เชียงราย 24 ก.พ. – เพื่อนรุ่นน้องที่อยู่ในเหตุการณ์ทนายความหนุ่มถูกยิงดับคารถเก๋ง ในพื้นที่ อ.เมืองเชียงราย ให้การเป็นประโยชน์กับเจ้าหน้าที่ ขณะที่ตำรวจเรียกแฟนสาวของผู้ตายมาสอบสวน
ความคืบหน้าเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงนายอนุชิต อาจอ อายุ 32 ปี ทนายความ จนเสียชีวิตคาพวงมาลัยรถเก๋ง เหตุเกิดช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ริมถนนสายร่องเสือเต้น-แม่ยาว เขตบ้านน้ำลัด อ.เมือง จ.เชียงราย โดยมีเพื่อนรุ่นน้องนั่งมาพร้อมกับผู้เสียชีวิต ให้การว่า ตนเองและนายอนุชิต มีอาชีพเป็นทนายความ ทำงานร่วมกัน ก่อนเกิดเหตุมีชายไม่ทราบชื่อโทรมาหานายอนุชิต เพื่อนัดคุยกันเรื่องคดีความ แต่มีการเลื่อนนัดถึง 3 ครั้ง จนคืนที่ผ่านมา นายอนุชิต บอกกับตนว่า ลูกความนัดให้มาเจอตรงจุดเกิดเหตุ ตนจึงนั่งรถมาด้วย เมื่อมาถึงได้จอดรถติดเครื่องเปิดไฟขอทางไว้ ต่อมามีคนร้ายเป็นชาย 2 คน สวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบ ขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบสีและยี่ห้อมาจอดเทียบ พร้อมกับถามว่า ใช่นายอนุชิตไหม เมื่อตอบว่าใช่ คนร้ายได้ชักอาวุธปืนยิงใส่ทันที จำนวน 1 นัด หลังจากนั้นจึงเร่งเครื่องรถหลบหนีไป
ล่าสุด ร.ต.อ.นนทกร ศาลาคราม พนักงานสอบสวน สภ.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย ได้บันทึกสำนวนการสอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์ และแฟนสาวของนายอนุชิต ผู้ตาย โดยแจ้งว่าได้มีการเรียกสอบผู้ที่เห็นเหตุการณ์ คือ ทนายความรุ่นน้อง ซึ่งเป็นชาย 1 คน ที่นั่งมาด้วยกัน และเห็นช่วงที่คนร้ายลงมือยิงผู้ตายในระยะใกล้ชิด ซึ่งการสอบสวนถือว่าเป็นประโยชน์ต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่อย่างมาก โดยทราบว่า คนร้ายเป็นชาย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น PCX สีดำ-แดง ไม่ทราบทะเบียน สวมใส่หมวกกันน็อกเต็มใบสีขาว เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ผู้ตายได้เปิดกระจกรถ เพราะนึกว่าเป็นลูกความ จากนั้นคนร้ายได้ถามชื่อ ก่อนชักปืนยิงเข้ามาในรถ แล้วขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบศพผู้ตายในเบื้องต้น พบถูกยิงบริเวณรักแร้ขวา กระสุนทะลุถึงหัวใจ ทำให้เสียชีวิตทันที ส่วนอาวุธปืนจะเป็นขนาดไหน ต้องรอผลพิสูจน์อีกครั้งจากฝ่ายพิสูจน์หลักฐาน พร้อมกันนี้ได้เรียกสอบแฟนสาวของผู้ตาย ในประเด็นที่อาจมีการเชื่อมโยงในครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม ผู้เห็นเหตุการณ์บอกเพียงว่า ไม่รู้สาเหตุของการถูกยิง รู้เพียงว่า ผู้ตายให้มาเป็นเพื่อนในเรื่องที่ลูกความให้มีการยื่นอุทธรณ์คดี โดยนัดกันบริเวณดังกล่าว ส่วนรถของผู้ตายได้นำมาเก็บไว้ที่ สภ.แม่ยาว และศพส่งตรวจที่นิติเวช โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ทั้งนี้ จากข้อมูลทราบว่า ผู้ตายเริ่มทำหน้าที่ทนายความมาตั้งแต่ปี 2558 ซึ่งเป็นทนายความชาติพันธุ์อาข่า และไม่มีสำนักงานประจำ. – สำนักข่าวไทย