ผู้ว่าฯ โคราช มอบเงินเยียวยาผู้บาดเจ็บ-ครอบครัวผู้เสียชีวิตเหตุกราดยิง

ภูมิภาค 12 ก.พ. –  ผู้ว่าฯ โคราช มอบเงินเยียวยาก้อนแรกให้ผู้บาดเจ็บและครอบครัวผู้เสียชีวิตเหตุกราดยิงโคราช ตั้งเป้าหากยอดบริจาคถึง 50 ล้านบาท จะมอบให้ผู้เสียชีวิตรายละ 1 ล้านบาท ด้านสมาคมผู้ประกอบการรักษาความปลอดภัยฯ เร่งผลักดันกฎหมาย รปภ. เพิ่มการช่วยเหลือและสวัสดิการ

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจ โดยให้ตนเป็นประธาน นำเงินจากคณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยไปช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุกราดยิงที่ จ.นครราชสีมา ทั้ง 2 กลุ่ม คือ เจ้าหน้าที่ของรัฐ และประชาชนทั่วไป ภายใต้หลักเกณฑ์ 4 ข้อคือ เสียชีวิต, บาดเจ็บสาหัส, บาดเจ็บไม่สาหัส และได้รับผลกระทบทางด้านจิตใจ รวมถึงจะพิจารณาความเสียหายของทรัพย์สินต่างๆ ด้วย โดยจะนำมาหารือในรายละเอียดอีกครั้ง โดยการให้ความช่วยเหลือดังกล่าวเป็นไปตามกฎหมาย 2 ฉบับ คือการสงเคราะห์ผู้ประสบภัยของกระทรวงการคลัง และกฎหมายการช่วยเหลือผู้เสียหายของกระทรวงยุติธรรม ซึ่งเป็นเงินช่วยเหลือที่ไม่มากนัก และยังมีระเบียบของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ที่จะช่วยในลักษณะการไปเยี่ยม นำจิตแพทย์และแพทย์ไปดูแลทุกเดือน


หากผู้ได้รับผลกระทบเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจะมีกฎระเบียบแยกต่างหาก เช่น หากเสียชีวิต ได้รับเงินเดือนทวีคูณ 7 เท่า เลื่อนชั้นยศ รับบุตร 1 คน เข้ารับราชการโดยไม่มีเงื่อนไข ซึ่งรัฐบาลมองว่าความสูญเสียที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เกิดขึ้นทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและผู้บริสุทธิ์ จึงต้องเยียวยาให้สมน้ำสมเนื้อ โดยอาจเทียบเท่ากับวงเงินที่เคยชดเชยให้ในเหตุการณ์ราชประสงค์ รายละ 1 ล้านบาท แต่ยังต้องรอการพิจารณาจากคณะกรรมการอย่างละเอียดอีกครั้ง คาดจะได้รับความชัดเจนเร็วๆ นี้

ด้านนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นำเงิน 1 ล้านบาท มอบผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ พร้อมทั้งเป็นตัวแทนรัฐบาลกล่าวแสดงความเสียใจและให้กำลังใจผู้เกี่ยวข้อง พร้อมย้ำทุกภาคส่วนเร่งฟื้นฟูเยียวยาเพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กลับคืนมาเร็วที่สุด

ในจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บ 58 คน จากเหตุการณ์กราดยิงในพื้นที่โคราช ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 23 คน มีเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ เข้าเยี่ยมปลอบขวัญทุกวัน ส่วนอีก 35 คน ที่ออกจากโรงพยาบาลแล้ว วันนี้นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้สั่งการให้เหล่ากาชาดจังหวัดไปเยี่ยมมอบเงินช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บทุกคน น้องคนนี้เป็นนักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนบุญวัฒนา ชื่อนายณโชติ โชติกลาง หลังเลิกเรียนแม่ขับรถไปรับ ระหว่างขับผ่านบริเวณวัดป่าศรัทธารวม สังเกตเห็นคนร้ายลงจากรถจิ๊บทหารมาก่อเหตุ ยิงถูกนางนริศรา โชติกลาง แม่ของตัวเองจนเสียชีวิต รถเสียหลักชนต้นไม้ ตัวเองที่นั่งอยู่ด้านหลัง มีอาการบาดเจ็บจากสะเก็ดลูกปืนบริเวณด้านหลัง ต้องนอนโรงพยาบาลถึง 4 วัน

ขณะที่สามีภรรยาชาวชุมชนบึงพญาปราบ ตำบลบ้านเกาะ อำเภอเมืองนครราชสีมา คู่นี้ประสบเหตุขณะขับรถผ่านหน้าห้างเทอร์มินอล 21 สังเกตเห็นคนนอนจมกองเลือด ได้ยินเสียงปืนรัว รถของตัวเองถูกยิง จึงจอดริมทางตรวจสอบ ระหว่างนั้นได้ยินเสียงปืนรัวขึ้นมาอีกชุด จึงรีบขึ้นรถขับออกไป ภรรยาซึ่งกำลังตั้งครรภ์ 8 เดือน รู้สึกเจ็บตรงท้ายทอย จึงให้หมอเอกซเรย์ แล้วรับยากลับไปทานที่บ้าน โดยนอกจากพบรอยกระสุนตรงกระจกประตูหลังด้านซ้ายแล้ว ยังพบรอยกระสุนทะลุมาโผล่ตรงที่รองศีรษะเบาะนั่งข้างคนขับด้วย ส่วนผู้บาดเจ็บบางรายกลับไปทำงานที่กรุงเทพฯ แล้ว เจ้าหน้าที่จึงมอบเงินช่วยเหลือให้ญาติแทน        

ขณะที่กองทุนช่วยเหลือผู้ประสบเหตุเทอร์มินอล 21 มีผู้บริจาคเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดยอดเงินพุ่งสูงกว่า 38 ล้านบาท โดยวันนี้นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้นำเงินสดไปมอบแก่ผู้บาดเจ็บที่ยังรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และโรงพยาบาลต่างๆ รวม 23 ราย รายละ 100,000 บาท พร้อมทั้งมอบเงินเยียวยาแก่ญาติผู้เสียชีวิตอีก 19 ราย  รายละ 300,000 บาท เพื่อนำไปช่วยเป็นค่าใช้จ่ายจัดงานฌาปนกิจศพ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดได้แสดงความขอบคุณน้ำใจไปยังคนไทยทั้งในและต่างประเทศ ที่ช่วยเหลือกันในยามทุกข์ยาก ตอนนี้ยังขอเปิดรับบริจาคต่อไป ตั้งเป้าหากยอดเงินถึง 50 ล้านบาท จะพิจารณาร่วมกันว่าจะจ่ายเงินให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตรายละ 1 ล้านบาท เพื่อเยียวยาความสูญเสีย ย้ำเงินบริจาคจะถูกนำไปช่วยเหลือเหยื่อจากเหตุการณ์ครั้งนี้ทั้งหมด


นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้เข้ามอบเงินเยียวยาจำนวน 11,000 บาท  ให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุกราดยิงที่โคราช คือนายอธิวัฒน์ พรมสุข หรือเดียร์ อายุ 18 ปี นักศึกษา ปวช.ปี 3 วิทยาลัยเทคนิคนครราชสีมา และนายวันชัย เวชวรรณ์ หรือใหญ่ อายุ 41 ปี หัวหน้าพนักงานคาร์แคร์ ในห้างเทอร์มินอล 21 โดยในส่วนของนายวันชัย ยังได้เงินจากสำนักงานประกันสังคมอีก 52,085.46 บาท

ด้านสมาคมผู้ประกอบการรักษาความปลอดภัยแห่งประเทศไทยได้มอบเงินให้กับครอบครัว รปภ. ที่เสียชีวิต และบาดเจ็บ โดยมองว่า  รปภ. เป็นอาชีพที่มีความเสี่ยง เป็นด่านแรกในการเผชิญเหตุ ควรมีสวัสดิการและการตั้งกองทุนดูแลช่วยเหลือให้ชัดเจนกว่านี้ ซึ่งจะเร่งผลักดันให้เพิ่มสาระของกฎหมายในส่วนนี้เข้าสภาโดยเร็ว

ในความสูญเสียจากเหตุกราดยิงที่โคราช ก็ยังมีเรื่องราวน่าประทับใจเกิดขึ้น ผู้ใช้เฟซบุ๊กบัญชี “supavadee klangsoonneon” ได้โพสต์ภาพและข้อความระบุว่า “วันนี้เพื่อนเข้าไปเก็บร้าน เพื่อนถ่ายมาให้ดู เห็นภาพกลั้นน้ำตาไม่อยู่จริงๆ ยังมีความรักอยู่ในเพื่อนมนุษย์ ยังมีความเห็นใจกัน เราแค่คิด ให้เจ้าหน้าที่ทานไปเลยนะ นี่พี่เขาวางเงินไว้ ขอบคุณที่ทำให้รู้ว่า ในความเลวร้าย ยังมีเรื่องราวดีๆ ให้จดจำ รักเลย” พร้อมอีโมจิรูปหัวใจสองดวง เมื่อภาพนี้ถูกแชร์ออกไปชาวโซเชียลต่างให้ความเห็นว่าอดยิ้มตามไม่ได้ ถึงแม้จะอยู่ในภารกิจที่เสี่ยงอันตราย แต่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการก็ยังมีศีลธรรม

ส่วนหนึ่งเรื่องราวดีๆ ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Apichai Teh ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษภาค 3 ได้ออกมาโพสต์รับว่า ทีมเจ้าหน้าที่ได้แอบหยิบชมพู่ของร้านค้าในชั้น G เพื่อรองท้องระหว่างปฏิบัติภารกิจ “เจ้าหน้าที่ทุกนายที่อยู่ข้างในวันนั้น ไม่มีน้ำ ไม่มีข้าว ไม่มีเวลาจะเตรียมตัว แต่กองทัพต้องเดินด้วยท้อง พวกเราขออาศัยที่พึ่งจากร้านพี่ๆ ป้าๆ เหล่านี้ล่ะครับ พอได้มีแรงสู้ต่อ” ด้านเเม่ค้าร้านชมพู่ ซึ่งคือผู้ใช้เฟสบุ๊ก “พลอย. วัชราภรณ์” ได้ออกมาตอบกลับโพสต์ของเจ้าหน้าที่ทันที เพื่อปฏิเสธรับเงินเ เละขอขอบคุณที่ช่วยชีวิตตนเองเเละครอบครัวให้หนีออกมาจากห้างฯ ได้อย่างปลอดภัย

ตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสารสนเทศ ตำรวจภูธรภาค 5 จับกุมหนุ่มวัย 22 ปี ชาวเชียงใหม่ ที่โพสต์ข้อความไม่เหมาะสม รู้สึกบ้า เมื่อวานที่โคราช วันนี้น่าจะเชียงใหม่ พร้อมมีภาพอาวุธปืนและเครื่องกระสุน ทำให้ประชาชนเกิดความตกใจกลัว และโพสต์ข้อความเข้าไปเขียนด่าเจ้าตัวจำนวนมาก จนต้องปิดเฟซบุ๊กหนี เจ้าตัวเองยังกลัวไม่มีความปลอดภัย หลังถูกจับกุมรู้สึกผิดและได้ขอโทษต่อสังคมและทุกคน ที่ทำลงไปเพราะเมา ขาดสติ เนื่องจากทวงเงินจากเพื่อนไม่ได้จึงระบาย และไม่คิดว่าเหตุการณ์จะใหญ่โตจนได้รับความเดือดร้อนไปหมด รวมทั้งครอบครัวด้วย รู้สึกสำนึกผิดเป็นอย่างมาก และจะไม่ทำอีก

พันตำรวจเอกธวัชชัย พงศ์วิวัฒน์ชัย รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 บอกว่า เจ้าตัวเองก็สำนึกผิด และยังได้รับผลกระทบไปถึงครอบครัว จนขายของไม่ได้ เนื่องจากมีชาวบ้านไม่พอใจเยอะมาก เจ้าตัวก็สำนึกผิด ไม่อยากให้มีใครทำแบบนี้อีก ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดีหลายข้อหา ทาง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และประชาชนก็ไม่ควรเอาแบบอย่าง ส่วนอาวุธและเครื่องกระสุนที่โพสต์ก็ไม่มีจริง นำเอามาจากโซเซียส และนำมาโพสต์โชว์

นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงกรณีมีบุคคลโพสต์ภาพอาวุธปืนและข้อความในเชิงข่มขู่จะใช้ความรุนแรงในลักษณะเดียวกับคนร้ายก่อเหตุกราดยิงผู้บริสุทธิ์ที่โคราชว่า เป็นการกระทำเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (2) ฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จโดยประการน่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 392 ฐานทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว หรือตกใจ โดยการขู่เข็ญ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และที่สำคัญก็คือการกระทำลักษณะนี้จะกระทบต่อจิตใจของผู้คนในสังคม จึงย่อมต้องได้รับโทษทางสังคมด้วย ดังจะเห็นจากตัวอย่างว่าผู้กระทำบางคนถูกต้นสังกัดหรือนายจ้างมีคำสั่งเลิกจ้างทันที

ดังนั้น จึงขอเตือนให้ผู้ที่คิดจะกระทำการลักษณะนี้หยุดคิด หากมีความขุ่นข้องหมองใจจากเหตุที่ตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรม ไม่ว่าทั้งทางแพ่ง หรือ ทางอาญา สามารถขอรับคำปรึกษาได้จากอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมาย สำนักงานอัยการสูงสุด หรืออัยการจังหวัด โดยอัยการยินดีให้คำปรึกษา แนะนำแนวทางแก้ไขให้ทุกฝ่าย เพื่อไม่ให้ตัวเองกลายเป็นคนทำผิดเสียเอง จนเกิดผลกระทบต่อตัวเองและครอบครัวในที่สุด.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

กทม. 13 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะภาคเหนือ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา น่าน หนองคาย และบึงกาฬ ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 6 เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทยและคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันตอนบน (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 12-13 กรกฎาคม 2568) ในวันที่ 13 กรกฎาคม 2568 ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งโดยเฉพาะภาคเหนือบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา น่าน หนองคาย และบึงกาฬ เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบน ภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคเหนือตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก มีดังนี้ ในวันที่ 13 กรกฎาคม […]

ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ หลังเมียนมาปะทะรุนแรง

ตาก 12 ก.ค. – ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ด่วน พร้อมเฝ้าระวังชายแดนอำเภอพบพระอย่างใกล้ชิด หลังเหตุปะทะในเมียนมาทวีความรุนแรง มีรายงานการโจมตีค่ายทหารเมียนมาด้วยโดรน กองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา ใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีใส่ฐาน “ทีตาแหล่” ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามบ้านวาเล่ย์เหนือ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก หลายครั้ง ขณะที่ทหารเมียนมาก็ยิงปืนเล็กยาวตอบโต้ โดยยังไม่ทราบความเสียหายที่เกิดขึ้น และยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อฝั่งประเทศไทย พลตรีไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร พร้อมคณะนายทหารระดับสูง และฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บริเวณบ้านวาเล่ย์ และบ้านมอเกอร์ไทย อำเภอพบพระ อย่างใกล้ชิด เพื่อประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงในการเตรียมแผนเผชิญเหตุจากผลกระทบของการสู้รบใกล้แนวชายแดนในด้านมนุษยธรรม โดยขณะนี้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาจำนวน 457 คน อาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 2 แห่ง ในอำเภอพบพระ และได้รับการดูแลตามหลักมนุษยธรรมภายใต้ความร่วมมือของศูนย์สั่งการชายแดนประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดตาก และแนวทางของสภาความมั่นคงแห่งชาติ พลตรี ไมตรี เน้นย้ำให้หน่วยเฉพาะกิจราชมนู ร่วมกับฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของกองกำลังติดอาวุธต่างชาติ และดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งกองกำลังนเรศวรยืนยันว่าประเทศไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง และไม่สนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในการใช้พื้นที่ประเทศไทยเพื่อประโยชน์ของตนเอง .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง

กทม. 12 ก.ค.-“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเอี่ยวสีกากอล์ฟ เชื่อพระเป็นเหยื่อ หากไม่เสร็จพร้อมดำเนินการ เผยอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เข้าให้ข้อมูล เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง วันนี้ (12 ก.ค.) หลังจากอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เมื่อเวลา 12.30 น. แต่งกายด้วยชุดโปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าเข้ามาให้ปากคำกรณีที่ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสไม่ตอบ เมื่อถามเพิ่มเติมว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่ อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน จากนั้นในเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยเดินทางขึ้นตึกด้านหลัง ใช้ลิฟต์ลานจอดรถ หลังเดินทางกลับจากวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร โดยหลบผู้สื่อข่าวที่มารออยู่ด้านหน้า และได้สอบปากคำอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ในเวลา 16.20 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ให้สัมภาษณ์ว่าการหารือกับพระผู้ใหญ่ในวันนี้ ก็ถือเป็นการทำงานร่วมกันกับ ปปท. ซึ่งมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ […]