ถอดบทเรียน “เหตุกราดยิง” ไม่ใช่เรื่องไกลตัว

กรุงเทพฯ 18 ก.พ.-นักจิตวิทยาถอดบทเรียนจากเหตุกราดยิง ชี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัว พฤติกรรมความรุนแรงเกิดขึ้นได้กับทุกคน จากสภาพสังคมกดดัน แนะเพิ่มทักษะการใช้ชีวิต Life Skill มากขึ้น




วันนี้ (18ก.พ.) คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดเวทีเสวนาวิชาการถอดบทเรียนทางจิตวิทยา “เหตุกราดยิง : ที่มา ทางแก้ และป้องกัน” มีนักวิชาการ นักจิตวิทยา นักอาชญวิทยา นักสื่อสารมวลชน ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองต่อเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น 

รศ.ดร.สมโภชน์ เอี่ยมสุภาษิต นักจิตวิทยาด้านปรับพฤติกรรม กล่าวว่า พฤติกรรมความรุนแรงที่เป็นจุดเริ่มต้นให้ลงมือก่อเหตุรุนแรงนั้น สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน เหตุปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้คนธรรมดาก่ออาชญากรรมรุนแรงมาจากสภาพสังคมในปัจจุบันที่เปลี่ยนไป คนใจร้อนมากขึ้น อาวุธหาได้ง่ายฯลฯ ประเด็นเหล่านี้ทุกฝ่ายต้องควบคุมแก้ไขอย่างจริงจัง อีกเหตุปัจจัยจากผู้ก่อเหตุเองที่ไม่มีที่ระบาย ไม่มีที่ปรึกษา มองโลกในแง่ร้ายจนเกิดความเครียดก่อให้เกิดความรุนแรง บวกกับแรงจูงใจที่ต้องการมีตัวตนให้เป็นที่จดจำ ซึ่งในต่างประเทศ เช่นนิวซีแลนด์ที่ไม่ให้คุณค่าหรือเอ่ยชื่อผู้ก่อเหตุคสามรุนแรง ดังนั้น เราต้องนำบทเรียนเหล่านี้มาเรียนรู้เพื่อรับมือและป้องกันไม่ให้เมล็ดพันธุ์ความรุนแรงเติบโตจนเกิดเป็นพฤติกรรมการเลียนแบบ ซึ่งมองว่าสภาพสังคมของไทยยังโชคดี ที่ไม่มีพฤติกรรมลอกเลียนเหมือนในสหรัฐอเมริกา


นายนัทธี จิตสว่าง อดีตอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า ในต่างประเทศโดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีเหตุความรุนแรงจากการกราดยิงเกิดขึ้น มานาน เมื่อเกิดเหตุแล้วกระบวนจัดการและการระงับเหตุจะมีขั้นตอนที่ชัดเจน ตั้งแต่การลงโทษผู้ก่อเหตุ ,การเยียวยาเหยื่อและครอบครัว , เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน และการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน จากเหตุกราดยิงที่โคราช มีการแสดงความคิดเห็นจากคนในสังคมและโซเชียลมีเดียที่มักแสดงความคิดเห็นว่าต้องวิสามัญผู้ก่อเหตุ ฯลฯ ทุกขั้นตอนถือเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องตั้งคำถามว่า จะได้ช่วยกันได้อย่างไร ไม่ให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น เพื่อให้ทุกคนในสังคมได้อยู่ร่วมกันโดยปราศจากความรุนแรง

ผศ.ดร.พรรณรพี สุทธิวรรณ คณบดีคณะจิตวิทยา กล่าวว่า เวทีเสวนานี้มุ่งหวังให้สังคมมองเห็นถึงความสำคัญของการนำบทเรียนจากโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นด้านพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดความรุนแรง เหตุปัจจัยที่ก่อให้เกิดเหตุอาชญากรรม ทางออกทางแก้ปัญหาฯลฯ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุร้ายเช่นนี้ซ้ำรอยอีก ชี้ให้ทุกคนในสังคมมองเห็นว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่ไม่ไกลตัว สามารถเกิดขึ้นได้กับเราทุกคนจากสภาพสังคมที่กดดัน  แนะให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมกันแก้ไข เริ่มตั้งแต่การให้ความสำคัญในห้องเรียน โดยเพิ่มทักษะการใช้ชีวิต หรือ Life Skill มากกว่าแข่งขันทางการศึกษา เพื่อเป็นเกราะป้องกันทางจิตใจให้สามารถรับมือกับปัญหาและหาทางออกโดยไม่จบลงที่การใช้ความรุนแรง .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ลุยรื้อถอนต่อเนื่องเข้าวันที่ 24 จนท.ทำงานหนักตลอด 24 ชม.

เดินหน้ารื้อถอนอาคาร สตง. เข้าสู่วันที่ 24 แล้ว เจ้าหน้าที่ทำงานตลอด 24 ชม. เพื่อให้เสร็จตามแผน ขณะที่ภารกิจค้นหาผู้ติดค้างยังคงดำเนินต่อเนื่อง

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว