รัฐสภา 13 ก.พ.- ที่ประชุมสภาฯ โหวตร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ 63 เริ่มที่มาตรา 1 ใหม่อีกครั้ง หลังจากครั้งแรก มีปัญหาที่มาตรา 6 งบกลาง ที่องค์ประชุมไม่ครบมีเพียง 244 คน หวั่นถูกยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความ ด้านวิปรัฐบาล อ้างเครื่องรวน เสียบบัตรผิดด้าน หลงลืม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ได้พิจารณาถึงมาตรา 31 เมื่อเวลา 12.50 น. ระหว่างนั้น นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล ได้ลุกขึ้นขอหารือว่า การลงมติยาวนานสมาชิกอยากทำธุระส่วนตัว จึงขอพักการประชุม 20 นาที แต่ประธานได้สั่งพักการประชุม 30 นาที แต่ สุดท้ายพักการประชุมกว่า 1 ชั่วโมง
ทั้งนี้มีรายงานว่าระหว่างพักการประชุม นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้เรียกประชุมฝ่ายกฎหมาย หลังบัลลังก์ห้องประชุมถึงการลงมติในมาตรา 6 เนื่องจากก่อนหน้า นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ได้ทักท้วงในห้องประชุมว่าการลงมติในมาตรา 6 งบกลาง มีปัญหาเพราะองค์ประชุมไม่ครบ มีเพียง 244 คน จากสมาชิก 498 ซึ่งต้องมีองค์ประชุมกึ่งหนึ่งคือ 249 ซึ่ง นายชวน ชี้แจงว่า เป็นตัวเลขของคะแนนลงมติ ที่ใช้เพียงเสียงข้างมากของสมาชิกเท่าที่มีอยู่ อีกทั้งเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้ไปยืนยันกับนายชวนว่า องค์ประชุมครบแล้ว จึงเดินหน้าพิจารณามาตราต่อไปทันที
ทันทีที่เปิดการประชุม นายชวน ได้อนุญาต ให้สมาชิกไปใช้เครื่องลงคะแนนของฝ่ายค้านได้จากเดิมที่ช่วงเช้าไม่ให้ไปใช้เครื่องลงคะแนนข้ามพรรค พร้อมแจ้งข้อกังวลของการลงมติ ที่กังวลจะทำให้ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณ เสี่ยงนำไปสู่การยื่นศาลรัฐธรรมนูญอีกครั้งจนล่าช้าอีก
นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล หารือถึงความเป็นไปได้ว่า จะเป็นปัญหาที่เครื่องเสียบบัตร หรือเสียบบัตรผิดด้านในช่วงการลงคะแนน และหลงลืมในการเสียบบัตร เพื่อให้ดำเนินการได้ถูกต้องจึงขออนุญาตเริ่มโหวตใหม่ ตั้งแต่มาตรา 6 ที่มีปัญหาท้วงติง เช่นเดียวกับนายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ที่เห็นว่าปัญหาเกิดจากความผิดพลาดของเครื่องลงคะแนนทางอิเล็กทรอนิกส์ สมาชิกเสียบบัตรผิดด้าน หรือสมาชิกหลงลืมในการเสียบบัตร อย่างไรก็ตาม ส.ส. หลายคนอาทิ นายนิกร จำนง นายชัยชนะ เดชเดโช นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ได้ลุกขึ้นชี้แจงว่า เห็นเพื่อนสมาชิกนั่งอยู่ในห้องประชุม แต่กลับไม่มีชื่อ ลงมติในมาตรา 6
นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หากเกิดปัญหา ควรพักการประชุม และนัดประชุมเพื่อกระบวนการใหม่ทั้งหมด เสียเวลานิดหน่อย แต่น่าจะปลอดภัยที่สุด ขณะที่นายวิเชียร ชวลิต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ยืนยันว่า การเช็คองค์ประชุมก่อนลงมติมาตรา 6 มีองค์ประชุมครบตามกฎหมายเรียบร้อยแล้ว แต่เมื่อลงมติกลับมีเพียง 245 เสียง ซึ่งเวลาห่างกันเพียงไม่กี่นาที จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีคนออกจากห้องประชุมอย่างรวดเร็ว ฝ่ายรัฐบาลจึงมีความเห็นตรงกันว่า ควรเสนอยกเว้นข้อบังคับให้พิจารณาใหม่ตั้งแต่มาตรา 6 ขณะที่นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ เสนอให้ลงมติใหม่วาระ 2 ทั้งหมด ตั้งแต่มาตรา 1 เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาข้อกังขาในภายหลัง
สมาชิกหลายคนได้เสนอแนวทางการลงมติใหม่หลายรูปแบบ จนสุดท้าย นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้เสนอให้ลงมติใหม่ตั้งแต่มาตรา 1 โดยนายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล ก็เห็นด้วยในแนวทางนี้ ขณะที่นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ก็สนับสนุนแนวทางนี้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในภายหลัง เช่นเดียวกับนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ก็เห็นด้วยกับแนวทางเสนอให้เริ่มต้นลงมติใหม่ตั้งแต่มาตรา 1
ประธานสภาผู้แทนราษฎร ยืนยันว่า ตัวเลขแสดงตนขณะลงมติมาตรา 6 ครบองค์ประชุม แต่เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาข้อสงสัย ก็ควรเริ่มต้นใหม่ตั้งแต่การพิจารณามาตรา 1 ชื่อร่างพระราชบัญญัติ ขณะที่นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ก็ย้ำว่า ที่ผ่านมาหากองค์ประชุมไม่ครบ ต้องปิดประชุมก่อน แล้วจึงนัดประชุมใหม่ และขอให้ยึดแนวทางที่ถูกต้องเป็นหลัก ขณะที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรก็ยืนยันว่าทำในทางที่ถูกต้องมาโดยตลอด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ประชุมได้อภิปรายถึงปัญหาที่เกิดขึ้น และตกลงกันได้ จึงได้เริ่มการลงมติร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ใหม่ ตั้งแต่มาตรา 1 อีกครั้ง เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ซึ่งนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กรรมาธิการที่สงวนคําแปรญัตติไว้เกือบทุกมาตรา และก่อนหน้านี้ได้อภิปรายทุกมาตรา ได้ยืนยันในที่ประชุมว่า การสงวนคำแปรญัตติเป็นไปตามที่ได้อภิปรายตั้งแต่มาตรา 1 ถึงมาตรา 30 ไปแล้วและไม่ขออภิปรายซ้ำ จึงขอถอนคำสงวนคำแปรญัตติ และทันทีที่สิ้นเสียงนายเรืองไกรทำให้ส.ส. ในห้องประชุมต่างปรบมือให้.-สำนักข่าวไทย