ซีไอเอ็มบี ไทย เดินหน้าจัดแข่งขันไตรกีฬาปีที่ 3

   26 ก.พ.-กรุงเทพฯ. นายประภาส ทองสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สื่อสารองค์กร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย พร้อมด้วย นางสาวรุจิรพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ รองประธานกรรมการบริหาร พัฒนา สปอร์ท รีสอร์ท ร่วมกันแถลงข่าวการแข่งขันไตรกีฬารายการ CIMB THAI TRIATHLON FORWARD ASEAN PRIDE ปีที่ 3 ท่ามกลางนักกีฬาและสื่อมวลชนที่เข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง นายประภาส  เปิดเผยว่า ธนาคารเดินหน้าจัดการแข่งขันไตรกีฬารายการ CIMB THAI TRIATHLON FORWARD ASEAN PRIDE ปีนี้เป็นปีที่ 3  โดยผนึกกำลังกับพันธมิตร  ซีฟิฟตี้ไฟว์ อีเวนท์ มืออาชีพด้านการจัดอีเวนท์กีฬากลางแจ้งมาเป็นผู้ดำเนินการจัดการแข่งขัน ธนาคารในฐานะสมาชิกเครือข่ายกลุ่มซีไอเอ็มบี กลุ่มการเงินขนาดใหญ่ในภูมิภาคอาเซียน ปีนี้จัดไตรกีฬาด้วยแนวคิด FORWARD ASEAN PRIDE นอกจากความภูมิใจในระดับบุคคล ยังเป็นการแข่งขันที่เป็นความภูมิใจระดับภูมิภาค จากจำนวนผู้เข้าแข่งขันที่มากกว่า 600 คนเมื่อปีที่แล้ว เป็นผู้เข้าแข่งขันจากประเทศอาเซียนและประเทศอื่นๆ กว่า 20 ประเทศ


“ธนาคารมีจุดยืนที่ชัดเจน ในการพาลูกค้าลงทุนมากกว่าเรื่องการเงิน แต่ลงทุนกับสุขภาพซึ่งเป็นการลงทุนที่ไม่มีวันขาดทุนธนาคารจึงเดินหน้าปลุกกระแสให้คนไทยก้าวไปข้างหน้า เริ่มจากการก้าวข้ามความกลัว ซึ่งไตรกีฬาเป็นกีฬาที่กระตุ้นให้คนลุกขึ้นมาก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง สิ่งที่เพิ่มขึ้นในปีนี้คือ การนำนโยบายของธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย และของกรุ๊ปคือ Sustainable Banking เข้ามาใช้ สิ่งไหนที่เราสามารถลดการใช้พลาสติก หรือลดขยะได้ เราจะทำ ไม่ว่าจะเป็นซุ้มน้ำหรืออาหาร รวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในการแข่งขัน สานต่อโครงการ CIMB THAI Go Green ที่เราเริ่มทำเมื่อปีที่แล้ว” นายประภาส กล่าว  

    นางสาวรุจิรพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ รองประธานกรรมการบริหาร พัฒนา สปอร์ท รีสอร์ท เปิดเผยว่า ทางพัฒนา สปอร์ท รีสอร์ท ยังคงเน้นความเป็น Sport Destination ครบวงจรมาตรฐานสากล ที่มีที่พักและโรงแรมระดับหรู พร้อมกับสระว่ายน้ำขนาด 50 เมตร มาตรฐานโอลิมปิก พร้อมด้วยแทร็ควิ่งและเลนส์จักรยาน ที่สวยงาม เน้นความปลอดภัย รอบสนามกอล์ฟ ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติ ซึ่งเป็นเสน่ห์ของเส้นทางวิ่งไตรกีฬารายการนี้ โดยมีการปรับเส้นทางแข่งเล็กน้อยเพื่อเพิ่มสีสันและความแปลกใหม่และสอดคล้องกับเป้าหมายของการยกระดับให้พัฒนา สปอร์ท รีสอร์ท เป็น Sport Destination ครบวงจรของประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน ด้วยการเน้นจุดเด่นเรื่องเส้นทางการแข่งขันที่เปลี่ยนแปลงใหม่ โดยในปีนี้ระยะทางเท่ากับระยะทางจากปีที่แล้ว แต่มีการปรับเส้นทางให้มีจุดตัดน้อยลงเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ผู้เข้าแข่งขัน ทำให้ผู้แข่งขันได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายให้แก่ผู้เข้าแข่งขันทุกท่าน โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยที่เป็น 1 มีการจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ยืนประจำจุดตัดทุกจุด และยืนประจำตามเส้นทางการแข่งขัน ถึง150คน มีการจัดเตรียมรถพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ มีการจัดทำศูนย์ประสานงานร่วม พร้อมอุปกรณ์วิทยุสื่อสารให้ครอบคลุมเส้นทางทั้งหมด ในทุกระยะตามมาตรฐานสากล   


    ‘CIMB THAI TRIATHLON FORWARD ASEAN PRIDE’ การแข่งขันแบ่งออกเป็น 5 ประเภท ได้แก่ 1. ไตรกีฬาระยะมาตรฐานประเภทบุคคล Individual Standard Triathlon ว่ายน้ำ 1.5 กม. ปั่นจักรยาน 40 กม. วิ่ง 10 กม. 2. ไตรกีฬาระยะสั้นประเภทบุคคล Individual Sprint Triathlon ว่ายน้ำ 750 ม. ปั่นจักรยาน 20 กม. วิ่ง 5 กม. 3. ทวิกีฬาประเภทบุคคล Individual Duathlon วิ่ง 5 กม. ปั่นจักรยาน 40 กม. วิ่ง 10 กม. 4. ไตรกีฬาระยะมาตรฐานประเภททีม Team Relay Standard Triathlon ว่ายน้ำ 1.5 กม. ปั่นจักรยาน 40 กม. วิ่ง 10 กม. 5. รายการพิเศษ Adventure Dash ว่ายน้ำ 350 ม. ปั่นจักรยาน 8 กม. วิ่ง 3 กม.  ผู้สมัครจะได้รับ Goodie Bag ข้างในประกอบด้วย เบอร์ BIB, Chip Timing, สติกเกอร์สำหรับติดจักรยาน, หมวกว่ายน้ำ, เข็มขัด Race Belt, Bike Bottle, ทีเชิ้ต, Tattoo ตามเลข BIB.-สำนักข่าวไทย.

 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ. เผยเลื่อนคุย ‘ทหารไทย-กัมพูชา’ ไม่มีกำหนด

29 ก.ค.- โฆษกทบ. เผยเลื่อนคุย ‘ทหารไทย-กัมพูชา’ ไม่มีกำหนด ยังนัดหมายพบปะกันไม่ได้ แต่พยายามอยู่ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พื้นที่กองทัพภาคที่ 2 โดยฝ่ายไทย พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาค1 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และฝ่ายกัมพูชา พล.อ.โปว เฮง ผบ.ภูมิภาคทหารที่ 4 และ พล.อ.แอก ซอมโอน ผบ.ภูมิภาคทหารที่ 5 ทั้ง 2 ฝ่ายยังนัดหมายพบปะไม่ได้ เลื่อนไป ยังไม่มีระบุเวลา (เดิมเวลา 10.00 น.) แต่ยังพยายามอยู่ -สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร​” ไม่แปลกใจ กัมพูชาไม่เป็นสุภาพบุรุษ

ทำเนียบ 29 ก.ค.- “แพทองธาร​” ไม่แปลกใจกับความไม่เป็นสุภาพบุรุษของ “กัมพูชา” หลังละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ชี้ต้องฟ้อง ปท. ที่เข้ามาเป็นพยานด้วย บอก​ จะถาม “ภูมิธรรม” ให้ ต้องออกแถลงการณ์โต้หรือไม่​ นางสาวแพทองธาร​ ชินวัตร​ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม​ กล่าวถึงกรณีกัมพูชาละเมิดข้อตกลง​หยุดยิง ว่า​ เมื่อสักครู่​ ได้อัปเดตกับทางทีมงาน​ มีการพูดคุยกันว่า​ ถ้าเป็นแบบนี้​ ก็ต้องมีการแจ้งให้ประเทศที่เข้ามาเป็นพยานได้ทราบด้วย​ ว่า​ เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น​ แต่ไม่แปลกใจกับความไม่เป็นสุภาพบุรุษอยู่แล้ว​ เมื่อถามว่ารัฐบาลจะต้องมีการออกแถลงการณ์อีกครั้งหรือไม่​ หลังจากกัมพูชาไม่หยุดยิง นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า เดี๋ยวอันนั้นจะสอบถามนายภูมิธรรม​ เวช​ย​ชัย​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี​.-315 -สำนักข่าวไทย

