สธ.เตรียมยกระดับ “โควิด-19” เป็นโรคติดต่ออันตราย

สธ. 20ก.พ.–สธ.เตรียมประกาศยกระดับการติดเชื้อ “โควิด-19” เป็นโรคติดต่ออันตราย หวังใช้กลไกทางกฎหมายมาควบคุมป้องกันโรค หากมีการระบาดในเฟส3 ซึ่งมีผลให้ผู้ฝ่าฝืนทั้งไทย-ต่างชาติ ไม่ปฎิบัติตัวเพื่อป้องกันโรค ได้รับทั้งโทษจำ-ปรับ พร้อมย้ำไทยไม่เคยประกาศห้ามเดินทาง แต่แนะนำเลี่ยงเดินทางเพื่อความปลอดภัย จากการเพิ่มคัดกรองผู้ป่วยที่เดินทางในญี่ปุ่น สิงคโปร์ จนถึงขณะนี้ยังไม่พบผู้ป่วย ส่วนการพบการแพร่ระบาดในเกาหลีใต้แบบก้าวกระโดด ยังต้องจับตา แต่ห่วงจัดกิจกรรมแฟนมีทติ้ง คนร่วมต้องสวมหน้ากากอนามัย 


นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค พร้อมด้วย นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ ที่ปรึกษาระดับกลาง นายแพทย์ทรงวุฒิ กล่าวว่า ยืนยันสถานการณ์การระบาดของโรคโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 คงที่ 35 คน รักษาหายแล้ว 17 คน เหลือรักษาตัวในโรงพยาบาล 18 คน  ส่วนผู้ป่วยติดเชื้อที่มีอาการหนัก 2 คน อาการคงที่ และได้รับยาฟาวิพิราเวียร์ ที่ทางการจีนมีการใช้ทดลองรักษาผู้ป่วย ร่วมกับยาต้านไวรัสเอดส์ และยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ และมีการใช้เครื่องเอ็กซ์โม  ปอด และหัวใจเทียม เชื่อว่ามีแนวโน้มดีขึ้น ส่วนผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค สะสม 1,052 คน รักษาหายแล้วอนุญาตกลับบ้าน 861 คน เหลือรักษาตัวในโรงพยาบาล 191 คน  


นพ.โสภณ กล่าวว่า หลังจากช่วงเช้าได้มีการหารือร่วมกับคณะกรรมการอำนวยการเตรียมความพร้อม เพื่อรับกับการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งเป็นการประชุมในนัดที่ 3 ซึ่งที่ประชุมเตรียมหารือ เพื่อยกระดับมาตรการการควบคุมโรคให้การติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่เป็นโรคอุบัติใหม่นี้ ให้เป็น โรค ติดต่ออันตราย ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อร้ายแรง 2558 มีผลให้เกิดการบูรณาการ ทุกภาคส่วน ทั้งด้าน 1.การระดมทรัพยากร การรักษาพยาบาล ที่มีกระทรวงสาธารณสุข  2.ช่วยชะลอป้องกันไม่ให้เกิดการระบาด ของโรค  เกิดการช่วยเหลือในทุกหน่วยงานท้องถิ่น มหาดไทย และรัฐวิสาหกิจ ร่วมกันผลิตหน้ากากอนามัยผ้า  

ทั้งนี้การประชุมดังกล่าวจะมีขึ้นอีกครั้งในวันที่ 24 ก.พ. นี้ โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน ร่วมกับนักวิชาการ เพื่อหาข้อสรุปว่า จะมีการยกระดับความรุนแรงของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 หรือไม่ หากเห็นชอบก็ร่างประกาศ และลงนามให้มีผลบังคับให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นโรคติดต่ออันตราย 


นพ.โสภณ กล่าวว่า การยกระดับให้เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นโรคติดต่ออันตราย มีผลให้สามารถใช้อำนาจทางกฎหมายเข้ามาควบคุมโรค ได้ง่ายขึ้น มากกว่าที่ทุกวันนี้เป็นการขอความร่วมมือ ใครจะปฏิบัติหรือไม่ปฏิบัติก็ได้ แต่เมื่อเป็นกฎหมาย เป็นโรคติดต่ออันตรายจะมีผลให้ ผู้ไม่ปฏิบัติตาม มีโทษทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้เพื่อเตรียมรับมือกับการระบาดของโรคที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อีก 2 เดือนข้างหน้าหรือการระบาดในเฟส 3 ส่วนปัจจัยของการยกระดับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ให้เป็นโรคติดต่ออันตราย  เกิดจาก 4 ปัจจัย ได้แก่ 1.เป็นโรคที่ไม่เคยปราฎมาก่อน 2.เป็นโรคที่มีความรุนแรง มีการป่วย และเสียชีวิตสูง 3. มีการแพร่ระบาดตามประเทศต่างๆ 4. การจำกัดการเดินทาง 

นพ.โสภณ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ประเทศไทยยังไม่ได้มีการประกาศห้ามการเดินทาง เพียงแต่ให้คำแนะนำเลี่ยงการเดินทางเพื่อความปลอดภัย ในส่วนของการควบคุมป้องกันโรค ในการตรวจคัดกรองผู้เดินทางมาจากประเทศญี่ปุ่นและสิงคโปร์ พบว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่พบผู้ป่วยแม้แต่รายเดียว แต่เพื่อความไม่ประมาท  ยังต้องคงมาตรการเช่นนี้ต่อไปเพื่อความปลอดภัย โดยเน้นการเฝ้าระวังคนที่มีไข้สูง 37.5 องศาและมีการป่วยระบบทางเดิน หายใจร่วมด้วย ซึ่งคาดว่าตัวเลขนักเดินทางที่มีอาการเจ็บป่วยอาจจะเริ่มแสดงได้ หากสถานการณ์การเจ็บป่วยมากขึ้นในอีก1-2 เดือน 

ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศเกาหลีใต้ แบบก้าวกระโดด ยืนยันไม่ห้ามการเดินทาง และในส่วนที่จะมีการกิจกรรมแฟนมีทติ้ง นั้น เชื่อว่าในส่วนของศิลปินก็ต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรค แต่ในส่วนของผู้เข้าร่วมกิจกรรม ควรสวมใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกัน และหมั่นล้างมือ  

ส่วนกรณีที่โลกออนไลน์แชร์ว่า การติดเชื้อไวรัสโคโรนา เป็นการติดเชื้อที่เกิดจากละอองฝอยขนาดเล็กนั้น นพ.รุ่งเรือง กล่าวว่า ยืนยันการติดต่อเกิดการละอองฝอยขนาดใหญ่จากการไอจาม ดังนั้น หากผู้ป่วยสวมหน้ากากอนามัยจะช่วยป้องกันไม่ให้โรคฟุ้งกระจายสู่ผู้อื่นและหมั่นล้างมือ เพื่อป้องกันการสัมผัส ขณะเดียวกันการติดต่อในระดับแอร์บอร์น  เกิดขึ้นได้ในกรณีวัณโรค ซึ่งหากมองบวกและพยายามปรับเปลี่ยนด้านสุขอนามัย ต่อไปเชื่อว่า โอกาสป่วยหรือติดต่อจากโรค ระบบทางเดินหายใจและอาหารของไทย ก็จะลดลง 

ส่วนเรื่องการติดตามให้การช่วยเหลือผู้โดยสารและลูกเรือชาวไทย ในเรือไดมอนด์ ปริ๊นเซสนั้น นพ.รุ่งเรือง กล่าวว่า ได้รับรายงานจาสถานทูตญี่ปุ่น ว่า ในส่วนของคนป่วยก็ได้รับการรักษา ส่วนคนที่ผลการตรวจยืนยัน อยู่ระหว่างการติดต่อประสานมาว่าจะกลับไทยหรือไม่ ขณะนี้ยังไม่ได้รับการยืนยัน ซึ่งการปฎิบัติตัว จากนี้ต้องทำตามกลไกมาตรการการควบคุมโรค ของประเทศนั้นๆ หากครบกำหนดจึงจะสามารถกลับบ้านได้ .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.สั่งเยียวยา ตรวจสอบเหตุ ฮ.ตำรวจตก

ประจวบคีรีขันธ์ 24 พ.ค. – ลำเลียงร่างตำรวจ 3 นาย เสียชีวิตจาก ฮ.ตก ส่งชันสูตร ด้าน ผบ.ตร.สั่งเยียวยาเต็มที่ ให้เร่งตรวจสอบหาสาเหตุโดยด่วน ช่วงบ่ายของวันนี้ เกิดเหตุ เฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติประสบอุบัติเหตุ ระเบิดกลางอากาศ จนมีตำรวจเสียชีวิต 3 นาย จุดเกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ บ้านหนองกก ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า เฮลิคอปเตอร์ที่ประสบเหตุเป็นรุ่น เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเดินทางจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี และจะบินกลับที่หน่วย ตชด. จังหวัดกาญจนบุรี อุบัติเหตุในครั้งนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 นาย ประกอบด้วยนักบิน 2 คน คือ พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ, ร.ต.ท.ทรงพล บุญชัย และ ช่างเครื่อง 1 คน คือ ร.ต.ท.ทินกฤต สุวรรณน้อย สาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ […]

ฮ.ตำรวจตก จ.ประจวบฯ เสียชีวิต 3 นาย

ประจวบฯ 24 พ.ค. – คืบหน้าเหตุเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ จ.ประจวบฯ พบผู้เสียชีวิต 3 นาย เป็นนักบิน 2 ช่างเครื่อง 1 ความคืบหน้าเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ใกล้เคียงวัดหนองพังพวย ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากการตรวจสอบพบว่าเหตุเกิดเมื่อเวลา 13.10 น. มีผู้เสียชีวิต 3 นายคือ พันตำรวจตรีประเทือง ชูเลิศ นักบิน ร้อยตำรวจเอกทรงพล บุญชัย นักบิน และร้อยตำรวจโททินกฤต สุวรรณน้อย ช่างเครื่อง สำหรับภารกิจขึ้นบิน อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ขึ้นจากท่าแร้งไปต่างจังหวัด หรือเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ประจำการในพื้นที่แล้วปฏิบัติภารกิจ ล่าสุดมีภาพผู้เสียชีวิตบางส่วน และบางรายโดดร่มลงจากเฮลิคอปเตอร์ แต่รายละเอียดยังไม่สามารถยืนยันได้ เนื่องจากเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายโมงที่ผ่านมา และทุกอย่างยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติขึ้นบินจากค่ายอาภากรเกียรติวงศ์ จ.ชุมพร ปลายทางค่ายนเรศวร จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตทั้ง 3 นายและครอบครัว สั่งการเร่งด่วนให้ช่วยเหลือเยียวยา และตรวจสอบสาเหตุต่อไป.-สำนักข่าวไทย

สายลับไรเดอร์ ตามจับบัญชีม้า แก๊งคอลเซ็นเตอร์

เชียงใหม่ 24 พ.ค.-ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ ปลอมตัวเป็นไรเดอร์ สะกดรอยตามจับ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักท่องเที่ยวผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก เปิดให้จองที่พักทิพย์ตามแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังในจังหวัด เสียหายมากถึงวันละ 300,000 บาท โดยมีเงินโอนเข้าบัญชีม้าไม่ต่ำกว่า 50 บัญชี แก๊งนี้ทำมาแล้วกว่า 6 เดือน ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ นำหมายจับศาลเชียงใหม่ ติดตามจับกุมนายบุญ (หนุ่มชาติพันธุ์) คาห้องเช่า ใกล้พรมแดน ในพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ผู้ต้องหาตามหมายจับ ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และความผิดตามพรบ.คอมพิวเตอร์ คดีหลอกลวงทางออนไลน์ พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง เครื่องนับเงินสด และเงินสดอีกจำนวน 20,000 บาท สมุดบัญชีธนาคาร บัตรกดเงินสด หลายรายการ ซุกซ่อนในตู้เสื้อผ้า นอกจากนี้ ยังขยายผลจับกุมผู้ต้องหา ที่เปิดบัญชีม้า ในการรับโอนเงินได้อีก 3 คน และอยู่ระหว่างขยายผลเพิ่มเติม โดยเฉพาะคนที่จัดหาบัญชีม้า และโทรศัพท์มือถือ สำหรับใช้ในการกระทำความผิดกับผู้ต้องหา ด้าน พันตำรวจโท อวิรุทธ์ สุขแย้ม […]

ทหารเมียนมา ต้านไม่ไหว ฐานเจดีย์ขาวเบอโด้ แตกแล้ว

ตาก 24 พ.ค.-ทหารเมียนมา ต้านไม่ไหว ฐานเจดีย์ขาวเบอโด้ แตกแล้ว ถึงแม้ว่าทหารเมียนมาจะใช้เครื่องบินมาทิ้งระเบิดตลอดทั้งวัน พ.อ.ณัฐกร เรือนติ๊บ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจราชมนู (ผบ.ฉก.ราชมนู) กองกำลังนเรศวร เปิดเผยถึงสถานการณ์สู้รบบริเวณแนวชายแดน ประเทศเมียนมา ที่ติดอยู่กับประเทศไทย การสู้รบอยู่บริเวณด้านตรงข้าม บ.ห้วยน้ำนัก ม.4 ต.พบพระ อ.พบพระ จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 1 กิโลเมตร โดยหลังจากทหารเมียนมา ใช้อากาศยาน แบบ Y-12 บินตรวจการณ์และทิ้งระเบิด จำนวนประมาณ 30 ลูก โจมตี กกล.KNLA บริเวณพื้นที่โดยรอบ ฐานเจดีย์ขาว บ.เบอโด้ อ.ซูการี จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง สหภาพเมียนมา เพื่อสนับสนุนการป้องกันฐานที่มั่น หลังจากถูก กกล.KNLA ปิดล้อมและโจมตี แต่ก็ไม่สามารถต้านทาน กกล.KNLA ได้ กระทั้งเวลา 19.00 น. กกล.KNLA สามารถเข้าควบคุมฐานเจดีย์ขาว ได้สำเร็จ สามารถตรวจยึดอาวุธและยุทโธปกรณ์ได้หลายรายการ […]

