ทำเนียบฯ 13 ก.พ. – รองนายกรัฐมนตรีสั่งหลายหน่วยงานออกมาตรการหนุนการท่องเที่ยว หลังได้รับผลกระทบการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แม้ว่าสภาผู้แทนราษฎรจะลงมติงบประมาณรายจ่ายปี 2563 ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อเร่งอัดงบประมาณออกสู่ระบบ ยอมรับว่าเมื่อไทยเจอปัญหาแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบวงกว้างไปทุกส่วน ทั้งภาคแรงงาน ไกด์นำเที่ยว ผู้ประกอบการรายย่อย โรงแรม รีสอร์ท และอีกหลายส่วน แม้จะเป็นผลกระทบบางช่วงเวลา แต่ส่งผลอย่างมากทุกกลุ่ม ซ้ำเติมปัญหาส่งออกชะลอตัว แต่เป็นโอกาสสินค้าเกษตรไทย เพราะหลายประเทศต้องการอาหารสะอาด ดูแลสุขภาพ เพราะไทยมีอาหารด้านเกษตรพร้อมในช่วงโรคระบาด
ในบ่ายวันพรุ่งนี้ (13 ก.พ.) จึงสั่งการให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเชิญกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ทั้งกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา และอีกหลายหน่วยงานหารือแนวทางช่วยเหลือเยียวยาและบรรเทาผลกระทบ เพื่อศึกษามาตรการได้แล้วเสร็จ เพื่อให้เกิดการจ้างงาน หรือลดผลกระทบ เตรียมนำเสนอที่ประชุม ครม.พิจารณา
สำหรับปัญหาหน้ากากอนามัย ขอให้กระทรวงพาณิชย์ประสานโรงงานผลิตหน้ากากอนามัยเร่งผลิตหน้ากากอนามัยตลอด 24 ชั่วโมงให้เพียงพอต่อความต้องการของตลาด 35 ล้านชิ้นต่อเดือน และป้องกันไม่ให้กักตุนจากผู้ประกอบการ โดยรัฐบาลพร้อมอุดหนุนต้นทุน
นายสมคิด กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 กระทบการท่องเที่ยว รัฐบาลจึงต้องเพิ่มวันหยุดช่วงเทศกาลสงกรานต์ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กำลังศึกษาแนวทาง เพื่อส่งเสริมให้มีวันหยุดหลายวันระหว่างเดินทางกลับต่างจังหวัดจะได้มีโอกาสใช้เงินในแหล่งท่องเที่ยว.-สำนักข่าวไทย