กองทัพไทยย้ำ! ใช้สิทธิป้องกันตนเองตามกฎหมายสากล

29 ก.ค.- กองทัพไทยย้ำ! ใช้สิทธิป้องกันตนเองตามกฎหมายสากล เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติและประชาชน หลังกัมพูชาจงใจละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ทำลายความเชื่อมั่นในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน ตามที่รัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชาได้ตกลงร่วมกันในการยุติการสู้รบทางทหารบริเวณแนวชายแดน โดยมีผลตั้งแต่เวลา 24.00 น. ของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 เพื่อเปิดทางสู่สันติภาพและความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อนบ้านนั้น วันที่ 29 กรกฎาคม 2568 พลตรี วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ระบุกองทัพไทย ได้รับการยืนยันว่า ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด หยุดยิงทุกพื้นที่ทันทีที่ถึงกำหนดเวลา โดยยึดมั่นในคำมั่นสัญญาที่รัฐบาลทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันให้ไว้ อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาหลังจากกำหนดหยุดยิง ฝ่ายกัมพูชายังคงใช้อาวุธยิงเข้ามาในเขตแดนของประเทศไทยอย่างต่อเนื่องในหลายจุด ถือเป็นการกระทำที่ จงใจละเมิดข้อตกลง และบ่อนทำลายความเชื่อมั่น ที่ควรมีต่อกันในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน กองทัพไทย ขอประณามพฤติกรรมดังกล่าวของฝ่ายกัมพูชา และขอยืนยันว่า ประเทศไทยมีความจำเป็นต้องใช้มาตรการโต้กลับ ภายใต้สิทธิในการป้องกันตนเองตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ไทยมิได้ใช้กำลังเพื่อรุกราน แต่เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และความปลอดภัยของประชาชน “เมื่อเราหยุด แต่เขาไม่หยุด…โลกต้องได้รับรู้ว่า กัมพูชาคือผู้ละเมิดข้อตกลงอย่างต่อเนื่อง และเป็นฝ่ายที่ไม่เคารพกติกาสากล ไม่ยึดถือข้อตกลงระหว่างประเทศใด ๆ ที่ได้ประกาศไว้ในเวทีระดับโลก และเป็นภัยต่อความมั่นคงของภูมิภาคและของโลก” การยอมรับพฤติกรรมเช่นนี้ เท่ากับเปิดช่องให้ความอยุติธรรมกลายเป็นบรรทัดฐานในระบบระหว่างประเทศ […]

ทบ. ประณาม “กัมพูชา” ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง

29 ก.ค.- ทบ. ประณาม “กัมพูชา”ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ขณะที่ไทยยึดมั่นพันธกรณีฯ อย่างเคร่งครัด แต่จำเป็นต้องปกป้องตัวเองตอบโต้อย่างเหมาะสม ขยับเวลาถกผู้นำหน่วยทหารในพื้นที่เป็น 10 โมงเช้า วันที่ 29 กค.68 เวลา 7.30 น. พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของฝ่ายกัมพูชาว่าตามที่รัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชาได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันในการยุติการสู้รบทางทหารบริเวณแนวชายแดน โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 24.00 น. ของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 เพื่อเปิดโอกาสให้เกิดบรรยากาศแห่งความสงบ ลดความตึงเครียด และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อนบ้านนั้น กองทัพบกขอเรียนว่า ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวอย่างเคร่งครัด โดยได้ทำการหยุดยิง บริเวณพื้นที่แนวชายแดน ไทย-กัมพูชา ทันทีที่ถึงกำหนดเวลา ด้วยความตั้งใจจริง และยึดมั่นต่อพันธกรณีที่ได้ตกลงร่วมกันของรัฐบาลทั้งสองประเทศ แต่เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งเมื่อถึง กำหนดเวลาดังกล่าว ฝ่ายไทยยังคงตรวจพบว่าฝ่ายกัมพูชาได้มีการใช้อาวุธโจมตีเข้ามาในเขตแดนของประเทศไทยอยู่หลายจุด ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างจงใจ เจตนาทำลายระบบความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน กองทัพบกจึงขอประณามต่อการกระทำดังกล่าว ฝ่ายไทยจำเป็นจะต้องใช้มาตราการโต้กลับอย่างเหมาะสม ภายใต้สิทธิอันชอบธรรมในการป้องกันตนเอง ยืนยันฝ่ายไทยไม่ได้ใช้กำลังทหารเพื่อรุกราน แต่เพื่อป้องกันการรุกล้ำและรักษาอธิปไตยของชาติ ภายใต้กฎกติกาสากล พลตรีวินธัย ยังระบุว่า เบื้องต้น การพบปะผู้นำหน่วยทหารในพื้นที่ มีการขยับเวลา […]