ข่าวแนะนำ

ทิศทางการเมืองหลังคดี “ยิ่งลักษณ์” บวกปมฮั้ว สว.

24 พ.ค. – ทิศทางการเมืองไทย ไปทางไหน ? หลังศาลสั่ง “ยิ่งลักษณ์” ชดใช้หมื่นล้าน ปิดคดีจำนำข้าว ส่วนปมคดีฮั้วเลือก สว. จะนำไปสู่ความขัดแย้งทางการเมืองในระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ พูดคุยกับ รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำภาควิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.-สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมชายแดนแม่สาย หวั่นสารพิษท่วม

เชียงราย 24 เม.ย. – เพิ่งเริ่มต้นฤดูฝน แต่ฝนตกหนักในเมียนมา ทำให้แม่น้ำสายไหลทะลักท่วมชายแดนแม่สาย ที่เชียงราย ชาวบ้านขนของหนีน้ำอลหม่าน หวั่นซ้ำรอยน้ำท่วมใหญ่ปีที่แล้ว และยังต้องกังวลกับสารพิษปนเปื้อนมากับน้ำท่วมด้วย.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ตร.สั่งเยียวยา ตรวจสอบเหตุ ฮ.ตำรวจตก

ประจวบคีรีขันธ์ 24 พ.ค. – ลำเลียงร่างตำรวจ 3 นาย เสียชีวิตจาก ฮ.ตก ส่งชันสูตร ด้าน ผบ.ตร.สั่งเยียวยาเต็มที่ ให้เร่งตรวจสอบหาสาเหตุโดยด่วน ช่วงบ่ายของวันนี้ เกิดเหตุ เฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติประสบอุบัติเหตุ ระเบิดกลางอากาศ จนมีตำรวจเสียชีวิต 3 นาย จุดเกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ บ้านหนองกก ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า เฮลิคอปเตอร์ที่ประสบเหตุเป็นรุ่น เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเดินทางจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี และจะบินกลับที่หน่วย ตชด. จังหวัดกาญจนบุรี อุบัติเหตุในครั้งนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 นาย ประกอบด้วยนักบิน 2 คน คือ พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ, ร.ต.ท.ทรงพล บุญชัย และ ช่างเครื่อง 1 คน คือ ร.ต.ท.ทินกฤต สุวรรณน้อย สาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ […]

ฮ.ตำรวจตก จ.ประจวบฯ เสียชีวิต 3 นาย

ประจวบฯ 24 พ.ค. – คืบหน้าเหตุเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ จ.ประจวบฯ พบผู้เสียชีวิต 3 นาย เป็นนักบิน 2 ช่างเครื่อง 1 ความคืบหน้าเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ใกล้เคียงวัดหนองพังพวย ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากการตรวจสอบพบว่าเหตุเกิดเมื่อเวลา 13.10 น. มีผู้เสียชีวิต 3 นายคือ พันตำรวจตรีประเทือง ชูเลิศ นักบิน ร้อยตำรวจเอกทรงพล บุญชัย นักบิน และร้อยตำรวจโททินกฤต สุวรรณน้อย ช่างเครื่อง สำหรับภารกิจขึ้นบิน อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ขึ้นจากท่าแร้งไปต่างจังหวัด หรือเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ประจำการในพื้นที่แล้วปฏิบัติภารกิจ ล่าสุดมีภาพผู้เสียชีวิตบางส่วน และบางรายโดดร่มลงจากเฮลิคอปเตอร์ แต่รายละเอียดยังไม่สามารถยืนยันได้ เนื่องจากเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายโมงที่ผ่านมา และทุกอย่างยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติขึ้นบินจากค่ายอาภากรเกียรติวงศ์ จ.ชุมพร ปลายทางค่ายนเรศวร จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตทั้ง 3 นายและครอบครัว สั่งการเร่งด่วนให้ช่วยเหลือเยียวยา และตรวจสอบสาเหตุต่อไป.-สำนักข่าวไทย