กทม. 13 ก.พ. – แม่ทัพภาคที่ 2 สั่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง “2 ผู้พัน” พัวพันไม่จ่ายเงินตอบแทนเบี้ยเลี้ยงพลทหาร ส่วนกรณีบ้านพักยืนยันมีระเบียบควบคุมอยู่แล้ว ขณะที่กองทัพภาคที่ 4 แจงปมอมเงินทหารภาค 4 พบเป็นการใช้เงินไม่ตรงตามกำหนด
ระหว่างคณะรัฐมนตรีบางส่วนเดินทางไปยังนครราชสีมา เพื่อปฏิบัติภารกิจเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ปฏิเสธที่จะตอบคำถามสื่อมวลชนเกี่ยวกับนโยบายของ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ที่จะให้ทหารเกษียณอายุราชการย้ายออกจากบ้านพักของกองทัพภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ เช่นเดียวกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ปฏิเสธจะตอบคำถามเช่นเดียวกัน
ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงเช้า พล.อ.ประวิตร ได้ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นปฏิรูปกองทัพของผู้บัญชาการทหารบก แต่ก็ไม่ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนถึงประเด็นคำสั่งให้ทหารเกษียณอายุราชการออกจากบ้านพักเช่นกัน
ล่าสุด พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ยืนยันกับสำนักข่าวไทยว่า ผู้บัญชาการทหารบกได้สั่งไปยังกรมสวัสดิการทหารบกตรวจสอบบ้านพักของกองทัพบกทั่วประเทศ โดยให้ทำหนังสือถึงผู้ที่เกษียณอายุราชการ แต่อาศัยอยู่ที่บ้านสวัสดิการและไม่ได้ทำประโยชน์ให้กับประเทศ แจ้งให้ออกจากบ้านพักภายในสิ้นเดือนนี้ โดยจะให้ต้นสังกัดแต่ละหน่วยพิจารณาให้ย้ายออกตามความเหมาะสม ส่วนที่ผู้เกษียณราชการแล้ว เช่น นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) และองคมนตรี ยังสามารถอาศัยอยู่ได้ตามปกติ เพราะทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศ
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทยสอบถามโฆษกกองทัพบกถึงตัวเลขจำนวนบ้านพักสวัสดิการทหารเกษียณอายุราชการขณะนี้มีเท่าใด ปรากฏว่ากองทัพบกไม่มีข้อมูล เพราะไม่ได้เป็นศูนย์กลางรวบรวมไว้ เนื่องจากเป็นเรื่องของแต่ละหน่วยจัดสรรกันเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดที่ พล.อ.ประวิตร เป็นประธานเป็นพื้นที่อยู่นอกหน่วยทหาร ส่วน พล.อ.สนธิ บุญรัตนกลิน อดีตผู้บัญชาการทหารบก ได้ย้ายออกจากบ้านพักไป 2 ปีแล้ว เช่นเดียวกับ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร อดีตผู้บัญชาการทหารบก ได้ย้ายออกจากบ้านพักไป 5-6 เดือนแล้วเช่นกัน
ส่วนความคืบหน้าการย้าย 2 ผู้พันไปช่วยราชการกองทัพภาคที่ 2 หลังเข้าไปพัวพันไม่จ่ายเงินตอบแทนเบี้ยเลี้ยงพลทหาร ล่าสุดแม่ทัพภาคที่ 2 สั่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงโดยเร็วที่สุด ส่วนกรณีบ้านพักยืนยันว่ามีระเบียบควบคุมอยู่แล้ว
ขณะที่กองทัพภาคที่ 4 แถลงข่าวตอบโต้กรณีที่ถูกกล่าวหามีการอมเงินค่าตอบแทนชุดปฏิบัติการที่ปัตตานี ล่าสุดหลังตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าไม่มีหน่วยงานใดทุจริต แต่เป็นการปฏิบัติไม่เป็นไปตามนโยบาย เพราะจากการตรวจสอบพบว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จัดชุดปฏิบัติการ 4 ชุดเข้าไปพัฒนาสัมพันธ์และร่วมกิจกรรมกับประชาชนในหมู่บ้านเป้าหมาย แต่ละชุดจะได้รับงบประมาณสนับสนุน 5,000 บาทต่อเดือน รวมทั้งหมด 20,000 บาทต่อเดือน แต่หน่วยงานที่ได้รับงบได้นำไปเฉลี่ยให้กับชุดปฏิบัติการอื่น ซึ่งจัดกำลังเพิ่มเติมขึ้นมาอีก 6 ชุด เพื่อรับผิดชอบหมู่บ้านอื่น นอกเหนือจากหมู่บ้านตามแผน จึงเกิดข่าวดังกล่าวขึ้น.-สำนักข่าวไทย