมนุมต่างๆ ว่า เป็นห่วงเรื่องการแพร่ระบาดของเชื้อ แต่ก็เข้าใจความตั้งใจของเด็กและเยาวชนที่ไปชุมนุม ก็ขอให้ระมัดระวัง ตนเป็นนายกรัฐมนตรี รังเกียจใครไม่ได้ และเห็นใจ แต่อยากให้รับฟังข้อมูลจากช่องทางอื่น ๆ ด้วยว่าประเทศชาติควรจะเดินไปอย่างไร 

“สิ่งสำคัญที่สุดคือเรื่องกฎหมายที่จะเป็นอันตรายในวันข้างหน้า เห็นได้ว่าหลายอย่างมีปัญหามาตลอด ช่วงหลายปีที่ผ่านมา คดีสีเสื้อต่าง ๆ ต้องถูกดำเนินคดีขึ้นศาลเป็นระนาว วันหน้าจะทำอย่างไร เพราะเด็กพวกนี้เป็นอนาคตของประเทศ ดังนั้นไม่ว่าจะผิดถูกอย่างไร อยากให้รับฟังส่วนอื่น ๆ ด้วยถ้ารับฟังข้อมูลด้านเดียวประเทศก็จะเป็นอยู่แบบนี้ ไปไม่ได้ เห็นใจเขา สงสารเขา” นายกรัฐมนตรี กล่าว 

เมื่อถามว่าต้องมีประกาศมาตรการระยะ 3 หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ไม่ตอบคำถาม และเดินขึ้นลิฟท์เพื่อเข้าประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาญัตติอภิปรายไว้วางใจทันทีไม่.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

ชายแดนไทย-เมียนมา ยังระอุ ปะทะเดือดใกล้จุดแตกหัก

ทหารกะเหรี่ยงใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีฐานทหารเมียนมา ตรงข้าม อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 800 เมตร โรงเรียนในฝั่งไทย ซึ่งอยู่ติดแนวปะทะ หยุดการเรียนการสอน 1 วัน ขณะที่มีชาวเมียนมาหนีภัยสู้รบเข้าไทยกว่า 400 คน

ทร.จับเรือประมงเมียนมารุกล้ำน่านน้ำไทย

ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือระนอง จับกุมเรือประมงสัญชาติเมียนมา พร้อมลูกเรือและกัปตันเรือ 6 คน ขณะรุกล้ำน่านน้ำไทย บริเวณน่านน้ำเกาะช้าง จ.ระนอง ก่อนควบคุมเรือลำดังกล่าวมาตรวจสอบที่ท่าเรือน้ำลึกระนอง

แจ้งความเอาผิดขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ผอ.องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ลุยเอง ยื่นหลักฐานให้ตำรวจ ปปป. เอาผิดขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก ระบุทำกันมานานเกือบ 10 ปี พบทั้งข้าราชการ-อดีตข้าราชการ เอี่ยวประมาณ 20 คน

รู้เบาะแสคนร้ายชิงทอง 102 บาท คาดเป็นคนในพื้นที่

ตำรวจรู้เบาะแสคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง 102 บาท ภายในห้างดังกลางเมืองแม่สอด คาดยังหลบอยู่ในพื้นที่ สั่งคุมเข้มแนวชายแดน ป้องกันคนร้ายหลบหนี พร้อมยกระดับมาตรการดูแลร้านทอง-ห้างสรรพสินค้า ป้องกันเหตุซ้ำรอย