เร่งล่า 2 คู่หูยิงถล่มอู่ “ช่างแมว” กลางเมืองนครปฐม ก่อนฉุดหญิงสาวหลบหนี

นครปฐม 14 ก.พ.-ตำรวจนครปฐมตรวจสอบกล้องวงจรปิดเร่งล่า 2 คู่หู “อ้วน-ผอม” ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดกราดยิงถล่มอู่ “ช่างแมว” กลางเมืองนครปฐม ก่อนใช้ปืนข่มขู่จี้ชิงตัวหญิงสาวหลบหนีไป สาเหตุคาดมาจากความหึงหวง

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเช้า หลังตำรวจ สภ.เมืองนครปฐม ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายบุกยิงถล่ม “อู่ช่างแมว” บนถนนยิงเป้า ตำบลสนามจันทร์ อำเภอเมืองนครปฐม จากนั้นจึงระดมกำลังชุดสืบสวนเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าเป็นอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น ใกล้แยกโรงแรมริเวอร์ฯ หน้าอู่พบปลอกกระสุนและหัวกระสุนกระจายเกลื่อนกว่า 30 ปลอก นอกจากนี้ยังพบรองเท้าผู้หญิงตกอยู่ 1 คู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนสั่งให้ชุดสืบสวนกระจายกำลังหาหลักฐานจากกล้องวงจรปิด


จากการสอบสวนทราบว่าเจ้าของอู่คือ นายสัญญา เทศถัน อายุ 36 ปี หรือที่รู้จักกันว่า “ช่างแมว” ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์ให้ข้อมูลว่าได้ยินเสียงคนทะเลาะกันดังมาก จึงเดินออกมาสังเกตการณ์ และพบชาย 2 คน คนหนึ่งรูปร่างผอม สวมหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า และสวมเสื้อคลุมลายทหาร ส่วนอีกคนรูปร่างอ้วน ใส่หมวก กำลังยืนพูดคุยกับผู้หญิง 1 คน หน้าบ้าน พูดคุยกันเสียงดัง จากนั้นได้ยินเสียงคนพูดว่าให้เอากุญแจรถมา ไม่งั้นจะเข้าไปเอาเอง พอสิ้นประโยค ผู้หญิงคนดังกล่าวได้พูดว่าเดี๋ยวเข้าไปเอาให้ แต่ไม่ทันที่จะได้เข้าไปเอากุญแจรถ ปรากฏว่าชายอ้วนคนหนึ่งได้ใช้ปืนจ่อที่ผู้หญิง ก่อนลากขึ้นรถเก๋งสีขาวที่จอดอยู่ ส่วนชายรูปร่างผอมอีกคนได้เดินเข้าไปในรั้ว ก่อนใช้ปืนกราดยิงไปที่ประตูบ้านเสียงดังสนั่นไม่ต่ำกว่า 30 นัด และขับรถหลบหนีไป

ขณะที่นายสัญญา เทศถัน หรือช่างแมว ให้ข้อมูลว่า ผู้หญิงคนดังกล่าวชื่อว่า “น.ส.อ้อม” เป็นแม่ค้าขายข้าวแกงที่ตลาด และรู้จักกันมา 2 เดือน โดยก่อนเกิดเหตุได้ชักชวนกันมาดื่มกินที่บ้านจนดึก จากนั้นได้แยกย้ายกันเข้านอน จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น พร้อมยืนยันว่า “น.ส.อ้อม” ได้อ้างว่าเลิกกับแฟนแล้ว

หลังจากนั้น พล.ต.ต.คำรณ บุญเลิศ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม เรียกชุดสืบสวนประชุมติดตามคดี ก่อนแยกย้ายกันไปปฏิบัติหน้าที่ โดยผู้การฯ เปิดเผยว่า ตำรวจได้สอบปากคำเจ้าของร้านและผู้เกี่ยวข้อง ทราบว่ามือปืนชื่อ “นายบอล” อายุ 35 ปี ชาวตำบลอ้อมใหญ่ อำเภอสามพราน ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ยังไม่ยืนยันว่าเป็น M16 หรืออาวุธสงคราม บอกแต่เพียงว่าเป็นปืนแบบกึ่งออโตเมติก โดยเชื่อว่าจะได้ตัวคนร้ายมาดำเนินคดีเร็วๆ นี้

มีรายงานจากชุดสืบสวนว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนีของผู้ก่อเหตุ โดยเบาะแสสำคัญคือรถที่คนร้ายใช้ ส่วนสาเหตุคาดว่ามาจากความหึงหวง เพราะมีรายงานว่า 1 ใน 2 ผู้ก่อเหตุเป็นสามีเก่าของ “น.ส.อ้อม” แต่เลิกรากันไปนานแล้ว จากนั้นได้ขับรถมาจอดหน้าบ้าน และมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง ก่อนใช้ปืนจี้ชิงตัวออกไป.-สำนักข่าวไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ชายอ้วน-ผอมกราดยิงอู่เมืองนครปฐม กระชากสาวขึ้นรถเก๋งหนี


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง