กรุงเทพฯ 17 ก.พ.-“ปิยบุตร” โพสต์เฟซบุ๊ก “ทำทุกวันให้เสมือนเป็นวันสุดท้าย” ระบุ จะได้มีสถานะ ส.ส.ต่อหรือไม่ ขึ้นอยู่ศาลรัฐธรรมนูญ มั่นใจพรรคอนาคตใหม่จะไม่ถูกยุบ
นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ โพสต์ข้อความผ่านเฟซสบุ๊ก ในหัวข้อ “ทำทุกวันให้เสมือนเป็นวันสุดท้าย” โดยระบุว่า “จนกระทั่งถึงวันนี้ ผมยังมั่นใจว่าพรรคอนาคตใหม่จะไม่ถูกยุบ เพราะ ไม่ว่าจะพิจารณาจากข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย ไม่มีเหตุตามกฎหมายใดเลยที่จะยุบพรรคอนาคตใหม่ได้ ไม่มีบทบัญญัติแห่งกฎหมายมาตราใด ข้อใด ที่ห้ามมิให้พรรคการเมืองกู้เงิน หาก พ.ร.ป.พรรคการเมืองต้องการมิให้พรรคการเมืองกู้เงิน ก็ต้องกำหนดไว้ให้ชัดเจน เพื่อให้ทุกพรรคการเมืองทราบล่วงหน้า ทั้งในอดีตจนถึงปัจจุบัน มีพรรคการเมืองจำนวนมากที่กู้เงิน พรรคการเมืองหลากหลายประเทศก็กู้เงิน เงินกู้ มิใช่ รายได้ แต่เป็นหนี้สิน จึงไม่เข้าข้อจำกัดตามที่ พ.ร.ป.พรรคการเมืองกำหนดที่มาของรายได้ของพรรคการเมือง เงินกู้ มิใช่เงินบริจาค และมิใช่ประโยชน์อื่นใด พรรคอนาคตใหม่มีสัญญาเงินกู้ชัดเจน เมื่อกู้มาแล้วเป็นหนี้สิน พรรคต้องชำระหนี้คืน และได้ทยอยชำระหนี้คืนไปบางส่วนแล้ว เงินกู้ มิใช่เงินที่ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย มิใช่เงินสกปรก มิใช่เงินจากการทำผิดกฎหมาย
“อย่างไรก็ตาม อย่างที่ผมเน้นย้ำอยู่เสมอว่าปากกาไม่ได้อยู่ที่ผม แต่ปากกาอยู่ในมือตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ดังนั้นในท้ายที่สุด การยุบพรรคอนาคตใหม่จะเกิดขึ้นหรือไม่ จึงอยู่ที่อำนาจตัดสินใจของศาลรัฐธรรมนูญ และด้วยปรากฏการณ์ยุบพรรค ในช่วงกว่าทศวรรษที่ผ่านมา ก็ย่อมทำให้คนจำนวนมากคาดการณ์ไปต่าง ๆ นานาถึงชะตากรรมของพรรคอนาคตใหม่ที่อยู่ในมือของศาลรัฐธรรมนูญ” นายปิยบุตร ระบุ
นายปิยบุตร ระบุอีกว่า สตีฟ จอบส์ (Steve Jobs) เคยบอกไว้ว่า “ผมมองกระจกทุกเช้าและถามตัวเองว่า ถ้าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของชีวิต ผมยังจะทำสิ่งที่ทำอยู่ทุกวันนี้หรือเปล่า และเมื่อไรที่คำตอบคือไม่ ผมรู้ทันทีว่าผมต้องเปลี่ยนแปลง” หากเราตระหนักว่าในแต่ละวัน อาจเป็นวันสุดท้าย แล้วเรายังคงเชื่อมั่นว่าสิ่งที่เราทำในแต่ละวันนั้นถูกต้อง สอดคล้องกับมโนธรรมสำนึก และเป็นไปตามสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน เราก็จำต้องเร่งลงมือทำสิ่งเหล่านั้น ทำทุกวันให้เสมือนเป็นวันสุดท้าย นับตั้งแต่เข้าสู่ปีใหม่ ผมเร่งทำงานในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอย่างหนักหน่วงเต็มที่ ทั้งการอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร และงานในคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน ผมได้อภิปรายในวาระที่สองของการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญและสำนักงานศาลปกครอง ผมได้อภิปรายแถลงญัตติ แสดงถึงเหตุผลความจำเป็นของการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางป้องกันมิให้รัฐประหารเกิดขึ้นอีกในอนาคต ผมได้อภิปรายไว้อาลัยและเอ่ยชื่อผู้เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรมที่โคราช เพื่อสร้างธรรมเนียมสอดคล้องกับสากลในการระลึกและให้การยอมรับนับถือต่อเหยื่อผู้เสียชีวิตในพื้นที่
นายปิยบุตร กล่าวว่า ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมายฯ ตนได้เสนอรายงานที่คณะกรรมาธิการฯ พิจารณาแล้วเสร็จ เรื่อง ผลกระทบของภาษีที่ดิน เข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ และสภาฯ ได้ให้ความเห็นชอบ นำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป คณะกรรมาธิการฯ ของเรายังได้พิจารณาเรื่องร้องเรียนหลายเรื่อง โดยเชิญผู้ร้องและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงและตอบข้อซักถาม ได้แก่ การเก็บดีเอ็นเอของประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ , การจำกัดเสรีภาพในการจัดกิจกรรม “วิ่งไล่ลุง” , ข้อร้องเรียนของกลุ่มผู้ขับขี่รถสองล้อ , ปัญหาสถานะที่ราชพัสุดในเกาะเต่า, ปัญหาของ พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ , การรับข้อเสนอร่าง พ.ร.บ.ต่อต้านการซ้อมทรมานและบังคับบุคคลให้สูญหาย ฯลฯ ในการประชุมสภาฯ ประจำสัปดาห์นี้ ในวันที่ 19-20 กุมภาพันธ์ 2563
นายปิยบุตร กล่าวด้วยว่า ตนมีภารกิจหลายเรื่อง 1.เสนอรายงานของคณะกรรมาธิการฯ อีกสองเรื่องให้สภาฯ เรื่องแรก การทบทวนกระบวนการพิจารณาคำสั่งไม่ฟ้องของพนักงานอัยการ ซึ่งปัจจุบัน ประกาศ คสช.ได้ยกเลิกอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัดในส่วนนี้ คงเหลือให้เป็นอำนาจของตำรวจ เรื่องที่สอง ผลกระทบของประกาศ คสช. คำสั่ง คสช. คำสั่งหัวหน้า คสช. : ศึกษากรณีการดำเนินคดีพลเรือนในศาลทหาร การจำกัดเสรีภาพในการแสดงออก และการจำกัดเสรีภาพสื่อ ภายหลังที่สภาฯ นับคะแนนใหม่ ทำให้ไม่สามารถตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ มาตรา 44 ได้ ผมจึงตั้งคณะทำงานขึ้นมาคณะหนึ่งในคณะกรรมาธิการการกฎหมายฯ เพื่อศึกษาเรื่องเหล่านี้โดยตรง ซึ่งประเด็นปัญหาของมาตรา 44 มีหลากหลายประเด็น จำเป็นต้องทำรายงานออกมาหลายฉบับ นี่คือรายงานฉบับแรก 2.อภิปรายสรุปญัตติขอให้สภาฯ ตั้งคณะกรรมาธิการศึกษาแนวทางป้องกันมิให้รัฐประหารเกิดขึ้นอีกในอนาคต ซึ่งตนตั้งใจใช้โอกาสนี้อภิปรายทิ้งทวน เพื่อบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ของสภาฯ ไว้ 3.เชิญ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มาชี้แจงและตอบข้อซักถามกับคณะกรรมาธิการการกฎหมายฯ ในกรณีเรื่องแนวทางการจัดการชุมนุมสาธารณะ และกรณี “วิ่งไล่ลุง”
นายปิยบุตร กล่าวด้วยว่า 4.พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก มาชี้แจงและตอบข้อซักถามกับคณะกรรมาธิการการกฎหมายฯ เรื่อง ปัญหาทางกฎหมายกรณีการประกอบธุรกิจของกองทัพ และการทำธุรกิจกันในค่ายทหาร 5.ต้อนรับและสนทนาแลกเปลี่ยนกับประธานกรรมาธิการคมนาคม และอดีตรัฐมนตรีคมนาคม และคณะ จากประเทศสหพันธสาธารณรัฐเยอรมนี 6.ประชุมคณะอนุกรรมาธิการศึกษาวิเคราะห์บทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ซึ่งสัปดาห์นี้จะเข้าเรื่องสำคัญ คือ หมวดว่าด้วยรัฐสภา
นายปิยบุตร กล่าวอีกว่า ในตารางการทำงานของผม ยังกำหนดไว้อีกหลายเรื่องในสัปดาห์ต่อ ๆ ไป เดือนต่อ ๆ ไป การอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า การเสนอร่างพระราชบัญญัติอีกหลายเรื่อง การพิจารณาเรื่องร้องเรียนจากประชาชนที่ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน การนำคณะกรรมาธิการการกฎหมายฯ ไปศึกษาดูงานที่ประเทศรวันดา เพื่อหาความรู้กรณีการปรองดองสมานฉันท์ภายหลังการฆ่าล้างเผ่านพันธุ์ การนำคณะกรรมาธิการฯเข้าดูสภาพเรือนจำและเยี่ยมนักโทษการเมือง การผลักดันร่าง พ.ร.บ.ต่อต้านการซ้อมทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหาย ฯลฯ ทั้งหมดนี้ ผมจะได้ทำในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 21 กุมภาพันธ์นี้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นสถาบันการเมืองเพียงแห่งเดียวที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ผู้แทนราษฎร คือ ผู้ที่ใช้อำนาจของราษฎรแทนราษฎร สภาผู้แทนราษฎร มีพันธกิจในการนำความต้องการของประชาชนมาทำให้เกิดผล สำหรับผมแล้ว เวลาจะมากหรือน้อยเพียงใด เหลือเวลาอีกเท่าไร ไม่สำคัญ ขอเพียงเราเชื่อมั่นในสิ่งที่ทำ และทำมันทุกวันเสมือนทุกวันเป็นวันสุดท้าย.-สำนักข่าวไทย