ทม.25 ก.พ.- ผบ.ตร.ตั้งตำรวจฝีมือดี ลุยคดีอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนคดีโอนหุ้น”เสี่ยชูวงษ์”ซึ่งมี “พ.ต.ท.บรรยิน”อดีตนักการเมืองดังตกเป็นผู้ต้องหา
ทั้งนี้สืบเนื่องจากวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 17.41 น. เกิดเหตุกลุ่มคนร้ายร่วมกันใช้กำลังประทุษร้ายเอาตัวนายวีรชัย ศกุนตะประเสริฐ อายุ 66 ปี ไปจากบริเวณหน้าศาลอาญากรุงเทพใต้ ซอยเจริญกรุง 63 แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพฯ ซึ่งในวันเดียวกันนั้นนางสาวพนิดา ศกุนตะประเสริฐ ผู้พิพากาษาอาวุโสในศาลอาญากรุงเทพใต้ ซึ่งเป็นน้องสาวของนายวีรชัยฯ ได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย เขต 1 และได้มีการติดต่อกับกลุ่มคนร้ายทางโทรศัพท์โดยคนร้ายพูดข่มขู่ให้นางสาวพนิดาฯ ซึ่งเป็นผู้พิพากษา เจ้าของสำนวนคดีอาญาที่ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ ตกเป็นจำเลย ให้ตัดสินคดีให้คุณประโยชน์แก่จำเลยหาก น.ส.พนิดาฯ ม่ทำตามก็จะไม่ได้เห็นหน้าพี่ชายอีก
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบช.ก., พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.,พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป., พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรมัย ผบก.สส.บช.น. ร่วมกันวางแผนสืบสวนจับกุมโดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องเป็นกำลังหลักในการปฏิบัติ ส่วนการสอบสวนมอบหมายให้พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามรับผิดชอบ จากการสืบสวนสอบสวนมีพยานหลักฐานเชื่อได้ว่า คนร้ายกลุ่มดังกล่าวประกอบด้วย พ.ต.ท.บรรยินฯ กับพวก รวมกัน 6 คน ร่วมกันวางแผนและลงมือใช้กำลังประทุษร้ายเอาตัวนายวีรชัยฯ ไป เพื่อต้องการบังคับขู่เข็ญให้ น.ส.พนิดาฯ ผู้พิพากษา ตัดสินคดีให้เป็นคุณประโยชน์กับ พ.ต.ท.บรรยินฯ ซึ่งตกเป็นจำเลยในคดีหมายเลขดำ อ.305/2561 ศาลอาญากรุงเทพใต้ คดีระหว่าง อัยการคดีอาญากรุงเทพใต้ 3 โจทก์ กับ พ.ต.ท.บรรยินฯ พร้อมพวกรวม 3 คน จำเลย พฤติการณ์ในคดีดังกล่าว โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกับพวก ร่วมกันปลอมเเละใช้เอกสาร สิทธิปลอมของนายชูวงษ์ แซ่ตั้ง ในการโอนหุ้นมูลค่าร่วม 300 ล้านบาท ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการเขียนคำ พิพากษาโดย น.ส.พนิดาฯ และมีกำหนดอ่านคำพิพากษาในวันที่ 20 มีนาคม 2563 หาก น.ส.พนิดาฯ ตัดสินคดีไปตามที่กลุ่มคนร้ายบังคับขู่เข็ญแล้ว จะทำให้ พ.ต.ท.บรรยินฯ จำเลย กับพวก ได้รับประโยชน์คือ หุ้นที่เป็นข้อพิพาทราคาร่วม 300 ล้านบาท พนักงานสอบสวนจึงได้ยื่นคำร้องขอหมายจับต่อศาลอาญา และได้รับอนุมัติหมายจับ ประกอบด้วย 1. พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อายุ 57 ปี 2. นายมานัส ทับทิม อายุ 67 ปี 3. นายณรงศักดิ์ ป้อมจันทร์ อายุ 49 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 19 ก.พ.2563 4. ด.ต.ธงชัย วจีสัจจะ อายุ 63 ปี 5. นายชาติชาย เมณฑ์กูล อายุ 31 ปี 6. นายประชาวิทย์ ศรีทองสุข อายุ 33 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 23 ก.พ.63 รวม 6 หมายจับในข้อหา “ร่วมกันข่มขืนใจเจ้าพนักงานให้ปฏิบัติการอันมิชอบด้วยหน้าที่โดยใช้กำลัง ประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย โดยร่วมกระทำความผิดตั้งแต่สามคนขึ้นไป, เป็นซ่องโจรโดยเป็น การสมคบเพื่อกระทำความผิดที่มีระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกอย่างสูงตั้งแต่สิบปีขึ้นไป, พยายามข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพของผู้อื่น โดยร่วม กระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป และเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่โดยหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังบุคคลใด”
ต่อมาวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจค้นเป้าหมายจำนวน 21 จุด ตรวจยึดของ กลางจำนวน 168 รายการ และเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ตามหมายจับข้างต้น ในชั้น สอบสวน ผู้ต้องหาจำนวนหนึ่งให้การรับสารภาพว่า นอกจากจะร่วมกันใช้กำลังเอาตัวนายวีรชัยฯ ไปเพื่อเรียกร้อง ประโยชน์ดังที่กล่าวมาแล้ว ยังได้ร่วมกันฆ่านายวีรชัยฯ และนำศพไปเผาไฟ นำชิ้นส่วนที่เหลือจากการเผาไปทิ้ง ตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2563 ด้วย
ในชั้นนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงต้องสืบสวนรวบรวม พยานหลักฐาน พยานบุคคล อย่างต่อเนื่องต่อไป รวมถึงต้องรอผลการตรวจพิสูจน์วัตถุพยานจากสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน และสถาบันนิติเวช หากพบว่ามี พยานหลักฐานเพิ่มเติมที่จะสามารถแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับผู้ต้องหาได้ หรือพบว่ามีผู้ร่วมกระทำผิดคนอื่นอีก จะเร่งดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายโดยเร็ว .-สำนักข่าวไทย