ผู้ว่าฯ โคราช มอบเงินเยียวยาผู้บาดเจ็บ-ครอบครัวผู้เสียชีวิตเหตุกราดยิง

ภูมิภาค 12 ก.พ. –  ผู้ว่าฯ โคราช มอบเงินเยียวยาก้อนแรกให้ผู้บาดเจ็บและครอบครัวผู้เสียชีวิตเหตุกราดยิงโคราช ตั้งเป้าหากยอดบริจาคถึง 50 ล้านบาท จะมอบให้ผู้เสียชีวิตรายละ 1 ล้านบาท ด้านสมาคมผู้ประกอบการรักษาความปลอดภัยฯ เร่งผลักดันกฎหมาย รปภ. เพิ่มการช่วยเหลือและสวัสดิการ

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจ โดยให้ตนเป็นประธาน นำเงินจากคณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยไปช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุกราดยิงที่ จ.นครราชสีมา ทั้ง 2 กลุ่ม คือ เจ้าหน้าที่ของรัฐ และประชาชนทั่วไป ภายใต้หลักเกณฑ์ 4 ข้อคือ เสียชีวิต, บาดเจ็บสาหัส, บาดเจ็บไม่สาหัส และได้รับผลกระทบทางด้านจิตใจ รวมถึงจะพิจารณาความเสียหายของทรัพย์สินต่างๆ ด้วย โดยจะนำมาหารือในรายละเอียดอีกครั้ง โดยการให้ความช่วยเหลือดังกล่าวเป็นไปตามกฎหมาย 2 ฉบับ คือการสงเคราะห์ผู้ประสบภัยของกระทรวงการคลัง และกฎหมายการช่วยเหลือผู้เสียหายของกระทรวงยุติธรรม ซึ่งเป็นเงินช่วยเหลือที่ไม่มากนัก และยังมีระเบียบของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ที่จะช่วยในลักษณะการไปเยี่ยม นำจิตแพทย์และแพทย์ไปดูแลทุกเดือน


หากผู้ได้รับผลกระทบเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจะมีกฎระเบียบแยกต่างหาก เช่น หากเสียชีวิต ได้รับเงินเดือนทวีคูณ 7 เท่า เลื่อนชั้นยศ รับบุตร 1 คน เข้ารับราชการโดยไม่มีเงื่อนไข ซึ่งรัฐบาลมองว่าความสูญเสียที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เกิดขึ้นทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและผู้บริสุทธิ์ จึงต้องเยียวยาให้สมน้ำสมเนื้อ โดยอาจเทียบเท่ากับวงเงินที่เคยชดเชยให้ในเหตุการณ์ราชประสงค์ รายละ 1 ล้านบาท แต่ยังต้องรอการพิจารณาจากคณะกรรมการอย่างละเอียดอีกครั้ง คาดจะได้รับความชัดเจนเร็วๆ นี้

ด้านนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นำเงิน 1 ล้านบาท มอบผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ พร้อมทั้งเป็นตัวแทนรัฐบาลกล่าวแสดงความเสียใจและให้กำลังใจผู้เกี่ยวข้อง พร้อมย้ำทุกภาคส่วนเร่งฟื้นฟูเยียวยาเพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กลับคืนมาเร็วที่สุด

ในจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บ 58 คน จากเหตุการณ์กราดยิงในพื้นที่โคราช ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 23 คน มีเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ เข้าเยี่ยมปลอบขวัญทุกวัน ส่วนอีก 35 คน ที่ออกจากโรงพยาบาลแล้ว วันนี้นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้สั่งการให้เหล่ากาชาดจังหวัดไปเยี่ยมมอบเงินช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บทุกคน น้องคนนี้เป็นนักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนบุญวัฒนา ชื่อนายณโชติ โชติกลาง หลังเลิกเรียนแม่ขับรถไปรับ ระหว่างขับผ่านบริเวณวัดป่าศรัทธารวม สังเกตเห็นคนร้ายลงจากรถจิ๊บทหารมาก่อเหตุ ยิงถูกนางนริศรา โชติกลาง แม่ของตัวเองจนเสียชีวิต รถเสียหลักชนต้นไม้ ตัวเองที่นั่งอยู่ด้านหลัง มีอาการบาดเจ็บจากสะเก็ดลูกปืนบริเวณด้านหลัง ต้องนอนโรงพยาบาลถึง 4 วัน

ขณะที่สามีภรรยาชาวชุมชนบึงพญาปราบ ตำบลบ้านเกาะ อำเภอเมืองนครราชสีมา คู่นี้ประสบเหตุขณะขับรถผ่านหน้าห้างเทอร์มินอล 21 สังเกตเห็นคนนอนจมกองเลือด ได้ยินเสียงปืนรัว รถของตัวเองถูกยิง จึงจอดริมทางตรวจสอบ ระหว่างนั้นได้ยินเสียงปืนรัวขึ้นมาอีกชุด จึงรีบขึ้นรถขับออกไป ภรรยาซึ่งกำลังตั้งครรภ์ 8 เดือน รู้สึกเจ็บตรงท้ายทอย จึงให้หมอเอกซเรย์ แล้วรับยากลับไปทานที่บ้าน โดยนอกจากพบรอยกระสุนตรงกระจกประตูหลังด้านซ้ายแล้ว ยังพบรอยกระสุนทะลุมาโผล่ตรงที่รองศีรษะเบาะนั่งข้างคนขับด้วย ส่วนผู้บาดเจ็บบางรายกลับไปทำงานที่กรุงเทพฯ แล้ว เจ้าหน้าที่จึงมอบเงินช่วยเหลือให้ญาติแทน        

ขณะที่กองทุนช่วยเหลือผู้ประสบเหตุเทอร์มินอล 21 มีผู้บริจาคเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดยอดเงินพุ่งสูงกว่า 38 ล้านบาท โดยวันนี้นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้นำเงินสดไปมอบแก่ผู้บาดเจ็บที่ยังรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และโรงพยาบาลต่างๆ รวม 23 ราย รายละ 100,000 บาท พร้อมทั้งมอบเงินเยียวยาแก่ญาติผู้เสียชีวิตอีก 19 ราย  รายละ 300,000 บาท เพื่อนำไปช่วยเป็นค่าใช้จ่ายจัดงานฌาปนกิจศพ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดได้แสดงความขอบคุณน้ำใจไปยังคนไทยทั้งในและต่างประเทศ ที่ช่วยเหลือกันในยามทุกข์ยาก ตอนนี้ยังขอเปิดรับบริจาคต่อไป ตั้งเป้าหากยอดเงินถึง 50 ล้านบาท จะพิจารณาร่วมกันว่าจะจ่ายเงินให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตรายละ 1 ล้านบาท เพื่อเยียวยาความสูญเสีย ย้ำเงินบริจาคจะถูกนำไปช่วยเหลือเหยื่อจากเหตุการณ์ครั้งนี้ทั้งหมด


นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้เข้ามอบเงินเยียวยาจำนวน 11,000 บาท  ให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุกราดยิงที่โคราช คือนายอธิวัฒน์ พรมสุข หรือเดียร์ อายุ 18 ปี นักศึกษา ปวช.ปี 3 วิทยาลัยเทคนิคนครราชสีมา และนายวันชัย เวชวรรณ์ หรือใหญ่ อายุ 41 ปี หัวหน้าพนักงานคาร์แคร์ ในห้างเทอร์มินอล 21 โดยในส่วนของนายวันชัย ยังได้เงินจากสำนักงานประกันสังคมอีก 52,085.46 บาท

ด้านสมาคมผู้ประกอบการรักษาความปลอดภัยแห่งประเทศไทยได้มอบเงินให้กับครอบครัว รปภ. ที่เสียชีวิต และบาดเจ็บ โดยมองว่า  รปภ. เป็นอาชีพที่มีความเสี่ยง เป็นด่านแรกในการเผชิญเหตุ ควรมีสวัสดิการและการตั้งกองทุนดูแลช่วยเหลือให้ชัดเจนกว่านี้ ซึ่งจะเร่งผลักดันให้เพิ่มสาระของกฎหมายในส่วนนี้เข้าสภาโดยเร็ว

ในความสูญเสียจากเหตุกราดยิงที่โคราช ก็ยังมีเรื่องราวน่าประทับใจเกิดขึ้น ผู้ใช้เฟซบุ๊กบัญชี “supavadee klangsoonneon” ได้โพสต์ภาพและข้อความระบุว่า “วันนี้เพื่อนเข้าไปเก็บร้าน เพื่อนถ่ายมาให้ดู เห็นภาพกลั้นน้ำตาไม่อยู่จริงๆ ยังมีความรักอยู่ในเพื่อนมนุษย์ ยังมีความเห็นใจกัน เราแค่คิด ให้เจ้าหน้าที่ทานไปเลยนะ นี่พี่เขาวางเงินไว้ ขอบคุณที่ทำให้รู้ว่า ในความเลวร้าย ยังมีเรื่องราวดีๆ ให้จดจำ รักเลย” พร้อมอีโมจิรูปหัวใจสองดวง เมื่อภาพนี้ถูกแชร์ออกไปชาวโซเชียลต่างให้ความเห็นว่าอดยิ้มตามไม่ได้ ถึงแม้จะอยู่ในภารกิจที่เสี่ยงอันตราย แต่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการก็ยังมีศีลธรรม

ส่วนหนึ่งเรื่องราวดีๆ ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Apichai Teh ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษภาค 3 ได้ออกมาโพสต์รับว่า ทีมเจ้าหน้าที่ได้แอบหยิบชมพู่ของร้านค้าในชั้น G เพื่อรองท้องระหว่างปฏิบัติภารกิจ “เจ้าหน้าที่ทุกนายที่อยู่ข้างในวันนั้น ไม่มีน้ำ ไม่มีข้าว ไม่มีเวลาจะเตรียมตัว แต่กองทัพต้องเดินด้วยท้อง พวกเราขออาศัยที่พึ่งจากร้านพี่ๆ ป้าๆ เหล่านี้ล่ะครับ พอได้มีแรงสู้ต่อ” ด้านเเม่ค้าร้านชมพู่ ซึ่งคือผู้ใช้เฟสบุ๊ก “พลอย. วัชราภรณ์” ได้ออกมาตอบกลับโพสต์ของเจ้าหน้าที่ทันที เพื่อปฏิเสธรับเงินเ เละขอขอบคุณที่ช่วยชีวิตตนเองเเละครอบครัวให้หนีออกมาจากห้างฯ ได้อย่างปลอดภัย

ตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสารสนเทศ ตำรวจภูธรภาค 5 จับกุมหนุ่มวัย 22 ปี ชาวเชียงใหม่ ที่โพสต์ข้อความไม่เหมาะสม รู้สึกบ้า เมื่อวานที่โคราช วันนี้น่าจะเชียงใหม่ พร้อมมีภาพอาวุธปืนและเครื่องกระสุน ทำให้ประชาชนเกิดความตกใจกลัว และโพสต์ข้อความเข้าไปเขียนด่าเจ้าตัวจำนวนมาก จนต้องปิดเฟซบุ๊กหนี เจ้าตัวเองยังกลัวไม่มีความปลอดภัย หลังถูกจับกุมรู้สึกผิดและได้ขอโทษต่อสังคมและทุกคน ที่ทำลงไปเพราะเมา ขาดสติ เนื่องจากทวงเงินจากเพื่อนไม่ได้จึงระบาย และไม่คิดว่าเหตุการณ์จะใหญ่โตจนได้รับความเดือดร้อนไปหมด รวมทั้งครอบครัวด้วย รู้สึกสำนึกผิดเป็นอย่างมาก และจะไม่ทำอีก

พันตำรวจเอกธวัชชัย พงศ์วิวัฒน์ชัย รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 บอกว่า เจ้าตัวเองก็สำนึกผิด และยังได้รับผลกระทบไปถึงครอบครัว จนขายของไม่ได้ เนื่องจากมีชาวบ้านไม่พอใจเยอะมาก เจ้าตัวก็สำนึกผิด ไม่อยากให้มีใครทำแบบนี้อีก ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดีหลายข้อหา ทาง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และประชาชนก็ไม่ควรเอาแบบอย่าง ส่วนอาวุธและเครื่องกระสุนที่โพสต์ก็ไม่มีจริง นำเอามาจากโซเซียส และนำมาโพสต์โชว์

นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงกรณีมีบุคคลโพสต์ภาพอาวุธปืนและข้อความในเชิงข่มขู่จะใช้ความรุนแรงในลักษณะเดียวกับคนร้ายก่อเหตุกราดยิงผู้บริสุทธิ์ที่โคราชว่า เป็นการกระทำเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (2) ฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จโดยประการน่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 392 ฐานทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว หรือตกใจ โดยการขู่เข็ญ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และที่สำคัญก็คือการกระทำลักษณะนี้จะกระทบต่อจิตใจของผู้คนในสังคม จึงย่อมต้องได้รับโทษทางสังคมด้วย ดังจะเห็นจากตัวอย่างว่าผู้กระทำบางคนถูกต้นสังกัดหรือนายจ้างมีคำสั่งเลิกจ้างทันที

ดังนั้น จึงขอเตือนให้ผู้ที่คิดจะกระทำการลักษณะนี้หยุดคิด หากมีความขุ่นข้องหมองใจจากเหตุที่ตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรม ไม่ว่าทั้งทางแพ่ง หรือ ทางอาญา สามารถขอรับคำปรึกษาได้จากอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมาย สำนักงานอัยการสูงสุด หรืออัยการจังหวัด โดยอัยการยินดีให้คำปรึกษา แนะนำแนวทางแก้ไขให้ทุกฝ่าย เพื่อไม่ให้ตัวเองกลายเป็นคนทำผิดเสียเอง จนเกิดผลกระทบต่อตัวเองและครอบครัวในที่สุด.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

ดีอีเร่งปลดล็อกระงับบัญชีที่ไม่เกี่ยวกับบัญชีม้า

กรุงเทพฯ 14 ก.ย. – ดีอีเร่งปลดล็อกระงับบัญชีธนาคารชั่วคราวให้ประชาชนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบัญชีม้า แจงระงับจำนวนเงินเฉพาะที่โอนออกไปจากบัญชีต้องสงสัยเท่านั้น ไม่ได้ระงับทั้งบัญชี ยังคงทำธุรกรรมได้ปกติ ส่วนบัญชีม้าจะไม่ปลดล็อกเด็ดขาด พร้อมแจงการอายัดบัญชีทำได้เฉพาะกรณีที่มีหมายจากตำรวจเท่านั้น ศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นประธานการประชุมการดำเนินมาตรการเพิกถอนการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราวในบัญชีที่อาจมีความเกี่ยวข้องกับบัญชีม้าของมิจฉาชีพ ซึ่งเป็นผลมาจากการบังคับใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สมาคมธนาคารไทย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ เปิดเผยว่า ตามที่มีกรณีประชาชนได้รับผลกระทบจากการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราว ซึ่งเป็นมาตรการในการตรวจสอบและปิดกั้นบัญชีม้าของมิจฉาชีพ เพื่อติดตามเส้นทางการเงิน และนำเงินจากการก่ออาชญากรรมออนไลน์ของมิจฉาชีพกลับคืนมาให้กับผู้เสียหาย เป็นกลไกตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ตามมาตรา 6 และมาตรา 7 ซึ่งธนาคารมีหน้าที่ในการระงับการทำธุรกรรมทางการเงินเป็นการชั่วคราว โดยจะมีการระงับจำนวนเงินเฉพาะที่โอนออกไปจากบัญชีต้องสงสัยเท่านั้น ไม่ได้ระงับทั้งบัญชีแต่อย่างใด ซึ่งบัญชีธนาคารนั้นยังคงสามารถทำธุรกรรมได้อยู่ตามปกติ ในส่วนของการอายัดบัญชีเป็นกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการอายัดบัญชี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา โดยมีหมายอายัดเท่านั้น ทั้งนี้ […]

จนท.ห้ามล่าสัตว์ป่า หายตัวปริศนา 3 วัน หลังไปขายลอตเตอรี่

อุทัยธานี 14 ก.ย.- แม่เศร้าลูกชาย ซึ่งเป็น จนท.เขตห้ามล่าสัตว์ป่าห้วยทับเสลา หายตัวปริศนา 3 วัน หลังออกเวรไปเร่ขายลอตเตอรี่ แต่จนถึงขณะนี้ ยังติดต่อไม่ได้ นางจำรัส อายุ 57 ปี ชาวบ้านบึงเจริญ หมู่ 9 ตำบลระบำ อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี นำเบาะแส เป็นภาพจากกล้องวงจรปิด มอบให้สื่อมวลชน ช่วยเป็นกระบอกเสียง ในการตามหาลูกชาย คือนายเอกฉัตร อายุ 39 ปี ลูกจ้าง เจ้าหน้าที่ห้ามล่าสัตว์ป่าห้วยทับเสลา ต.ระบำ อำเภอลานสัก จ.อุทัยธานี หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยนาน 3 วัน โดยภาพวงจรปิดเมื่อวันที่ 7 กันยายน นายเอกฉัตรนำแผงลอตเตอรี่มาขาย ที่ร้านของชำของแม่ ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์ สีแดงออกไป กระทั่งล่าสุด วันที่ 11 กันยายน กล้องอีกจุดจับภาพนายเอกฉัตร ขี่รถจักรยานยนต์ สีเขียว ทะเบียน 1ขอ […]

ทลายแก๊งเงินกู้ดอกเบี้ยโหด ร้อยละ 600 ต่อปี

14 ก.ย.- ตำรวจสอบสวนกลาง ทลายแก๊งเงินกู้ดอกเบี้ยโหด ร้อยละ 600 ต่อปี พบเงินหมุนเวียนในระบบกว่า 30 ล้านบาท ตำรวจสอบสวนกลาง บุกจับนายณัฐพงษ์ อายุ 36 ปี นายวิเนตร อายุ 28 ปี และนายธีรวุฒิ อายุ 34 ปี ที่อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ข้อหาร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อโดยไม่ได้รับอนุญาต และเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด พร้อมของกลางหลายรายการ หลังมีพลเมืองดีแจ้งเบาะแสเครือข่ายเงินกู้นอกระบบเก็บดอกเบี้ยถึงร้อยละ 626.25 ต่อปี กลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจรายย่อย ที่ขาดสภาพคล่องทางการเงิน และไม่สามารถเข้าถึงแหล่งทุนถูกกฎหมายได้ ผู้กู้ไม่ต้องใช้หลักฐานยืนยันตัวตนไม่ต้องใช้คนค้ำประกัน โอนเงินให้ผู้กู้ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง ไปบัญชีธนาคารของผู้กู้ โดยหักยอดเงินกู้เป็นดอกเบี้ยงวดแรก และงวดสุดท้ายไว้ก่อน หากผิดนัดชำระหนี้ ก็จะไประรานลูกหนี้อย่างไม่เกรงกลัวกฏหมาย. -สำนักข่าวไทย

ปชช.ตื่นตัวใช้สิทธิเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย กกต.คาดรู้ผลก่อน 3 ทุ่ม

เชียงราย 14 ก.ย.- กกต. คาดผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย 65% เหตุอากาศเป็นใจ พบประชาชนตื่นตัวมารอใช้สิทธิแต่เช้า รู้ผลก่อน 3 ทุ่มคืนนี้ นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง เปิดเผยถึงการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมความพร้อมการเลือกตั้งซ่อม สส.เขต 7 จังหวัดเชียงราย ว่า ภาพรวมเป็นไปด้วยความคึกคัก มีประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งมารอใช้สิทธิทั้ง 2 หน่วยภายในโรงเรียนบ้านสบคา ซึ่งวันนี้สภาพอากาศเป็นใจท้องฟ้าปลอดโปร่ง หากเป็นไปเช่นนี้จะมีส่วนทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งมากยิ่งขึ้น ถือเป็นเรื่องที่ดีที่อากาศเอื้ออำนวยในการออกเสียงเลือกตั้งวันนี้ ซึ่งมีตั้งเป้าจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งร้อยละ 65 แม้จะเป็นงานยาก เพราะมีเงื่อนไขในเรื่องของกำหนดเวลายุบสภา แต่ด้วยความร่วมมือของทั้งพรรคการเมืองและผู้สมัคร และทางจังหวัดเชียงราย กกต.จังหวัดเชียงราย คาดว่าตัวเลขผู้ออกมาใช้สิทธิจะใกล้เคียงเป้าที่ได้ตั้งเป้าไว้ สำหรับรายงานผล เมื่อปิดหน่วยในเวลา 17.00 น. กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งจะมีการตรวจบัตรและนับคะแนน คาดว่าจะทราบผลอย่างไม่เป็นทางการในเวลาประมาณ 20.00 – 21.00 น. ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้เชิญชวนประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยระบุว่าวันนี้เป็นวันสำคัญของชาวจังหวัดเชียงราย และเลขา กกต.ได้มาตรวจเยี่ยมการเลือกตั้งซ่อม สส.เขตเลือกตั้งที่ 7 พร้อมเชิญชวนประชาชนชาวจังหวัดเชียงราย ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง เพราะเป็นหน้าที่ เลือกคนดีเข้าสภาเป็นหน้าที่ของชาวจังหวัดเชียงราย […]