ผู้ว่าฯ โคราช มอบเงินเยียวยาผู้บาดเจ็บ-ครอบครัวผู้เสียชีวิตเหตุกราดยิง

ภูมิภาค 12 ก.พ. –  ผู้ว่าฯ โคราช มอบเงินเยียวยาก้อนแรกให้ผู้บาดเจ็บและครอบครัวผู้เสียชีวิตเหตุกราดยิงโคราช ตั้งเป้าหากยอดบริจาคถึง 50 ล้านบาท จะมอบให้ผู้เสียชีวิตรายละ 1 ล้านบาท ด้านสมาคมผู้ประกอบการรักษาความปลอดภัยฯ เร่งผลักดันกฎหมาย รปภ. เพิ่มการช่วยเหลือและสวัสดิการ

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจ โดยให้ตนเป็นประธาน นำเงินจากคณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยไปช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุกราดยิงที่ จ.นครราชสีมา ทั้ง 2 กลุ่ม คือ เจ้าหน้าที่ของรัฐ และประชาชนทั่วไป ภายใต้หลักเกณฑ์ 4 ข้อคือ เสียชีวิต, บาดเจ็บสาหัส, บาดเจ็บไม่สาหัส และได้รับผลกระทบทางด้านจิตใจ รวมถึงจะพิจารณาความเสียหายของทรัพย์สินต่างๆ ด้วย โดยจะนำมาหารือในรายละเอียดอีกครั้ง โดยการให้ความช่วยเหลือดังกล่าวเป็นไปตามกฎหมาย 2 ฉบับ คือการสงเคราะห์ผู้ประสบภัยของกระทรวงการคลัง และกฎหมายการช่วยเหลือผู้เสียหายของกระทรวงยุติธรรม ซึ่งเป็นเงินช่วยเหลือที่ไม่มากนัก และยังมีระเบียบของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ที่จะช่วยในลักษณะการไปเยี่ยม นำจิตแพทย์และแพทย์ไปดูแลทุกเดือน


หากผู้ได้รับผลกระทบเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจะมีกฎระเบียบแยกต่างหาก เช่น หากเสียชีวิต ได้รับเงินเดือนทวีคูณ 7 เท่า เลื่อนชั้นยศ รับบุตร 1 คน เข้ารับราชการโดยไม่มีเงื่อนไข ซึ่งรัฐบาลมองว่าความสูญเสียที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เกิดขึ้นทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและผู้บริสุทธิ์ จึงต้องเยียวยาให้สมน้ำสมเนื้อ โดยอาจเทียบเท่ากับวงเงินที่เคยชดเชยให้ในเหตุการณ์ราชประสงค์ รายละ 1 ล้านบาท แต่ยังต้องรอการพิจารณาจากคณะกรรมการอย่างละเอียดอีกครั้ง คาดจะได้รับความชัดเจนเร็วๆ นี้

ด้านนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นำเงิน 1 ล้านบาท มอบผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ พร้อมทั้งเป็นตัวแทนรัฐบาลกล่าวแสดงความเสียใจและให้กำลังใจผู้เกี่ยวข้อง พร้อมย้ำทุกภาคส่วนเร่งฟื้นฟูเยียวยาเพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กลับคืนมาเร็วที่สุด

ในจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บ 58 คน จากเหตุการณ์กราดยิงในพื้นที่โคราช ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 23 คน มีเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ เข้าเยี่ยมปลอบขวัญทุกวัน ส่วนอีก 35 คน ที่ออกจากโรงพยาบาลแล้ว วันนี้นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้สั่งการให้เหล่ากาชาดจังหวัดไปเยี่ยมมอบเงินช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บทุกคน น้องคนนี้เป็นนักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนบุญวัฒนา ชื่อนายณโชติ โชติกลาง หลังเลิกเรียนแม่ขับรถไปรับ ระหว่างขับผ่านบริเวณวัดป่าศรัทธารวม สังเกตเห็นคนร้ายลงจากรถจิ๊บทหารมาก่อเหตุ ยิงถูกนางนริศรา โชติกลาง แม่ของตัวเองจนเสียชีวิต รถเสียหลักชนต้นไม้ ตัวเองที่นั่งอยู่ด้านหลัง มีอาการบาดเจ็บจากสะเก็ดลูกปืนบริเวณด้านหลัง ต้องนอนโรงพยาบาลถึง 4 วัน

ขณะที่สามีภรรยาชาวชุมชนบึงพญาปราบ ตำบลบ้านเกาะ อำเภอเมืองนครราชสีมา คู่นี้ประสบเหตุขณะขับรถผ่านหน้าห้างเทอร์มินอล 21 สังเกตเห็นคนนอนจมกองเลือด ได้ยินเสียงปืนรัว รถของตัวเองถูกยิง จึงจอดริมทางตรวจสอบ ระหว่างนั้นได้ยินเสียงปืนรัวขึ้นมาอีกชุด จึงรีบขึ้นรถขับออกไป ภรรยาซึ่งกำลังตั้งครรภ์ 8 เดือน รู้สึกเจ็บตรงท้ายทอย จึงให้หมอเอกซเรย์ แล้วรับยากลับไปทานที่บ้าน โดยนอกจากพบรอยกระสุนตรงกระจกประตูหลังด้านซ้ายแล้ว ยังพบรอยกระสุนทะลุมาโผล่ตรงที่รองศีรษะเบาะนั่งข้างคนขับด้วย ส่วนผู้บาดเจ็บบางรายกลับไปทำงานที่กรุงเทพฯ แล้ว เจ้าหน้าที่จึงมอบเงินช่วยเหลือให้ญาติแทน        

ขณะที่กองทุนช่วยเหลือผู้ประสบเหตุเทอร์มินอล 21 มีผู้บริจาคเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดยอดเงินพุ่งสูงกว่า 38 ล้านบาท โดยวันนี้นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้นำเงินสดไปมอบแก่ผู้บาดเจ็บที่ยังรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และโรงพยาบาลต่างๆ รวม 23 ราย รายละ 100,000 บาท พร้อมทั้งมอบเงินเยียวยาแก่ญาติผู้เสียชีวิตอีก 19 ราย  รายละ 300,000 บาท เพื่อนำไปช่วยเป็นค่าใช้จ่ายจัดงานฌาปนกิจศพ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดได้แสดงความขอบคุณน้ำใจไปยังคนไทยทั้งในและต่างประเทศ ที่ช่วยเหลือกันในยามทุกข์ยาก ตอนนี้ยังขอเปิดรับบริจาคต่อไป ตั้งเป้าหากยอดเงินถึง 50 ล้านบาท จะพิจารณาร่วมกันว่าจะจ่ายเงินให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตรายละ 1 ล้านบาท เพื่อเยียวยาความสูญเสีย ย้ำเงินบริจาคจะถูกนำไปช่วยเหลือเหยื่อจากเหตุการณ์ครั้งนี้ทั้งหมด


นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้เข้ามอบเงินเยียวยาจำนวน 11,000 บาท  ให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุกราดยิงที่โคราช คือนายอธิวัฒน์ พรมสุข หรือเดียร์ อายุ 18 ปี นักศึกษา ปวช.ปี 3 วิทยาลัยเทคนิคนครราชสีมา และนายวันชัย เวชวรรณ์ หรือใหญ่ อายุ 41 ปี หัวหน้าพนักงานคาร์แคร์ ในห้างเทอร์มินอล 21 โดยในส่วนของนายวันชัย ยังได้เงินจากสำนักงานประกันสังคมอีก 52,085.46 บาท

ด้านสมาคมผู้ประกอบการรักษาความปลอดภัยแห่งประเทศไทยได้มอบเงินให้กับครอบครัว รปภ. ที่เสียชีวิต และบาดเจ็บ โดยมองว่า  รปภ. เป็นอาชีพที่มีความเสี่ยง เป็นด่านแรกในการเผชิญเหตุ ควรมีสวัสดิการและการตั้งกองทุนดูแลช่วยเหลือให้ชัดเจนกว่านี้ ซึ่งจะเร่งผลักดันให้เพิ่มสาระของกฎหมายในส่วนนี้เข้าสภาโดยเร็ว

ในความสูญเสียจากเหตุกราดยิงที่โคราช ก็ยังมีเรื่องราวน่าประทับใจเกิดขึ้น ผู้ใช้เฟซบุ๊กบัญชี “supavadee klangsoonneon” ได้โพสต์ภาพและข้อความระบุว่า “วันนี้เพื่อนเข้าไปเก็บร้าน เพื่อนถ่ายมาให้ดู เห็นภาพกลั้นน้ำตาไม่อยู่จริงๆ ยังมีความรักอยู่ในเพื่อนมนุษย์ ยังมีความเห็นใจกัน เราแค่คิด ให้เจ้าหน้าที่ทานไปเลยนะ นี่พี่เขาวางเงินไว้ ขอบคุณที่ทำให้รู้ว่า ในความเลวร้าย ยังมีเรื่องราวดีๆ ให้จดจำ รักเลย” พร้อมอีโมจิรูปหัวใจสองดวง เมื่อภาพนี้ถูกแชร์ออกไปชาวโซเชียลต่างให้ความเห็นว่าอดยิ้มตามไม่ได้ ถึงแม้จะอยู่ในภารกิจที่เสี่ยงอันตราย แต่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการก็ยังมีศีลธรรม

ส่วนหนึ่งเรื่องราวดีๆ ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Apichai Teh ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษภาค 3 ได้ออกมาโพสต์รับว่า ทีมเจ้าหน้าที่ได้แอบหยิบชมพู่ของร้านค้าในชั้น G เพื่อรองท้องระหว่างปฏิบัติภารกิจ “เจ้าหน้าที่ทุกนายที่อยู่ข้างในวันนั้น ไม่มีน้ำ ไม่มีข้าว ไม่มีเวลาจะเตรียมตัว แต่กองทัพต้องเดินด้วยท้อง พวกเราขออาศัยที่พึ่งจากร้านพี่ๆ ป้าๆ เหล่านี้ล่ะครับ พอได้มีแรงสู้ต่อ” ด้านเเม่ค้าร้านชมพู่ ซึ่งคือผู้ใช้เฟสบุ๊ก “พลอย. วัชราภรณ์” ได้ออกมาตอบกลับโพสต์ของเจ้าหน้าที่ทันที เพื่อปฏิเสธรับเงินเ เละขอขอบคุณที่ช่วยชีวิตตนเองเเละครอบครัวให้หนีออกมาจากห้างฯ ได้อย่างปลอดภัย

ตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสารสนเทศ ตำรวจภูธรภาค 5 จับกุมหนุ่มวัย 22 ปี ชาวเชียงใหม่ ที่โพสต์ข้อความไม่เหมาะสม รู้สึกบ้า เมื่อวานที่โคราช วันนี้น่าจะเชียงใหม่ พร้อมมีภาพอาวุธปืนและเครื่องกระสุน ทำให้ประชาชนเกิดความตกใจกลัว และโพสต์ข้อความเข้าไปเขียนด่าเจ้าตัวจำนวนมาก จนต้องปิดเฟซบุ๊กหนี เจ้าตัวเองยังกลัวไม่มีความปลอดภัย หลังถูกจับกุมรู้สึกผิดและได้ขอโทษต่อสังคมและทุกคน ที่ทำลงไปเพราะเมา ขาดสติ เนื่องจากทวงเงินจากเพื่อนไม่ได้จึงระบาย และไม่คิดว่าเหตุการณ์จะใหญ่โตจนได้รับความเดือดร้อนไปหมด รวมทั้งครอบครัวด้วย รู้สึกสำนึกผิดเป็นอย่างมาก และจะไม่ทำอีก

พันตำรวจเอกธวัชชัย พงศ์วิวัฒน์ชัย รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 บอกว่า เจ้าตัวเองก็สำนึกผิด และยังได้รับผลกระทบไปถึงครอบครัว จนขายของไม่ได้ เนื่องจากมีชาวบ้านไม่พอใจเยอะมาก เจ้าตัวก็สำนึกผิด ไม่อยากให้มีใครทำแบบนี้อีก ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดีหลายข้อหา ทาง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และประชาชนก็ไม่ควรเอาแบบอย่าง ส่วนอาวุธและเครื่องกระสุนที่โพสต์ก็ไม่มีจริง นำเอามาจากโซเซียส และนำมาโพสต์โชว์

นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงกรณีมีบุคคลโพสต์ภาพอาวุธปืนและข้อความในเชิงข่มขู่จะใช้ความรุนแรงในลักษณะเดียวกับคนร้ายก่อเหตุกราดยิงผู้บริสุทธิ์ที่โคราชว่า เป็นการกระทำเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (2) ฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จโดยประการน่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 392 ฐานทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว หรือตกใจ โดยการขู่เข็ญ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และที่สำคัญก็คือการกระทำลักษณะนี้จะกระทบต่อจิตใจของผู้คนในสังคม จึงย่อมต้องได้รับโทษทางสังคมด้วย ดังจะเห็นจากตัวอย่างว่าผู้กระทำบางคนถูกต้นสังกัดหรือนายจ้างมีคำสั่งเลิกจ้างทันที

ดังนั้น จึงขอเตือนให้ผู้ที่คิดจะกระทำการลักษณะนี้หยุดคิด หากมีความขุ่นข้องหมองใจจากเหตุที่ตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรม ไม่ว่าทั้งทางแพ่ง หรือ ทางอาญา สามารถขอรับคำปรึกษาได้จากอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมาย สำนักงานอัยการสูงสุด หรืออัยการจังหวัด โดยอัยการยินดีให้คำปรึกษา แนะนำแนวทางแก้ไขให้ทุกฝ่าย เพื่อไม่ให้ตัวเองกลายเป็นคนทำผิดเสียเอง จนเกิดผลกระทบต่อตัวเองและครอบครัวในที่สุด.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน ตะวันออกฝ-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนตกหนัก

กรุงเทพฯ 25 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนภาคเหนือตอนบน ภาคอีสานตอนบน ภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณ จ.น่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ตราด ระนอง พังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและลมแรง ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดน่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ลมแรง และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน มีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง […]

ทีมทนายวัดพระบาทน้ำพุแจงปม “หลวงพ่ออลงกต” สวมบัตร ปชช. คนตาย

ลพบุรี 24 ส.ค. – วัดพระบาทน้ำพุ ตั้งโต๊ะแถลง ยืนยันเลขบัตรประชาชนของ “หลวงพ่ออลงกต” ไม่ซ้ำกับ “อลงกต พลมุข” ปัดตอบปมเลขบัตรประชาชนผู้เสียชีวิต ผูกพร้อมเพย์บัญชีมูลนิธิฯ ขอไปตรวจสอบก่อน ส่วนทางคดี จับตาสัปดาห์หน้า จะมีผู้ถูกดำเนินคดีมากกว่า 1 คน วันนี้ ที่วัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี นายศุภชัย สิงคาลวานิช หัวหน้าทีมทนายความของวัดพระบาทน้ำพุ พร้อมตัวแทนมูลนิธิต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัดพระบาทน้ำพุ ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ เป็นครั้งแรก โดยบอกว่าวันนี้ หลวงพ่ออลงกตไม่ได้หลีกเลี่ยงที่จะมาให้สัมภาษณ์ แต่ครั้งนี้มีข้อมูลมาก มีปัญหาเรื่องข้อกฎหมายและปัญหาที่ซับซ้อนหลายอย่าง หากตอบไปอาจกระทบต่อคดี และยืนยันว่า หลวงพ่อมีเจตนาบริสุทธิ์ในการช่วยเหลือผู้ป่วย เด็กกำพร้า ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส กลุ่มเปราะบางในสังคม ซึ่งขณะนี้สังคมเข้าใจผิดในหลายเรื่อง เพราะเกิดการชี้นำของหลายเพจ กลุ่มผู้มีอิทธิพลในบางสื่อ นำเรื่องมาปะติดปะต่อจนสร้างความเสียหาย ส่วนประเด็นที่กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องที่หลวงพ่ออลงกต สวมชื่อและเลขบัตรประชาชน “อลงกล พลมุข” ข้าราชการที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น ทีมทนาย เปิดเผยว่า หลวงพ่ออลงกต มีบัตรประชาชนของท่านเอง และนามสกุลของท่าน […]

สกัดจับขบวนการค้ามนุษย์ ลอบขนคนไทยไปเขมร

สระแก้ว 24 ส.ค. – ทหารพรานลาดตระเวนชายแดนไทย-กัมพูชา บ้านกุดหิน ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว สกัดจับคนไทย 10 คน ขณะลักลอบเข้ากัมพูชา เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะเจ้าหน้าที่กำลังลาดตระเวนตามแนวชาย เพื่อสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายที่จะแอบลักลอบขนข้ามแดน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย 2 คัน ประกอบด้วย รถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว (ไม่ทราบทะเบียน) และ รถยนต์เก๋ง สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ซึ่งทั้งขับผ่านเข้ามาในพื้นที่ล่อแหลม โดยรถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว ได้จอดให้คนเดินลงมาจากรถ และเดินเข้าป่าไป จำนวน 6 คน ประกอบด้วย คนนำพา 1 คน และผู้ลักลอบ 5 คน โดยทั้งหมดเป็นคนไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ ส่วนรถยนต์เก๋งสีดำที่ขับตามมา เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ จึงขับหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับไว้ได้ (ห่างจากจุดแรกประมาณ 200 เมตร) จากการตรวจสอบภายในรถพบคนไทย 4 คน […]

พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใกล้ศูนย์เด็กเล็ก

อุบลราชธานี 24 ส.ค. – พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี อยู่ริมสระน้ำใกล้ศูนย์เด็กเล็ก เพียง 100 เมตร จากกรณีที่กัมพูชา ยิงจรวด BM–21 เข้าใส่ชุมชน บ้านเรือนประชาชน ในฝั่งไทย จนนำไปสู่การสูญเสียชีวิต และทรัพย์สิน ของประชาชนคนไทย เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันผลกระทบจากจรวด BM–21 ต่อประชาชน คนไทย ยังคงมีอยู่ ภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ได้จากบ้านหลังหนึ่ง ในอำเภอน้ำยืน จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นกัมพูชาได้ยิงจรวด BM-21 เข้ามาตกในเขตชุมชนฝั่งไทย โดยเหตุการณ์ครั้งนั้น มีจรวด BM-21 ตกมาทั้งหมด 11 ลูก 2 ใน 11 ลูก ตกใส่บ้านประชาชน จนบ้านพังเสียหายทั้งหมด 2 หลัง และมี 1 […]