ล่อใจผู้คนใช้บี 10 ลดราคาเพิ่มอีก 1 บาท เริ่ม 1 มี.ค.

กรุงเทพฯ 21 ก.พ. – คนใช้น้ำมันเฮ 1 มีนาคมนี้ ปรับลดราคาทั้งราคาหน้าโรงกลั่น 50 สต./ลิตร ส่วนบี 7 และบี 20 ลดราคาลงอีก 1 บาท และ 50 สตางค์/ลิตร เพื่อหนุนคนใช้บี 10 เพิ่มตามแผน ส่วนผู้ใช้อีวีและรถไฟฟ้า มีการกำหนดกรอบค่าไฟฟ้าลดราคาเป็นพิเศษ มีเงื่อนไขรถไฟฟ้าต้องลดค่าโดยสารลงด้วย 



นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริการนโยบายพลังงาน ( กบง.) ที่มีนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน ว่า จากนโยบายของ รมว.พลังงานที่ให้ส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ เพื่อดึงราคาสินค้าเกษตรกรให้ดีขึ้น โดยการประกาศใช้น้ำมันไบโอดีเซลบี 10 เป็นน้ำมันพื้นฐานกลุ่มดีเซลและวันที่ 1 มีนาคมนี้ ทุกปั๊มจะต้องมีบี 10 จำหน่าย ดังนั้น เพื่อจูงใจให้เกิดการใช้และจำหน่ายเพิ่มมากขึ้น ที่ประชุม กบง.วันนี้ (21 ก.พ.) จึงเห็นชอบให้อุดหนุนราคาบี 10 และบี 20 เพิ่มขึ้น ด้วยการเพิ่มส่วนต่างกับราคาบี 7  โดยบี 10 เพิ่มส่วนต่างกับบี 7 จาก  2 บาท เป็น 3 บาท/ลิตร และเพิ่มส่วนต่างบี 20 กับบี 7 จาก 3 บาท เป็น 3.50 บาท/ลิตร จึงมั่นใจว่ายอดใช้บี 7 ในเดือนมีนาคมจะเพิ่มเป็น 20 ล้านลิตร และจะก้าวกระโดดให้เป็นไปตามเป้าหมาย 57 ล้านลิตร/วัน ให้เร็วขึ้น และยังจูงใจให้ผู้ประกอบการขายบี 10 โดยกำหนดค่าการตลาดให้ดีเซลบี 10 มีค่าการตลาด 1.85 บาท/ลิตร ส่วนดีเซล บี 20 ลดลงเหลือ 1.55 บาท/ลิตร และบี 7 ลดลงเหลือ 1.50 บาท/ลิตร 


นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า  ในวันที่ 1 มีนาคมยังมีข่าวดี เรื่องการประกาศปรับลดราคาหน้าโรงกลั่นน้ำมันลงได้อีก 50 สตางค์/ลิตร ที่เป็นผลมาจากการพิจารณาของคณะทำงานเพื่อพลังงานที่เป็นธรรม ที่มีตัวแทนจากภาคประชาชน ผู้ประกอบการ ผู้เชี่ยวชาญและภาครัฐเข้ามาร่วมพิจารณาบนเหตุและผล ก่อให้เกิดการยอมรับซึ่งกันและกัน โดยก่อนหน้านี้ตัวแทนภาคประชาชนเสนอลดราคา 1 บาท/ลิตร แต่จากข้อมูลด้านต่าง ๆ ที่พิจารณาทั้งจากค่าขนส่ง ค่าสำรองน้ำมันตามกฎหมาย ค่าปรับคุณภาพน้ำมันและค่าประกันภัย จึงเห็นได้ว่าการลดราคา 50 สตางค์นั้น เป็นธรรมต่อทุกฝ่าย

“วันที่ 1 มีนาคมนี้เป็นข่าวดีของผู้ใช้น้ำมันทุกรายจะได้ประโยชน์จากการลดราคาหน้าโรงกลั่น 50 สตาค์/ลิตร ส่วนผู้ใช้บี 10 และบี 20 ราคาจดลดลงอีก 1 บาท และ 50 สตางค์/ลิตรตามลำดับ ซึ่งเรื่องนี้เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค ต่อเกษตรกร และยังช่วยลดฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ได้ด้วย หากมีการใช้บี 10 เพิ่มมากขึ้น” นายสนธิรัตน์ กล่าว

นายสนธิรัตน์ ยังกล่าวด้วยว่า ในแผนพัฒนาไฟฟ้าระยะยาว หรือพีดีพี 2018 ฉบับปรับปรุงทั้งหมดตามแผนจะมีโรงไฟฟ้าชุมชนเข้าระบบกว่า 1,900 เมกะวัตต์ และคาดว่าค่าไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นเกือบ 8 สตางค์ต่อหน่วย จากแผนเดิมค่าไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่ 3.5903 บาท/หน่วยนั้น ล่าสุดสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ได้ปรับปรุงข้อมูลที่ซ้ำซ้อน พบว่า ค่าไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 5 สตางค์/หน่วยเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงมีวิธีการบริหารงานที่จะไปลดต้นทุนอื่น ๆ เช่น การนำเข้าแอลเอ็นจีราคาถูกเข้ามาใช้ ก็จะพยายามไม่ให้ต้นทุนสูงขึ้น ทั้งนี้ ในส่วนของโรงไฟฟ้าชุมชนจะมีปริมาณเพิ่มขึ้นตามแผนทั้งหมดหรือไม่นั้น คงต้องรอดูระยะแรกที่จะประกาศรับซื้อ 700 เมกะวัตต์เสียก่อนว่าจะประสบความสำเร็จหรือมีอุปสรรคอย่างไร แต่ขอยืนยันว่าโรงไฟฟ้าชุมชนนั้นตั้งเป้าหมายให้เกิดประโยชน์แก่เศรษฐกิจฐานรากอย่างแท้จริง


นายสนธิรัตน์ กล่าวด้วยว่า กบง.ยังได้เห็นชอบแนวทางการส่งเสริมพื้นที่ติดตั้งสถานีอัดประจุยานยนต์ไฟฟ้า (EV Mapping) ครอบคลุมพื้นที่ชุมชน สถานีบริการน้ำมัน ห้างสรรพสินค้า อาคารพาณิชย์ อาคารสำนักงาน ถนนสายหลักระหว่างเมือง โดยให้ภาครัฐและเอกชนสามารถยื่นขอรับการสนับสนุนจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานได้ เพื่อให้มีจำนวนสถานีเพิ่มขึ้น รวมทั้งเห็นชอบผลการศึกษาอัตราค่าไฟฟ้า อีวี และความเป็นไปได้ในการกำหนดอัตราค่าไฟฟ้าสำหรับระบบขนส่งสาธารณะ (Mass Transit) โดยเป็นอัตราค่าไฟฟ้าแบบคงที่ตลอดทั้งวัน มีค่าเท่ากับอัตราค่าพลังงานไฟฟ้าช่วงเวลา Off Peak ของผู้ใช้ไฟฟ้าตามโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้าปัจจุบันประเภท 2.2 กิจการขนาดเล็ก อัตราตามช่วงเวลา (Time Of Use (TOU) หรือเท่ากับ 2.6369 บาทต่อหน่วย (สำหรับแรงดันไฟฟ้าน้อยกว่า 22 kV) โดยให้เสนอคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) พิจารณาต่อไป ซึ่งในส่วนของระบบขนส่งสาธารณะนั้น จะต้องรอดูด้วยว่า ผู้ประกอบการรถไฟฟ้าจะลดค่าโดยสารให้กับภาคประชาชนหรือไม่

ที่ประชุม กบง.ยัง เห็นชอบร่างแผนด้านพลังงานที่ปรับปรุงใหม่ 4 ฉบับ ทั้งแผนผลิตไฟฟ้า (PDP) แผนพลังงานทดแทน (AEDP) แผนอนุรักษ์พลังงาน (EEP) และแผนด้านก๊าซ Gas Plan  โดยเตรียมนำเสนอ กพช.วันที่ 19 มีนาคมนี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